ตำรวจนอกเครื่องแบบนำหมายค้นของศาลจังหวัดลำปางเข้าตรวจค้นบ้านพักของนักศึกษาและที่สำนักงานของคณะก้าวหน้าจังหวัดลำปาง พร้อมมีหมายเรียกคดีม.112 ออกอีก 5 คน ศูนย์ทนายฯ รายงานล่าสุด ยอดรวม 54 คน 39 คดี

เมื่อวานนี้ (18 ม.ค. 2564) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ตำรวจนอกเครื่องแบบมีหมายค้นสำนักงานคณะก้าวหน้า ลำปาง และบ้านของนักศึกษาอีก 2 หลังโดยไม่ได้ระบุว่าชัดเจนว่าการเข้าตรวจค้นเกี่ยวข้องกับคดีใดอย่างชัดเจน มีการระบุเพียงกว้างๆ ว่า “เพื่อพบและยึดสิ่งของ ซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน หรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด”

ภาพขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าตรวจค้นสำนักงานของคณะก้าวหน้าจังหวัดลำปาง ภาพจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

นอกจากนั้นหมายค้นยังมีการระบุบ้านเลขที่ของสำนักงานผิดทำให้เจ้าของสถานที่ทักท้วง ตำรวจจึงขอกลับไปแก้ไขก่อนกลับมาตรวจค้นอีกรอบ โดยให้ตำรวจนอกเครื่องแบบที่เหลือเฝ้าสถานที่ไว้ จากการตรวจค้นยึด แผ่นป้ายไวนิล, ถังสีแดงและเหลือง, ขวดน้ำพลาสติกตัดครึ่งที่ใช้ผสมสี, แปรงทาสี และเชือกฟาง จำนวน 7 รายการ พร้อมจัดทำบันทึกการตรวจยึดสิ่งของเหล่านั้นไว้

ทั้งนี้ ทางตำรวจระบุว่ายังมีหมายค้นอีกจำนวน 2 หมาย ซึ่งสถานที่จะถูกค้นอีก 2 แห่ง เป็นบ้านพักของวรรณพร หุตะโกวิท บัณฑิตที่จบการศึกษาจากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และภัทรกันย์ แข่งขัน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ซึ่งทั้ง 2 คนได้อยู่ที่สำนักงานของคณะก้าวหน้าจังหวัดลำปางขณะที่มีความพยายามเข้าตรวจค้น แต่หมายค้นของวรรณพร ก็มีการระบุเลขที่บ้านผิดพลาดเช่นกัน ทางตำรวจจึงไม่ได้เดินทางไปค้นแต่อย่างใด

ส่วนหมายค้นบ้านพักของภัทรกันย์นั้นระบุเลขที่บ้านถูกต้อง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจค้นตามหมาย ภัทรกันย์พร้อมด้วยเพื่อนๆ จึงได้อาศัยรถของตำรวจเดินทางไปยังบ้านพักของตน หลังการเข้าตรวจค้น ทางตำรวจไม่พบวัตถุต้องสงสัยหรือสิ่งใดที่มีไว้เป็นความผิดแต่อย่างใด

จากนั้นทางตำรวจได้ส่งหมายเรียกตัวผู้ต้องหาในความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ให้กับ ภัทรกันย์ แข่งขัน, วรรณพร หุตะโกวิท, พินิจ ทองคำ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และตำรวจยังแจ้งว่ายังมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการส่งหมายเรียกให้ผู้ต้องหา จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดจึงได้เดินทางกลับไป

ในหมายเรียกระบุว่าออกโดยสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง โดยมี ร.ต.อ.วิเชียร ดอนชาไพร เป็นผู้กล่าวหา และให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 25 ม.ค. 64 เวลา 9.00 น.

ด้านนักศึกษาทั้ง 4 ราย ที่ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาดังกล่าว คาดว่าเหตุในคดีมาตรา 112 ที่พวกเขาถูกกล่าวหานั้น มาจากป้ายข้อความว่า “งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID19” ซึ่งถูกแขวนในจังหวัดลำปางตั้งแต่เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 63 แต่เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้รายละเอียดเหตุในคดี อีกทั้งในเอกสารหมายค้นและหมายเรียกผู้ต้องหาก็ไม่ได้ระบุพฤติการณ์ที่พวกเขาถูกกล่าวหา จึงยังไม่ทราบอย่างชัดเจน จนกว่าจะได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวนสภ.เมืองลำปางต่อไป

ล่าสุดผู้ต้องหาคดีม.112 มี 54 คนแล้ว

ศูนย์ทนายความฯ ยังรายงานยอดผู้ที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ตั้งแต่ 24 พ.ย.2563 ถึง 19 ม.ค.2564 ว่ามีถึง 54 คน 39 คดีแล้ว

จากคดีทั้งหมด 39 คดี มีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บก.ปอท.แล้วทั้งหมด 8 คดี โดย 2 ใน 8 มีผู้กล่าวหาเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

สัปดาห์ที่ผ่านมา พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ได้รับหมายเรียกเพิ่มถึง 3 คดี ทำให้ขณะนี้เขามีคดีตามมาตรา 112 มากถึง 15 คดี และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้งก็ได้เพิ่มอีก 2 หมายรวมเป็น 8 คดีแล้ว

นอกจากนั้นยังมีบุคคลที่ศูนย์ทนายความฯ รายงานว่าเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กอีก 1 คน ที่ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน แต่เป็นคดีที่ดีอีเอสเป็นผู้กล่าวหาให้บก.ปอท.ดำเนินการ