Skip to main content
sharethis

ชายเจ้าของร้านอาหารในเชียงใหม่ร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมติดตามภรรยาที่หายตัวไปตั้งแต่มิถุนายน 63 หลังเคยร้องเรียนกรณีตำรวจสภ.แม่อาย 5 นายคุมตัวภรรยาและลูกของตนเพื่อเรียกเงิน 5 แสนบาทเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย

วานนี้(12 ม.ค.2564) เว็บไซต์ สถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สปยธ.) รายงานว่า ที่กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ ฐานะพล เสาวคนธ์ เจ้าของร้านอาหารใน จ.เชียงใหม่เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมและตามหาพิมพ์ชนก นายประทุม ภรรยาของตนหายตัวไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และยังไม่พบตัวจนถึงขณะนี้ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากตนและภรรยาเคยร้องเรียนกรณีพิมพ์ชนกถูกตำรวจ สภ.แม่อาย 5 นาย เรียกเงิน 3 แสนบาทเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จนถูกดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ

ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ

สปยธ.รายงานอีกว่า ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(สมศักดิ์ เทพสุทิน) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธัญญะ ระย้า ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองพยาน และ พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนจากฐานะพล

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อช่วงเดือน ก.พ. 63 ผู้เสียหายและภรรยา คือ น.ส.(นามสกุล) เดินทางกลับจากไปทำธุระที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีตำรวจ 7 นายตั้งด่านกรรโชกทรัพย์จำนวน 300,000 บาท เพราะภรรยาเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีบัตรประชาชน ต่อมาเดือน มิ.ย. 63 ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อเอาผิดตำรวจชุดดังกล่าว โดยนำสลิปการโอนเงินมอบไว้เป็นหลักฐานและมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 5 นายออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนอีก 2 นายอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบ รวมทั้งแจ้งความที่ สภ.แม่อาย เอาผิดต่อตำรวจในข้อหารีดไถเงิน นอกจากนี้ ตำรวจชุดดังกล่าวกลับไปแจ้งความผู้เสียหายและภรรยาคืนฐานแจ้งความเท็จที่ สภ.แม่ปิง

“ผู้เสียหายได้ร้องเรียนผ่านยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือทางคดี เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการดูแลตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือน มิ.ย. 63 ภรรยาผู้เสียหายได้ออกจากบ้านพักเพื่อไปเยี่ยมน้องสาวที่อยู่ต่างอำเภอ จากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกและสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือน้องสาวภรรยาเท่านั้น” เลขานุการรมว.ยุติธรรม กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ธัญญะ กล่าวว่า สำนักงานคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้ช่วยเหลือผู้เสียหายและภรรยาในการคุ้มครองพยาน เพราะไม่กล้าเดินทางไปสอบปากคำที่ สภ.แม่อาย กลัวเรื่องความปลอดภัยจากตำรวจคู่กรณี จึงประสานใช้สถานที่ส่วนกลางให้ถ้อยคำ ซึ่งสำนักงานคุ้มครองพยานโทรศัพท์ติดต่อผ่านมือถือน้องสาวภรรยาหลังไปเยี่ยมน้องสาวตั้งแต่เดือน มิ.ย. 63 แต่เจ้าตัวไม่เคยเดินทางมาตามนัดหมายเลย กระทั่งติดต่อครั้งสุดท้ายได้เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 63 แต่ต้องพิสูจน์ยืนยันอีกครั้ง

ส่วน พ.ต.อ.อัครพล กล่าวว่า ดีเอสไอจะดำเนินการตรวจสอบกรณีบุคคลสูญหาย และออกเลขสืบคดีหาสาเหตุจูงใจเพราะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน

ขณะที่ฐานะพล กล่าวว่า อยากให้ดีเอสไอรับคดีสอบสวนตำรวจทั้งหมดว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของภรรยาตนหรือไม่ เพราะขณะนี้ได้หายตัวไปผิดปกติโดยไม่รู้ชะตากรรม รวมทั้งสืบหาตัวภรรยาตนด้วยว่ามีชีวิตอยู่หรือไม่

ช่องวัน 31 เคยรายงานไว้เมื่อ 11 มี.ค.2563 ว่า หลังจากฐานะพลและพิมพ์ชนกร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมตำรวจที่รีดไถพิมพ์ชนกพร้อมลูกชายแล้วเรียกเงินจำนวน 500,000 บาทเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีบัตรประจำตัว ซึ่งภายหลังต่อรองจนเหลือจ่าย 300,000 บาทจึงได้รับการปล่อยตัวนั้น

ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้าราชการตำรวจเพื่อสอบสวนกรณีดังกล่าว โดยคณะกรรมการเป็นตำรวจภูธรเชียงใหม่ 2 นาย พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ เป็นประธาน พ.ต.อ.สมพร ปานพรหม ผกก.สอบสวน ตำรวจภูธรเชียงใหม่เป็นรองประธาน และเป็นตำรวจใน สภ.แม่อาย 3 นายเป็นกรรมการ ได้แก่ พ.ต.ท.สนิท มาลา รอง ผกก.สอบสวน  ร.ต.อ.ณรงค์ชัย อนาวัน รองสารวัตรสอบสวน ร.ต.ท.ธีรวัฒน์ มณีวงค์ รองสารวัตรสอบสวน ซึ่งเป็นตำรวจท้องที่เดียวกับตำรวจ 5 นายที่ก่อเหตุรีดไถ

ในรายงานของช่องวัน ระบุชื่อของตำรวจที่ก่อเหตุทั้ง 5 นายไว้ได้แก่ ร.ต.อ.นราธิป หลิ่งห้า รองสารวัตรปราบปราบ สภ.ไชยปรากการ ช่วยราชการ สภ.แม่อาย, ด.ต.เจริญ ชัยนา ผู้บังคับหมู่ สภ.แม่อาย, จ.ส.ต.วิทยา สุรินต๊ะ ผู้บังคับหมู่ สภ.แม่อาย, ส.ต.อ.ศราวุธ ปันชัย ผู้บังคับหมู่ สภ.แม่อาย, ส.ต.ต.ทักษิณ ศรีวิชัย ผู้บังคับหมู่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ช่วยราชการ สภ.แม่อาย โดยตั้ง5 คน ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยต้องหาคดีอาญาฐาน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง กรรโชกทรัพย์ พิมพ์ชนก

หลังจากนั้นผู้จัดการออนไลน์รายงานว่าเมื่อ 13 พ.ค.2563  ฐานะพล เสาวคนธ์ พร้อมภรรยาได้ถือป้ายข้อความเรียกร้องเพื่อทวงเงินที่ถูกเอาไปคืนที่หน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่เพื่อติตตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว แม้ว่าจะมีคนเสนอเงินจำนวน 1,500,000 บาท เพื่อให้ฐานะพลและพิมพ์ชนกกลับคำให้การแต่ก็ไม่ได้รับเงินนั้นไว้และยังเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับตำรวจเพิ่มอีก 2 นายที่ร่วมก่อเหตุด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net