Skip to main content
sharethis

ผู้ชุมนุม P-move เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว หลังรัฐบาลรับข้อเสนอเชิงนโยบาย 15 ข้อ-นายกฯ ลงนามตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาบางกลอย แต่ไม่นิ่งนอนใจ พร้อมติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ หากไม่ปฏิบัติตาม จะกลับมาทำกิจกรรมอีกครั้งพร้อมประชาชนทั่วประเทศ

 

4 ก.พ. 65 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move ถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเฟซบุ๊กเพจสาธารณะ ที่ถนนพิษณุโลก เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) เวลาประมาณ 14.00 น. จำนงค์ หนูพันธ์ ประธานกลุ่ม P-move อ่านแถลงการณ์หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในเอกสารแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงพื้นที่ชุมชนชาวกะเหรี่ยงบางกลอย จ.เพชรบุรี รวมถึงรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 15 ข้อของ P-move แต่ทางกลุ่มจะไม่นิ่งนอนใจ และจะติดตามการทำงานของรัฐบาลว่าเป็นไปตามที่ให้คำมั่นไว้หรือไม่ 

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า หากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง P-move จะกลับมาอีกครั้งพร้อมประชาชนทั่วประเทศ 

จำนงค์ หนูพันธ์ ประธาน P-move คุยกับผู้ชุมนุมเมื่อ 3 ก.พ. 65 (ภาพจากเฟซบุ๊ก ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม P-move)

หลังจากนั้น จำนงค์ หนูพันธ์ ขอให้ประชาชนชูกำปั้น พร้อมขอบคุณประชาชนชาว กทม. เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน จนสามารถบรรลุตามข้อเรียกร้อง 15 ข้อ และประกาศยุติการชุมนุม ประชาชนเตรียมทยอยแยกย้ายกลับภูมิลำเนาของตัวเอง ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ ชาวบ้านได้นำดอกไม้มามอบให้นักกิจกรรมคนรุ่นใหม่ที่ร่วมเรียกร้องกับม็อบ P-move ตั้งแต่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน 

เวลา 17.00 น. สำนักข่าว The Reporters รายงานว่า ก่อนชาวบ้านเดินทางแยกย้ายกลับ อนุชา นาคาสัย  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบปะชาวบ้านกลุ่ม P-move ก่อนเดินทางกลับ พร้อมกล่าวว่า "จะมีการประชุมที่จะถึงในวันอังคาร 8 ก.พ. 65 ที่จะถึงนี้ เพื่อจะตั้งคณะทำงานลงพื้นที่แก้ไขปัญหาชาวบ้านกะเหรี่ยงบางกลอยในทันที ขอให้มั่นใจได้ว่าจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นในการแก้ไขปัญหา และท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร เป็นห่วงเป็นใยไม่แพ้แกนนำกลุ่มพีมูฟ ที่นำพาพี่น้องมาแจ้งถึงความทุกข์ และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหา หากปัญหาไหนสามารถดำเนินการได้แบบไม่ติดขัด ไม่เป็นอุปสรรคอะไร ก็จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว ให้ได้เห็นว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะตน และสิ่งที่ตนได้รับปากหรือพูดไว้จะตั้งใจทำปฎิบัติอย่างสุดความสามารถ และขอให้พี่น้องทุกคนเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ"

ทั้งนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ P-Move ชุมนุมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อ 20 ม.ค. 65 โดยแรกเริ่ม P-Move ปักหลักค้างคืนที่สำนักงานสหประชาชาติ หรือ UN ถนนราชดำเนินนอก ก่อนเคลื่อนย้ายมาปักหลักที่ถนนพิษณุโลก เมื่อ 25 ม.ค. 65 ที่หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ระหว่างแยกนางเลิ้งกับทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ แยกพาณิชยการ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของประชาชน และนำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 15 ข้อของ P-move เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีการพิจารณา 

เมื่อ 23.47 น. ของวานนี้ บางกลอยคืนถิ่น โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ชาวบ้านเดินทางกลับถึงบ้านบางกลอย ภายในอุทยานแก่งกระจาน จ.เพชรบุรีแล้ว 

รายละเอียดแถลงการณ์ P-move

แถลงการณ์ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ ขปส. (P-move) เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย 15 ข้อ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2565 จนนำมาซึ่งการประชุมขบวนการแก้ปัญหาประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ครั้งที่ 1/2565 เมื่อ 31 ม.ค. 2565 ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ทำเนียบรัฐบาล และห้องประชุมสำนักงาน กพ.เดิม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ P-move ทั้ง 15 ข้อ และได้นำผลเข้าสู่การพิจารณารับทราบ และเห็นชอบ ของ คณะรัฐมนตรี เมื่อ 1 ก.พ. 2565 

เราเห็นว่ามติ ครม. ดังกล่าว จะนำมาซึ่งหลักการ และแนวทางการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนทั้งกลไกนโยบายและโครงสร้าง และสร้างกลไกติดตามระดับพื้นที่ อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตดังนี้

1) หลักการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในการเข้าถึงหลักสิทธิการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติของประชาชน และเพื่อให้คนจนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี เช่น แนวทางการจัดสรรที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน หลักการแก้ไขปัญหาชุมชน ผู้มีรายได้น้อย ในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยทั่วประเทศ การปฏิรูปที่ดินกลไกการบริหารจัดการธนาคารที่ดิน. (บจธ.) การจัดการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและปรับปรุงที่อยู่อาศัย การเร่งรัดแก้ไขปัญหาสิทธิและสถานะบุคคลของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมแล้วเสร็จภายใน 2566 การผลักดันระบบรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า เช่น ระบบบำนาญ อุดหนุนเด็ก การสรับสนุนและรับรองกฎหมาย สิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ การแก้ไขและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ พัฒนาของรัฐ การออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมาย และการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและป่าไม้ เป็นต้น 
 
2) หลักว่าด้วยการทบทวนกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงสิทธิในการจัดการที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้ดำรงอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี เช่น การทบทวนและการปรับปรุงกฎหมายป่าไม้ 3 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 และ พ.ร.บ.ป่าชุมชน 2562 และร่างกฎหมายระดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติต่างๆ และแต่งตั้งกลไกติดตามปัญหาทั้งในระดับนโยบายเป็นรายกรณี เช่น ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย คณะกรรมการแก้ปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ คณะกรรมการขับเคลื่อนสิทธิกลุ่มชาติพันธ์ุชาวเลและกะเหรี่ยง การปรับปรุงคณะกรรมการอนุกรรมการประสานงานเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนนโยบาย 9 ด้าน เป็นต้น อันจะมาซึ่งถึงความร่วมมือแก้ปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ให้เกิดรูปธรรมอย่างสำเร็จโดยเร็ว เราขอยืนยันว่าจะติดตามการดำเนินงานตามมติ ครม.ดังกล่าว อย่างถึงที่สุด หากไม่เป็นตามที่ระบุไว้ เราจะกลับมาพร้อมประชาชนทั่วประเทศ เพราะการดำรงอยู่ของรัฐบาล ก็เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเป็นสำคัญ

ล่าสุด เมื่อ 23.47 น. ของวานนี้ บางกลอยคืนถิ่น โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ชาวบ้านเดินทางกลับถึงบ้านบางกลอย ภายในอุทยานแก่งกระจาน จ.เพชรบุรีแล้ว 

ข้อเสนอเชิงนโยบายของ P-move 15 ข้อ

1. ต้องยกระดับการจัดการทรัพยากรที่ดินในรูปแบบ “โฉนดชุมชน” ให้เป็นหนึ่งในรูปแบบการกำกับดูแลการ บริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินโดยทั่วไป ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มาตรา 10 (4) และขอให้สำนักงาน คทช. รับพื้นที่โฉนดชุมชน โดยเริ่มจากพื้นที่สมาชิก ขปส. ที่เสนอเป็นพื้นที่การจัดการที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชนอยู่แล้ว 193 กรณี 

2. ต้องเร่งออกพระราชกฤษฎีกานิรโทษกรรมคดีความที่เกี่ยวกับปัญหาไม้และที่ดินอันเกิดจากการดำเนินการตามนโยบายรัฐ ทั้งนี้ในระหว่างรอการออกกฎหมายดังกล่าว ขอให้ยุติการดำเนินคดีชาวบ้าน และเยียวยาประชาชนให้ได้รับความธรรมและให้กลับไปทำกินในที่ดินเดิมของตนเองได้ 

3. ต้องแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อทบทวนเนื้อหาของ พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2562, พ.ร.บ.อุทยาน แห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ให้สอคคล้องกับเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และให้ชะลอการเสนอร่างกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ตลอดจนขอให้ยกเลิกมติ

คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เรื่อง พื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัย และทำกินในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) เนื่องจากไม่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ 

4. กรณีการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้นำมติคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2543 มาเป็นนโยบายการแก้ปัญหาชุมชนทั้ง 36 จังหวัด 397 ชุมชน 39,848 หลังคาเรือน ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวต้องนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศให้เป็นนโยบายแห่งชาติในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนที่อยู่ในที่ดินของ รฟท. 

5. รัฐบาลต้องผลักดันร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ฉบับที่ร่าง โดยศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องค์การมหาชน) (ศมส.) และรัฐบาลต้องสนับสนุน “ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครอง สิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง พ.ศ..... ฉบับเข้าชื่อเสนอกฎหมาย 10,000 รายชื่อ เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2553 ว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวกะเหรี่ยง 

6. ข้อเสนอต่อการปฏิรูปที่ดิน ตามกลไกสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (บจธ.) บจธ. ต้องทบทวน ปรับปรุงคณะกรรมการ บจธ. พัฒนา สร้างนวัตกรรมรูปแบบกรรมสิทธิ์ในการจัดการที่ดินและถือครองที่ดินใหม่รูปแบบ ใหม่ๆ พัฒนาช่องทาง กลไกในเข้าถึง ทั้งการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย และให้เร่งดำเนินการจัดซื้อที่ดินในพื้นที่ตามแผนงานระยะสองซึ่งเป็นสมาชิกของ ขปส. ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม

7. ต้องนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ชุมชนสมาชิกของ ขปส.ที่อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา ทะเบียนบ้าน และปรับปรุงที่อยู่อาศัยได้ 

8. ปรับปรุงองค์ประกอบคณะทำงาน 2 คณะ ได้แก่ คณะทำงานศึกษาร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎร คณะทำงานแก้ไขปัญหาและศึกษาแนวทางการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนในรูปแบบ โฉนดชุมชนภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และขอให้เร่งรัดจัดการประชุมคณะทำงานฯ ดังกล่าว เป็นกรณีเร่งด่วน

9. ข้อเรียกร้องกลุ่มแม่สอดรักษ์ถิ่น ผลกระทบจากเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จังหวัดตาก ให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงและเยียวยาผลกระทบรายกรณีในทุกมิติ

10. รัฐบาลต้องสั่งการให้มีการแก้ไขปัญหาที่ดินทุกประเภทที่ประชาชนได้รับผลกระทบให้มี แนวทางที่ชัดเจน เช่น ที่ดินสาธารณประโยชน์ ที่ดินรถไฟ ที่ราชพัสดุ ที่ดินในเขตป่า ที่ สปก. และอื่นๆ 

11. แต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติ กำกับ ขับเคลื่อนการฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลและ กะเหรี่ยงตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553 และ 3 สิงหาคม 2553 

12. กรณีชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ให้นายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ที่ 1 ตำบล

ห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยในทุกด้าน ตลอดจนให้ยุติกระบวนการทางคดีของชาวบ้าน 28 คน ชาวบ้านเยาวชน 2 คน และสมาชิกภาคีเซฟบางกลอย 10 คน
 
13 สิทธิสถานะบุคคล ให้มีมติคณะรัฐมนตรีสั่งการเร่งรัดแก้ไขปัญหาด้านสิทธิและสถานะบุคคลของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 โดยมีกลุ่มเป้าหมายดังนี้

เครือข่ายการแก้ไขสัญชาติไทย 4 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา

เครือข่ายลาวอพยพ จังหวัดอุบลราชธานี

เครือข่ายชาวเลอันดามัน จังหวัด พังงา กระบี่ ระนองสตูล ภูเก็ต

เครือข่ายไทลื้อ จังหวัดพะเยา และคนไทยตกหล่นทางทะเบียนราษฎร์

14. ผลักดันให้มีระบบสวัสดิการถ้วนหน้า ตามที่ภาคประชาชนเสนอกฎหมายระบบสวัสดิการถ้วนหน้า

15. เร่งรัดแก้ไขปัญหาประชาชนผู้ได้ผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ กรณีอ่างน้ำห้วยฝั่งแดง จ.อุบลราชธานี, กรณีโครงการแก้มลิงทุ่งทับใน จ.นครศรีธรรมราช, กรณีอ่างเก็บน้ำแม่มอก จ.ลำปาง, กรณีอ่างน้ำห้วยน้ำรี จ.อุตรดิตถ์, กรณีโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่งาว จ.ลำปาง และโครงการผันแม่ยวม จ.แม่ฮ่องสอน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net