องค์กรยุวชนมุสลิมออสเตรีย (MJO) ยื่นฟ้องร้องต่อกรณีการทำ "แผนที่อิสลามทางการเมือง" ชี้เป็นการกระทำที่ "ตีตราชาวมุสลิมว่าเป็นคนที่อาจจะก่ออันตราย" นอกจากกลุ่มชาวมุสลิมแล้ว พรรคกรีนของออสเตรียและกลุ่มคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ยังแถลงต่อต้านแผนที่นี้ด้วย
ในออสเตรียมีการจัดทำแผนที่ที่เรียกว่า "แผนที่อิสลามทางการเมือง" ที่มีการระบุถึงชื่อและตำแหน่งของมัสยิดมากกว่า 600 แห่ง ซึ่งมีการระบุถึงทั้งชื่อ การใช้งาน และสถานที่ ของชาวสถานที่ของมุสลิมและขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับมุสลิมใช้งาน แผนที่ดังกล่าวนี้ร่วมกันสร้างโดยศูนย์บันทึกการเมืองอิสลามของออสเตรียและมหาวิทยาลัยเวียนนา ได้รับการเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
องค์กรยุวชนมุสลิมออสเตรีย (MJO) แถลงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่าการเผยแพร่ข้อมูลของชาวมุสลิมเช่นนี้เป็น "การล่วงล้ำในระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"
ในวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีวิจารณ์ว่าแผนที่ดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และเรียกร้องให้ออสเตรียเลิกรวบรวมข้อมูลของชาวมุสลิมที่จดทะเบียนแต่ให้ทำให้ส่งที่เรียกว่า "ดำเนินนโยบายอย่างมีความรับผิดชอบ"
นอกจากนี้ยังมีองค์กรอื่นๆ ที่ต่อต้านในเรื่องนี้ เช่น สภาผู้แทนมุสลิมแห่งออสเตรีย IGGOe ที่แถลงว่าแผนที่ดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึง "เจตนาของรัฐบาลออสเตรีย ในการตีตราชาวมุสลิมทุกคนว่าเป็นผู้ที่มีโอกาสก่ออันตราย"
โฆษกด้านการผสานวัฒนธรรมของพรรคกรีนแถลงต้านว่ารัฐมนตรีของพรรคหรือส.ส.ของพรรคไม่เคยได้รับรู้เรื่องแผนที่นี้มาก่อน และวิจารณ์อีกว่าการเหมารวมชาวมุสลิมทั้งหมดว่าเป็นกลุ่มหัวรุนแรงนั้นเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับนโยบายการผสานวัฒนธรรม
กลุ่มศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ก็แสดงความเป็นห่วงในเรื่องแผนที่มุสลิม โดยที่บิชอป ไมเคิล ชาลุปกา เรียกร้องให้รัฐมนตรีด้านการผสานวัฒนธรรม ซูซานน์ ราบ ผู้ที่เป็นคนเผยแพร่แผนที่นี้ถอดเว็บไซต์แผนที่นี้ออก
นอกจากประณามจากกลุ่มต่างๆ แล้ว หนึ่งในผู้ที่เคยช่วยทำแผนที่นี้อย่างมหาวิทยาลัยแห่งเวียนนาก็พยายามเอาตัวออกห่างแผนที่นี้โดยการห้ามไม่ให้นำตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยไปใช้ในแผนที่มุสลิมทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ราบ รัฐมนตรีผสานวัฒนธรรมของออสเตรียก็กล่าวถึงแผนที่นี้ว่าพวกเขามีเป้าหมายในการใช้แผนที่นี้เพื่อ "ต่อกรกับแนวคิดทางการเมือง" โดยระบุว่าแนวคิดทางการเมืองเหล่านี้มีส่วนของการเหยียดเพศ, การต่อต้านชาวยิว, การเหยียดเชื้อชาติสีผิว หรือการเป็นปฏิปักษ์ต่อการผสานวัฒนธรรม ไม่ได้เป็นทำให้ชาวมุสลิมดูเป็นกลุ่มคนที่น่าสงสัยแต่อย่างใด
เรียบเรียงจาก :