เดวิช ดูชมัน (David Dushman) สมาชิกคนสุดท้ายของหน่วยปลดแอกค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ที่เคยมีชีวิตอยู่ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 98 ปี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ณ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี
10 มิ.ย. 2564 ในเดือน ม.ค. 2488 เดวิด ดูชมัน พลรถถังของกองทัพแดงแห่งสหภาพโซเวียตพบเห็นผู้รอดชีวิตจากค่ายเอาช์วิทซ์ในประเทศโปแลนด์กำลังเดินโซเซออกจากค่ายกักกัน ท่ามกลางเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากระบอบนาซีที่เสียชีวิตนับไม่ถ้วน
ใน พ.ศ.2558 ดูชมันระลึกสิ่งที่เห็นที่ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์และเล่าว่า “มีโครงกระดูกอยู่ทุกหนทุกแห่ง”
ค่ายมรณะที่พรากชีวิตชาวยิวไปกว่า 1 ล้าน 1 แสนคนได้รับการปลดปล่อยจากการครอบครองของระบอบนาซีโดยกองทัพแดงของสหภาพโซเวียตในวันที่ 27 ม.ค. 2488 ในวันนั้นหน่วยรถถังของดูชมันเป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการปลดแอกดังกล่าวด้วย
ดูชมันเสียชีวิตลงด้วยวัย 98 ปีในคืนวันศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 2564 เขาจากไปหลังรักษาตัวที่คลินิกแห่งหนึ่งในเมือง
มิวนิก หลังเขาเสียชีวิต ชุมชนชาวยิวในแคว้นบาวาเรียได้ประกาศแถลงข่าวการจากไปของเขาในวันที่ 6 มิ.ย. 2564
ชุมชนชาวยิวเรียกเขาว่าเป็น "วีรบุรุษแห่งเอาชวิทซ์"
ใน พ.ศ.2488 ดูชมันในวัย 21 ปี เป็นผู้ทำหน้าที่ขับรถถัง T-34 ของโซเวียต เขาตัดรั้วไฟฟ้าของค่ายเอาชวิทซ์ในประเทศโปแลนด์ที่ถูกยึดครองโดยนาซี และช่วยปลดปล่อยผู้ต้องขังที่รอดชีวิตได้
“พวกเขาเดินโซเซออกจากค่ายทหาร นั่งและนอนท่ามกลางคนตาย” ดูชมันเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ซูดดอยช์เชอไซตุง เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
“เรามอบอาหารกระป๋องทั้งหมดของเราให้พวกเขา และออกตามล่าพวกฟาสซิสต์ต่อทันที” ดูชมันกล่าว
ดูชมันกล่าวว่าเขาเพิ่งรู้ระดับของความโหดร้ายอย่างแท้จริงหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ในจำนวนชาวยิวกว่า 6 ล้านคนที่ถูกสังหาร มีมากกว่า 1.1 ล้านคนที่ถูกสังหารในค่ายกักกันเอาช์วิทซ์-เบียร์เคเนา ยังไม่รวมถึงคนประเภทอื่นๆ อีกนับหมื่นคนที่ระบอบนาซีเห็นว่าควรต้องจำกัด เช่น คนรักร่วมเพศ ชาวโรม และทหารโซเวียต ถูกนาซีจับตัวไว้เป็นเชลยสงคราม
“ผมเพิ่งจะเรียนรู้ถึงความโหดร้าย หลังจากสงคราม” ดูชมัน กล่าว
ดูชมันเป็นหนึ่งในทหารเพียง 69 คนของกองพลที่รอดชีวิตจากสงคราม หลังสิ้นสุดสงคราม ดูชมันผันตัวมาเป็นนักกีฬาฟันดาบชั้นแนวหน้าของสหภาพโซเวียต แถมยังเป็นโค้ชให้กับทีมฟันดาบหญิงด้วย
คุณงามความดีของเขาทำให้ โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee) และอดีตนักฟันดาบโอลิมปิกของประเทศเยอรมนีตะวันตกในทศวรรษที่ 1970 (พ.ศ.2513-2523) กล่าวไว้อาลัยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บาคระบุว่าดูชมันเป็น "ชายชาวยิวโดยกำเนิด" และตอนที่ได้พบกันใน ค.ศ. 1970 “เขาได้หยิบยื่นมิตรภาพและเสนอคำปรึกษาให้แก่ฉันในทันที”
“นี่เป็นท่าทางแบบที่มีความเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้งที่ฉันจะไม่มีวันลืมได้เลย” บาค กล่าว
บิดาของดูชมันเป็นแพทย์นักกีฬาที่เสียชีวิตจากการกวาดล้างของระบอบสตาลิน ดูชมันย้ายไปพำนักที่ประเทศออสเตรียในช่วงทศวรรษที่ 1990 (พ.ศ.2533-2543) อยู่หลายปี ก่อนย้ายอีกครั้งไปอยู่ที่เมืองมิวนิกในรัฐบาวาเรียทางตอนใต้ของเยอรมนี
เพื่อเป็นเกียรติแก่ดูชมัน ในวันเกิดปีที่ 95 ของเขา ชาร์ลอตเต นอบลอค ประธานชุมชนชาวยิวแห่งกรุงเวียนนาประจำเมืองมิวนิก กล่าวว่า ดูชมันผู้รอดชีวิตจากทั้งสมรภูมิสตาลินกราดและคูสต์ได้อดทนฝ่าฝันอุปสรรคมาครบจนถึง "สามชีวิต" แล้ว
“ประจักษ์พยานร่วมสมัยทุกคนที่จากไปถือเป็นการสูญเสีย แต่การสูญเสียเดวิด ดูชมันไปนั้นนับว่าเจ็บปวดเป็นพิเศษ” นอบลอค กล่าว
ในแถลงการณ์ระบุว่า 'ดูชมันเป็นวีรบุรุษแห่งเอาช์วิทซ์' ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ปลดปล่อยของค่ายกักกันและช่วยชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ดูชมันยัง “อยู่ในแนวหน้าเมื่อเครื่องจักรสังหารของนาซีถูกทุบทำลายใน พ.ศ. 2488” ด้วย
“เขาเป็นบุคคลสุดท้ายแล้วที่สามารถบอกเล่าเหตุการณ์นี้ได้จากประสบการณ์ของตัวเขาเอง” นอบลอค กล่าวย้ำอีกครั้ง
เรียบเรียงจาก:
- Last surviving Auschwitz liberator David Dushman dies, DW News, 06-06-21