Skip to main content
sharethis

ผลพวงจากกรณีการจลาจลที่อาคารสภาสหรัฐฯ สัปดาห์ก่อน ทำให้รัฐสภาสหรัฐฯ โหวตลงมติฟ้องขับโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยคะแนน 232 ต่อ 197 ซึ่งพรรครีพับลิกัน 10 รายโหวตหนุนการฟ้องขับทรัมป์ในข้อหา 'ยุยงปลุกปั่นให้เกิดจลาจล' ด้วย นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ทรัมป์ถูกฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่ง ในช่วงที่ไบเดนกำลังจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในอีกไม่นานนี้

14 ม.ค. 2564 ในรัฐสภาสหรัฐฯ มีการโหวตฟ้องขับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งอีกครั้ง หลังจากที่มีเหตุการณ์ประท้วงบุกรุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาซึ่งมีการกล่าวหาทรัมป์ว่าทำการ "ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจล" ซึ่งมี ส.ส. จากพรรคเดโมแครตทั้งหมดลงคะแนนสนับสนุนการฟ้องร้องในครั้งนี้และมี ส.ส. พรรครีพับลิกัน 10 รายที่โหวตสนับสนุนทำให้คะแนนโหวตอยู่ที่ 232 ต่อ 197 คะแนน ทำให้มีการส่งเรื่องนี้ให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ

หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่มีกลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่พอใจผลการเลือกตั้งล่าสุดของสหรัฐฯ ปิดล้อมและบุกอาคารรัฐสภาข่มขู่คุกคาม ส.ส. ทำให้มีการลงคะแนนโหวตในรัฐสภาเพื่อฟ้องขับทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะมีการสาบานตอนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของ โจ ไบเดน ผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีคนล่าสุดจากพรรคเดโมแครต

นอกจากพรรคเดโมแครตจะทำการโหวตลงมติสนับสนุนการฟ้องขับทรัมป์อย่างเป็นเอกฉันท์แล้ว ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่ามี ส.ส. พรรครีพับลิกัน 10 รายที่โหวตสนับสนุนการฟ้องขับทรัมป์ออกจากตำแหน่งด้วย สื่อวิทยุกระจายเสียงสาธารณะตั้งข้อสังเกตว่า ส.ส.รีพับลิกันที่โหวตสนับสนุนการฟ้องขับทรัมป์มาจากหลากหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ บางส่วนเป็น ส.ส. ในพื้นที่ๆ ทรัมป์ชนะคะแนนอย่างท่วมท้นในปี 2563 บ้างก็มาจากสถานที่ๆ พรรครีพับลิกันทำคะแนนได้กลางๆ ส.ส. เหล่านี้มองว่าทรัมป์กระทำเกินไปในกรณีการปลุกปั่นให้คนก่อจลาจลและมองเรื่องความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวเป็นปัจจัยในการตัดสินใจฟ้องขับออกจากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตามตัวเลข 10 คนนี้ก็ไม่ได้มากพอจะทำให้มองได้ว่าสองพรรคลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์และ ส.ส.รีพับลิกันส่วนใหญ่ก็ยังคงเข้าข้างทรัมป์และกลุ่มที่สนับสนุนทรัมป์อย่างเหนียวแน่น แต่ในขณะเดียวกันตัวเลข 10 คนนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่ ส.ส. จากพรรคเดียวกันเอง

เรื่องนี้ยังถูกมองเป็นประเด็นที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในโลกการเมืองในอีกหลายแง่ NPR ระบุว่าการโหวตในครั้งนี้ทำให้ทรัมป์เป้นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกโหวตฟ้องขับออกจากตำแหน่งถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าพรรครีพับลิกันมีความขัดแย้งภายในพรรคและมีโอกาสที่ความขัดแย้งนี้จะขยายตัวมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปถึงแม้ว่าฐานเสียงที่สนับสนุนทรัมป์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ขณะเดียวกันการพยายามฟ้องขับทรัมป์ในครั้งที่สองนี้ก็ส่งผลต่อว่าทีประธานาธิบดีอย่างไบเดนเองด้วย จากการที่ฝ่ายสนับสนุนไบเดนกังวลว่าการยื่นเรื่องฟ้องขับทรัมป์อาจจะเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อความสามารถในการที่ไบเดนจะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาในประเด็นอื่นๆ ที่มีความสำคัญกว่าในตอนนี้เช่นเรื่องการบรรเทาทุกข์จากวิกฤต COVID-19

ทั้งนี้เหตุการณ์จลาจลในวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมายังทำให้อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เปลี่ยนไปตลอดกาล จากระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงสัญลักษณ์จากการที่อาคารรัฐสภาเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานทัศนศึกษาของนักเรียนในฐานะสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย แต่ในตอนนี้ท่ามกลางเศษกระจกที่ถูกทุบและหน่วยป้องกันด้านความมั่นคงที่นอนกอดอาวุธบนพื้นหินอ่อนก็เปลี่ยนภาพลักษณ์ของอาคารรัฐสภาให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงให้เห็นว่าโวหารทางการเมืองจุดชนวนให้ผู้คนก่อเหตุจลาจลต่อฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไร

เรียบเรียงจาก

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net