Skip to main content
sharethis

ศาลนัดไต่สวนถอนประกัน "บุ้ง-ตะวัน" คดีม.112 เหตุไปเรียกร้องถอน "สว.เนาวรัตน์" ออกจากศิลปินแห่งชาติ ทางทนายแจงตำรวจที่มาขอไม่ได้ตรวจสอบกับอัยการเจ้าของสำนวนแล้วก็ไม่ได้ตรวจสอบเงื่อนไขประกันมาก่อนร้องศาล ระหว่างพักการไต่สวนสันติบาลแอบถ่ายรูปในศาล

21 พ.ย.2566 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีนัดไต่สวนถอนประกันตัวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง จากกลุ่มทะลุวังในคดีทำโพลล์สำรวจความเห็นเรื่องขบวนเสด็จ โดยการพิจารณาครั้งนี้สืบเนื่องจากทางตำรวจ สนปทุมวันได้ยื่นขอกับศาลโดยยกเรื่องที่พวกเธอทั้งสองคนไปร่วมทำกิจกรรมที่หน้ากระทรวงวัฒนธรรมเพื่อเรียกร้องให้ถอด เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สว. ออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา

ทะลุวังทำกิจกรรมหน้ากระทรวงวัฒนธรรม จี้ถอด ‘เนาวรัตน์’ พ้นศิลปินแห่งชาติ

กิจกรรมที่หน้ากระทรวงวัฒนธรรมเมื่อ 6 ส.ค.2566 ภาพจาก แมวส้ม

การไต่สวนถอนประกันครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองแล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2566 ทางเจ้าหน้าที่เคยมีคำร้องขอถอนประกันทั้งสองคนด้วยเหตุเดียวกันมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ในการไต่สวนครั้งก่อนพยานเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่มาตามนัดศาลทำให้ศาลยกคำร้องของฝ่ายเจ้าหน้าที่ไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการไต่สวนได้เกิดเหตุการณ์ที่มีบุคคลสวมชุดไปรเวทใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพทานตะวัน เนติพร และทนายความของพวกเธอระหว่างปรึกษาคดีกันอยู่นอกห้องพิจารณา ซึ่งทราบภายหลังว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตำรวจสันติบาลทำให้ศาลมีการเรียกสอบถามตักเตือนว่าอย่าทำอีก

ทั้งนี้หลังการไต่สวนศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าจะถอนหรือไม่ถอนประกันทั้งสองคนในเช้าวันที่ 25 ธ.ค.2566

กุณฑิกา นุตจรัส ทนายความของทั้งสองคนให้สัมภาษณ์หลังเสร็จจากการไต่สวนว่าการมายื่นคำร้องของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้มาโดยไม่ได้มีอัยการที่เป็นโจทก์ผู้ฟ้องในคดีมาเบิกความด้วย ทำให้ทางทนายความได้ถามกับทางเจ้าหน้าที่ว่าได้มีการปรึกษากับโจทก์แล้วหรือไม่ แต่ทางตำรวจก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ปรึกษาแต่การมายื่นคำร้องครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ทนายจึงได้ถามต่อไปว่าแล้วมีการตรวจสอบสำนวนคดีมาก่อนหรือไม่ว่าการกระทำที่เกิดขึ้นตรงกับเงื่อนไขการประกันหรือเปล่า ทางเจ้าหน้าที่ก็ตอบไม่ได้ตรวจสอบเพียงแต่รับสำนวนมาแล้วก็มายื่นเท่านั้นและตัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่หน้ากระทรวงวัฒนธรรมด้วยแต่เจ้าหน้าที่เห็นว่าการทำกิจกรรมของทั้งสองคนผิดเงื่อนไข

ทนายความกล่าวต่อไปว่าทางฝ่ายทานตะวันและเนติพรก็ยืนยันว่าสิ่งที่ทำเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพธรรมดาของเขา และทางทนายความเองก็ได้แจ้งกับศาลว่าเคยมีกลุ่มอื่นๆ เช่น นักรบองค์ดำ มาขอกับศาลให้ถอนประกันทั้งสองคนในคดีนี้มาแล้ว แต่ศาลก็ยกคำร้องมาตลอดเพราะเป็นการใช้สิทธิธรรมดาแล้วก็ไม่ได้ก่อความวุ่นวายอะไรอีกทั้งคนที่มาขอก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคดี อย่างไรก็บอกไม่ได้ว่าศาลจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไรเพราะเป็นธรรมชาติของคดีการเมืองไม่ได้ดูแค่ว่าเข้าองค์ประกอบทางกฎหมายหรือเปล่า

กุณฑิกาเล่าถึงเหตุการณ์เรื่องที่มีเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปพวกเธออระหว่างปรึกษาคดีกันด้วยว่ารู้สึกตกใจที่ผู้กระทำเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งที่ปกติแล้วคนทั่วไปที่มาศาลกันก็รู้อยู่แล้วว่าศาลมีข้อห้ามต่างๆ หลายอย่างทั้งการห้ามเอามือถือเข้าห้อง ห้ามดื่มน้ำ ฯลฯ อย่างไรก็ตามก็ขอบคุณศาลที่มีการเรียกตักเตือนเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวด้วยว่าในบริเวณศาลทำแบบนี้ไม่ได้ขนาดนักข่าวยังต้องทำข่าวนอกอาคารศาล และตอนบ่ายก็คงมีการไต่สวนละเมิดอำนาจศาล

เนติพรให้สัมภาษณ์หลังออกจากศาลว่า จากที่ตำรวจให้การกับศาลเพื่อถอนประกันของพวกเธอนั้นเป็นเรื่องการทำกิจกรรมที่หน้ากระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งตำรวจเองที่รวบรวมเหตุผลมาขอกับศาลก็ใส่เรื่องเงื่อนไขการประกันตัวของเธอมาผิด ซึ่งไม่น่าจะมีการถอนประกันด้วยซ้ำ แต่ก็รู้สึกใจร้ายไปหน่อยที่มานัดฟังคำสั่งเอาวันคริสมาสต์

ทานตะวันเสริมว่าทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่พอจะเอามาถอนประกันพวกเธอได้และบอกแค่ว่าเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งมาแล้วก็มีสำนวนคดีมาและเขาก็เชื่อไปเองตามนั้นแล้วก็มายื่นต่อศาล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net