Skip to main content
sharethis

เครือข่ายภาคประชาชน ที่ทำงานด้านสวัสดิการ ยื่นหนังสือ กมธ.การพัฒนาสังคมฯ และ สส.ก้าวไกล ช่วยทวงถามการจัดงบฯ เฉพาะกลุ่ม เพื่อยกระดับสวัสดิการเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงวัย และคนพิการ ตามมติ คกก.แก้ไขปัญหาพีมูฟ โดยมี 'ภูมิธรรม' เป็น ปธ. ว่าจะทำให้ได้ภายในปี'68 แต่ตอนนี้ยังไร้วี่แวว

 

10 ก.ค. 2567 ช่องยูทูบสื่ออิสระ 'อินทรีแดง' ถ่ายทอดสดออนไลน์วันนี้ (10 ก.ค.) เวลา 9.00 น. เครือข่ายภาคประชาสังคม นำโดย สุนี ไชยรส คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) และกลุ่มภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน (We fair) ยื่นหนังสือถึง 1. ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาอนุมัติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2568 และ 2. หัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคที่มีตัวแทนอยู่ใน กมธ.งบประมาณฯ ปี 2568 เพื่อทวงถามการจัดสรรงบประมาณสวัสดิการเฉพาะกลุ่มในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 ตามมติคณะกรรมการแก้ไขปัญหา P-move โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยวันนี้มี ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร และศศินันท์ ธรรมฐิตินันท์ สมาชิกคณะกรรมาธิการร่างงบประมาณฯ ปี 2568 เป็นตัวแทนรับหนังสือ

 

สุนี ในฐานะตัวแทนผู้มายื่นหนังสือ กล่าวว่า วันนี้ภาคประชาสังคมมาทวงถามการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 2568 เพื่อยกระดับสวัสดิการเฉพาะกลุ่ม ซึ่งมีทั้งหมด 4 มาตรการ ประกอบด้วย

  1. เงินอุดหนุนเด็กสงเคราะห์ ตั้งแต่อายุ 0-6 ขวบ เดือนละ 600 บาท ปรับเป็นระบบถ้วนหน้า
  2. เบี้ยความพิการ เดือนละ 800 บาท ปรับเป็น 1,000 บาท
  3. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันไดเดือนละ 600-1,000 บาท ปรับเป็น 1,000 บาท
  4. เงินอุดหนุนสตรีมีครรภ์ถ้วนหน้า (เดือนที่ 5-9) เดือนละ 3,000 บาท

สุนี กล่าวว่า มาครั้งนี้ไม่ได้เป็นมาเสนอ แต่เป็นการมาทวงถามรัฐบาล เนื่องจากมติยกระดับสวัสดิการเฉพาะกลุ่มได้ผ่านคณะกรรมการแก้ไขปัญหา (P-Move) โดยมีประธานคือ ภูมิธรรม ตั้งแต่เมื่อ 30 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว และให้คำมั่นว่ามาตรการยกระดับสวัสดิการจะทันภายในปี 2568 สุดท้ายงบฯ ปี 68 ยังไม่มี 4 มาตรการที่รัฐบาลรับปาก และคิดว่าร่างงบประมาณฯ ปี 2568 ควรสามารถจัดการได้

สุนี ไชยรส (ถ่ายโดย แมวซาโบ)

ไม่ได้ใช้งบฯ มากเกินไป

สุนี เน้นย้ำว่า ข้อเสนอของภาคประชาสังคมนั้นไม่ได้ใช้งบประมาณจำนวนมากเกินไป โดยข้อเสนออนุมัติงบประมาณรายจ่ายกลาง สามารถเพิ่มเงินช่วยเหลือเด็กเล็กถ้วนหน้าด้วยเงินไม่ถึง 7,000 ล้านบาท สวัสดิการผู้ตั้งครรภ์ (เดือนที่ 7-9) ใช้เงินไม่ถึง 7,000 ล้านบาท สวัสดิการเบี้ยผู้สูงอายุ เพิ่มเงินไม่มาก เปลี่ยนจากระบบขั้นบันไดเป็นแบบไม่ขั้นบันได โดยทุกคนได้เดือนละ 1,000 บาท คนพิการได้อยู่ 800 บาท เพิ่มอีก 200 บาท รวมเป็น 1,000 บาท เพิ่มเงินอีกไม่เยอะ โดยงบฯ ส่วนนี้เธอเสนอว่าอาจจะมางบประมาณส่วนอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น เช่น งบประมาณของกระทรวงกลาโหมมากระจายให้เป็นสวัสดิการ ฉะนั้น จึงฝาก กมธ.พัฒนาสังคมฯ ช่วยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงผลักดันทั้งในสภาฯ และรัฐบาล หรือตั้งกระทู้ถามรัฐบาล หรือผลักดันผ่าน กมธ.งบประมาณ

ณัฐชา สส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนรับปากจะช่วยติดตามทวงถามเพื่อให้สวัสดิการถ้วนหน้าเกิดขึ้นได้จริง หลังจากนั้นตัวแทนภาคประชาชนได้มอบหนังสือให้กับ ณัฐชา และศศินันท์

ศศินันท์ สมาชิก กมธ.งบประมาณปี'68 กล่าวหลังรับมอบหนังสือว่า สำหรับกรณีนี้เธอสอบถามไปที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้ถามเรื่องการจัดสรรงบประมาณสวัสดิการเด็กถ้วนหน้าตามที่ได้รับปากไว้ในปี 2568 แต่สุดท้ายยังไม่บรรจุอยู่ดี ซึ่เธอระบุว่า ปัญหาของ พม.คืออยู่ที่เพดานงบประมาณที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้น โจทย์อยู่ที่ว่าเมื่อทราบปัญหาที่เกิดขึ้นประจำทุกปีอยู่แล้ว เราจะมีวิธีการวางแผนทำยังไงให้ทันได้ในปี 2569

บรรยากาศการมอบหนังสือ (ถ่ายโดย แมวซาโบ)

(คนที่ 2 จากขวา แถวหน้า) ศศินันท์ ธรรมฐิตินันท์ (ถ่ายโดยแมวซาโบ)

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net