Skip to main content
sharethis

เลขา ครป. เตือน ‘เสกสกล’ กรณีมีคลิปเสียงหลุด เล่นการเมืองต้องมีหลักการ อย่าโกหกประชาชน พร้อมจี้รัฐบาลปฏิรูป ขสมก. ให้ทันสมัย ตรงเวลา ราคาถูก ไม่ใช่เซ็งลี้เอกชนหาผลประโยชน์

 

5 เม.ย. 65 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) รายงานต่อสื่อวันนี้ (5 เม.ย.) ว่า นายเมธา มาสขาว เลขาธิการ ครป. กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงเกี่ยวกับการใช้เงิน 15 ล้านบาท จากกลุ่มธุรกิจหวยออนไลน์ เพื่อมาใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่าเป็นเสียงของตนจริงนั้น มองว่าเสกสกล ต้องออกมายอมรับความจริง เล่นการเมืองต้องมีหลักการ จะออกมากล่าวว่าพูดกันเล่นๆ ไม่ได้ อย่ามาโกหกประชาชน เพราะเรื่องที่คุยกันไม่ใช่เรื่องตลก และหลักฐานก็ปรากฏชัด เป็นการคุยกันที่มีเนื้อหาสาระชัดเจนซึ่งเกี่ยวข้องกับผลกระทบในการปราบปราบการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาของรัฐบาล

เมธา มาสขาว เลขาฯ ครป.

คนหนึ่งเป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี อีกคนหนึ่งเป็นข้าราชการการเมืองสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนการเลือกตั้งในปี 2562 ในนามพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มนี้ใช้อำนาจเดิมที่มีอยู่ตั้งแต่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กดดันหาผลประโยชน์จากเอกชนกลุ่มต่างๆ ที่ต้องพึ่งพิงอำนาจรัฐมาใช้ในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเงินหมุนเวียนในขบวนการจัดสรรผลประโยชน์ในโควตาสลาก ซึ่งมีอำนาจรัฐและนโยบายมากำหนด จึงทำให้ขบวนการนี้เป็นธุรกิจการเมืองที่อิงแอบอำนาจรัฐมาโดยตลอด จึงไม่สามารถปราบปรามได้หมด หรืออาจปราบเฉพาะบางกลุ่มบางพวก

ดังนั้น ถูกแล้วที่วันนี้กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลก็ต้องสืบสวนสอบสวนตามระเบียบ เพราะมีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งต้องดูว่ามีรายงานการใช้เงินจำนวนดังกล่าวในการหาเสียงหรือไม่ และรายการต่อ กกต.เท่าไร เนื่องจากตอนนั้น กกต. กำหนดให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ใช้จ่ายเงินได้คนละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท 

ปฏิรูป ขสมก. ทันสมัย ตรงเวลา ราคาถูก

สำหรับนโยบายล่าสุดของรัฐบาลที่ประกาศปฏิรูปรถเมล์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และเตรียมจ้างเหมาเอกชนบริการรถโดยสาร EV นั้น นายเมธา เห็นว่า การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพื่อให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และดูแลประชาชน แต่ต้องไม่ใช่การปฏิรูปหรือแปรรูปเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่เอกชนหรือพรรคพวกให้ได้ผลประโยชน์ รัฐวิสาหกิจของไทยทั้งหมดมีมูลค่ามากกว่า 14 ล้านล้านบาท ถูกแล่เนื้อเถือหนังแบ่งไปให้เอกชนหากำไรมาอย่างต่อเนื่องทั้ง ปตท.และ กฟผ. ที่ต้องทำสัญญาสัมปทานรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนแทนที่จะผลิตเอง

รัฐบาลต้องแยกระหว่างรัฐวิสาหกิจมูลค่าสูงที่ควรปฏิรูปโครงสร้างเพื่อหารายได้เข้ารัฐ 100% โดยบริหารจัดการให้ทันสมัย ไม่ใช่ยกให้เอกชนหาผลประโยชน์แทน เช่น ปตท. การบินไทย กับรัฐวิสาหกิจที่เกิดขึ้นเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อบริการสาธารณะแก่ประชาชน เช่น การรถไฟ ขสมก. กฟผ. และการประปา สิ่งเหล่านี้รัฐออกทุนส่วนต่างเพื่อเป็นสวัสดิการสังคม ไม่เน้นกำไร-ขาดทุน ซึ่งการบริการสาธารณะสามารถปฏิรูปองค์กรให้ทันสมัยได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ใช่รูปแบบตามที่ประกาศโครงการจัดหารถโดยสารพลังงานสะอาด โดยการจ้างเอกชนเหมาให้บริการตามระยะทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากกระทรวงคมนาคม 

รัฐบาลอ้างว่า ขสมก. รอการดำเนินการแผนฟื้นฟู ขสมก.ฉบับใหม่ ตามขั้นตอน จึงมีแผนการดำเนินการระยะสั้นในการจ้างเหมาเอกชนวิ่งให้บริการ ซึ่งไม่มีหลักประกันด้านราคาเลยเหมือนดั่งนโยบายแปรรูปมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ รถเมล์เอ็นจีวีรุ่นใหม่สีฟ้าที่ล่าช้า ปัญหาเกิดจากรัฐบาลบริหารงานห่วย ขาดการวางแผน แต่การแก้ปัญหากลับเป็นการเซ็งลี้สัมปทานและมอบเส้นทางการเดินรถให้เอกชนครอบครอง ปัญหาใหญ่จะตามมาคือการผูกขาดเส้นทางคมนาคม ซึ่งเป็นความมั่นคงของสังคมที่ต้องพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนจากเอกชนทั้งหมดที่อย่างไรก็ต้องขึ้นราคาในที่สุด ไม่ต่างจากการให้สัมปทานรถไฟฟ้าแล้วขึ้นราคาโดยสารสูงมาก

แผนปฏิรูป ขสมก. คือจะเก็บค่าโดยสาร 30 บาทต่อวัน เชื่อว่าคนจนก็คงไม่มีสิทธิขึ้นต้องไปต่อแถวขึ้นทะเบียนคนจนก่อน ทำไมรัฐบาลไม่ทำเป็นรัฐสวัสดิการไปเลย สิ่งที่ต้องปฏิรูปทำไม่ยากถ้าไม่คิดหาผลประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้างหรือการแบ่งสัมปทานให้เอกชนกลายเป็นทุนนิยมสุดโต่ง แปรสินทรัพย์ทุกอย่างของรัฐของส่วนรวมให้เอกชนแทบทั้งหมด สิ่งที่คนกรุงเทพฯ ต้องการก็แค่รถใหม่พลังงานสะอาดที่มีจำนวนเพียงพอ มาตรงเวลา และราคาถูก แค่นี้ทำยากตรงไหน

ไปดูในต่างประเทศ ในยุโรป ระบบขนส่งมวลชนในเมืองใหญ่เขาเป็นโครงข่ายขนาดใหญ่รอบเมือง มาตรงเวลาแทบจะเทียบวินาทีได้ และราคาถูกเพื่อเป็นรัฐสวัสดิการให้ประชาชนจำนวนมากที่ไม่มีรายได้พอจะซื้อรถส่วนตัวได้ ซึ่งก็จะทำให้ระบบเมืองเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะมีระบบขนส่งมวลชนมีประสิทธิภาพ เพียงพอต่อความต้องการ ก็ทำให้คนไปซื้อบ้านชานเมืองแล้วเข้ามาทำงานในเมืองแบบตรงเวลาได้ เมืองก็ขยายออกไป แต่ตอนนี้รถไฟฟ้าของไทยราคาแพงที่สุดในโลกไปแล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net