Skip to main content
sharethis

เลขา ครป. ชี้การตีความนายกฯ ให้อยู่ถึงปี 2570 เป็นการปั่นข่าวร้ายรับปีใหม่ จี้สภาฯ ไม่ควรสุมไฟรับใช้ระบอบอำนาจนิยม เชื่อ 'แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ' ถ้า 'ประยุทธ์' ดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี เพราะทำได้เท่ากับรัฐประหารตนเอง

29 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงการที่สภาผู้แทนราษฎร ให้ฝ่ายกฎหมายของตนออกมาตีความรัฐธรรมนูญมาตรา 158 เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปีได้ถึงปี 2570 ได้ว่า "เป็นเรื่องที่เลอะเทอะและเละเทะ ตีความมั่วกันน่าดู" โดยเมธากล่าวว่าฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้มีหน้าที่ตีความรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงความเห็นหนึ่งเท่านั้นที่เสนอความเห็นต่อประธานสภาฯ ตั้งแต่เดือน ต.ค. แล้ว แต่เพิ่งออกมาปล่อยข่าว เพื่อปั่นข่าวรับปีใหม่ ถือว่าเป็นข่าวร้ายรับปีใหม่ของประชาชนคนไทย

เมธา มาสขาว (แฟ้มภาพ)
 

เมธากล่าวต่อไปอีกว่าฝ่ายกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรมีใครบ้างที่ให้ความเห็นแบบนี้ช่วยระบุชื่อรับผิดชอบด้วย แม้แต่วิษณุ เครืองาม ยังไม่กล้ายืนยันความเห็นเพื่อรอโยนให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเมื่อถึงเวลา และฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล รวมถึงกฤษฎีกาก็คงไม่กล้าตีความเข้าข้างตนเอง กลายเป็นว่าโยนให้สำนักงานสภาผู้แทนราษฎรตีความเอาใจผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่ทำให้สภาผู้แทนราษฎรเสียหาย กลายเป็นสภารับใช้เผด็จการ บั่นทอนทำลายสถาบันรัฐสภาในระบบประชาธิปไตยไปในตัว เพราะไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นเครื่องมือของรัฐอำนาจนิยมเท่านั้น หากเป็นเช่นนี้เท่ากับสุมไฟทางการเมือง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เกิน 8 ปีในเดือน ส.ค. ปีหน้านี้ ตนเชื่อว่าบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ

"นายกรัฐมนตรีจะต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง แต่ใช้ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ มาตีความกฎหมายช่วยแบบนี้ใช้ไม่ได้ สภาผู้แทนราษฎรให้ฝ่ายกฎหมายเริ่มนับตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่ 9 มิ.ย. 2562 หลังการเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายไม่ควรใช้ในทางเป็นโทษย้อนหลัง นี่ไม่ใช่ประเด็นในทางเป็นโทษหรือเป็นบวก และไม่ใช่กฎหมายอาญา แต่เป็นรัฐธรรมนูญการปกครองของประเทศบัญญัติไว้ซึ่งร่างกันมาเองเพื่อจะใช้กับคนอื่นแต่จะไม่ใช้กับตนเองได้หรือ ข้ออ้างว่าไม่ได้เขียนระบุให้ชัดว่าให้นับการดำรงตำแหน่งก่อนหน้านี้ฟังไม่ขึ้น รัฐธรรมนูญก็เขียนชัดว่า 'ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่' ก็ตาม ไม่ว่าใครตีความ ศาลรัฐธรรมนูญถ้าตีความแบบนี้เพื่อเข้าข้างผู้มีอำนาจ ประเทศก็พังหมด ผมเชื่อว่าแผ่นดินจะลุกเป็นไฟ" เมธากล่าว

นอกจากนี้ เมธายังกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ติดกับดักรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ที่เขียนขึ้นมาเอง ที่ระบุว่า "นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้" ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่หากถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยครั้งแรกเมื่อใด ตนขอตอบว่าเป็นเมื่อ 24 ส.ค. 2557 ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์เลือกเขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 มีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งในวันที่ 25 ส.ค. 2557 เป็นผู้นำรัฐประหารคนแรกที่เป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากจอมพลถนอม กิตติขจร และมีพระราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีไทยคณะที่ 61 เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2557 จำนวน 32 คน

"ถ้าจะให้ประยุทธ์เป็นนายกฯ ถึงปี 2570 ก็เท่ากับดำรงตำแหน่งนายกฯ 13 ปี ขัดมาตรา 158 ชัดเจน และขัดกับคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมืองอย่างร้ายแรง แล้วประเทศจะมีธรรมาภิบาลได้อย่างไร จะบอกว่าขอเว้นวรรครัฐธรรมนูญมาตรา 158 ไม่ให้นับการดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม ให้ลืมว่า 24 ส.ค. 2557-8 มิ.ย. 2562 ไม่มีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีแต่การรัฐประหารตนเองเท่านั้นแหละ ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งเสียแล้วร่างใหม่ ผมไม่อยากให้สภาผู้แทนราษฎรกลายเป็นเครื่องมือระบอบอำนาจนิยม และสร้างทางตันในการพัฒนาประชาธิปไตย โดยการส่งเสริมการรัฐประหารครั้งใหม่" เมธากล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net