13 มี.ค. 2565 เพจ iLaw รายงานว่ากลุ่มทะลุวังประกาศทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิผ่านเพจเฟซบุ๊ก เวลา 15.00 น. โดยมีการทำป้ายโพลมีคำถาม “คุณยินดียกบ้านให้กับราชวงศ์หรือไม่” และมีการแจกสติกเกอร์ให้ผู้สัญจรผ่านไปผ่านมาได้แปะความเห็นของตนเอง ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันเวลา 17.00 น. ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือศปปส. ก็นัดหมายทำกิจกรรมร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้วย

เหตุการณ์สำคัญที่ iLaw รวบรวมไว้มีดังนี้

15.05 เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าวางกำลังรับสถานการณ์บนตัวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ยังไม่มีการทำกิจกรรมใด ๆ นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวังยังไม่เข้าพื้นที่ และทางกลุ่มก็ไม่ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะทำกิจกรรมรูปแบบใดในวันนี้
 
15.12 นักกิจกรรมสองคนคือ "ใบปอ" กลุ่มทะลุวัง และ เมนู สุพิชฌาย์ สวมเสื้อสีเหลือถือกระดาษขนาดใหญ่เขียนคำถามว่า "คุณยินดียกบ้านของคุณให้กับราชวงศ์หรือไม่" เข้ามาในพื้นที่ ด้านหลังกระดาษคำถามดังกล่าวยังเขียนข้อความว่า "ทำโพลไม่เท่ากับล้มล้าง" ไว้ด้วย 

นักกิจกรรมทั้งสองยืนที่บริเวณเกาะพญาไทบริเวณใกล้บันไดเลื่อนทางขึ้นสกายวอล์กอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงขึ้นบันไดเลื่อนและเดินไปหยุดยืนให้คนทำโพลอยู่ที่บริเวณทางเดินสกายวอล์กฝั่งมุ่งหน้าไปอาคารสถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สำหรับวิธีการทำโพลนักกิจกรรมทั้งสองเตรียมกระดาษสติกเกอร์วงกลมสีเขียวขนาดเล็กมาให้ประชาชนที่เดินผ่านไปผ่านมาเลือกนำสติกเกอร์ไปติดใต้ช่องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคำถามข้างต้น

15.24 ระหว่างที่นักกิจกรรมทั้งสองคนยืนให้คนแปะสติกเกอร์อยู่ที่สกายวอล์กฝั่งทางเดินเข้าสถานีรถไฟฟ้า มีบุคคลที่มาร่วมกิจกรรมสังเกตเห็นบุคคลที่พวกเขาสงสัยว่าอาจเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาถ่ายภาพนักกิจกรรมทั้งสอง คนที่มาร่วมกิจกรรมบางส่วนจึงเดินติดตามไปและตะโกนบอกให้ลบภาพ

15.34 น. ใบปอ หนึ่งในนักกิจกรรมซึ่งเพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมาตรา 112 และต้องใส่กำไลอีเอ็มระบุว่า แม้เธอจะถูกตั้งเงื่อนไขตามสัญญาประกันในคดีมาตรา 112 ซึ่งมีการตั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับการแสดงออก แต่เธอไม่กังวลที่จะออกมาทำกิจกรรมในวันนี้เพราะเชื่อว่าการตั้งคำถาม ทำโพล เป็นสิทธิเสรีภาพที่ทำได้

16.29 หลังนักกิจกรรมทั้งสองยืนอยู่บนสกายวอล์กบริเวณหน้าทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าได้ครู่ใหญ่ๆก็เดินเท้าเพื่อทำการสำรวจความเห็ประชาชนเพิ่มเติมไปตามสกายวอล์กมุ่งหน้าผ่านเกาะพญาไท ไปลงบันไดที่เกาะดินแดงจากนั้นก็ขึ้นบันไดที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพระนครและเดินย้อนกลับมาทางเกาะพญาไทอีกครั้ง เหตุการณ์โดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

17.00 น. กลุ่ม ศปปส. นัดรวมตัวที่ถนนโยธี ใกล้ โรงพยาบาลราชวิถี ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซนจูรี่ และเมื่อถึงเวลา 17.20 น. กลุ่มประชาชนจาก ศปปส. ก็เดินเท้าไปที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ซึ่งเป็นจุดนัดรวมตัวทำกิจกรรม ขณะที่มีผู้ชุมนุม ศปปส.บางส่วนรอทำกิจกรรมที่บริเวณดังกล่าวอยู่แล้ว

17.25 น. เกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อยเมื่อผู้ชุมนุมบางส่วนโต้เถียงกับผู้ชุมนุมจากกลุ่มศปปส. โดยแซม สาแมทและการ์ดของผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุวังพยายามเข้าไปห้ามและเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มศปปส. หลังจากนั้นตัวแทนกลุ่มศปปส. กล่าวว่าอยากให้เราอยู่ด้วยกันได้แม้จะมีจุดยืนต่างกัน เหตุการณ์จบลงโดยไม่มีความรุนแรง

17.35 น. มีรถยนต์เครื่องเสียงของกลุ่มศปปส. และอาชีวะปกป้องสถาบันขับเข้าจากฝั่งราชวิถีมาที่เกาะพหลโยธินและเปิดเพลงหนักแผ่นดิน โดยมีชายใส่เสื้อเหลืองกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงเชิญชวนมวลชนที่มีอยู่ในขณะนั้นประมาณ 30 คนให้มาร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี ในขณะที่มวลชนของกลุ่มทะลุวังชูสามนิ้วใส่ ตัวแทนจากกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันกล่าวว่าวันนี้ได้ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว และขอให้สื่อช่วยกันกระจายข่าวออกไป

17.45 น. ใบปอและเมนูกลุ่มทะลุวังเดินทางกลับออกจากพื้นที่

17.50 น. แกนนำกลุ่ม ศปปส. นำมวลชนร้องเพลงและตะโกน “อยู่อย่างจงรัก” เพื่อให้มวลชนตอบกลับว่า “ตายอย่างภักดี” พร้อมบอกให้ตรียมตัวร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญอย่างเสียงดังพร้อมเพรียง มีการกล่าวว่าหากจะไล่รัฐบาลก็ไล่ไป แต่อย่ามาแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

18.00 น. มวลชนกลุ่ม ศปปส. ร่วมกันร้องเพลงชาติซึ่งเปิดโดยรถเครื่องขยายเสียงที่ฝั่งพหลโยธิน โดยมีการ์ดใส่ชุดสีดำและกางเกงลายพรางยืนคุมอยู่ในพื้นที่โดยรอบ ด้านอนุสาวรีย์ไชยสมรภูมิมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสีกากีพร้อมโล่ประมาณ 20 นายยืนอยู่ รวมถึงมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มศปปส. ชูสามนิ้ว ต่อมาเมื่อถึงเพลงสรรเสริญพระบารมี มีการแจกเทียนให้กับผู้เข้าร่วมและมวลชนก็ร้องเพลงด้วยกัน

หลังจากจบกิจกรรม รถเครื่องเสียงของกลุ่มศปปส. ก็ค่อย ๆ ขับออกจากพื้นที่โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวให้มวลชนเดินตามรถเครื่องเสียงไป ด้านมวลชนที่มากับกลุ่มทะลุวังก็มีการตะโกนตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งแนวอยู่ว่าเหตุใดกลุ่ม ศปปส. ถึงสามารถใช้เครื่องเสียงได้โดยไม่มีการทำอะไร ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่มีการตั้งข้อหาตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ดังเช่นที่ทำกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยบ้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถอนกำลังออกไป