Skip to main content
sharethis

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ห่วง กกต. ไม่โปร่งใส เอียงข้างอำนาจนิยม ไม่รายงานผลเรียลไทม์ จ่อร่วมมือ ปชช.ตรวจสอบการเลือกตั้งปี'66 พร้อมจัดเวทีสัญญาประชาคมกับพรรคต่างๆ ก่อนเลือกตั้ง

 

2 มี.ค. 2566 ทีมสื่อ ครป. รายงานต่อสื่อวันนี้ (2 มี.ค.) เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ขณะนี้มีกระแสออกมาว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้งปี 2566 มีทฤษฎีสมคบคิดออกมา ขอบอกว่ามีการเลือกตั้งแน่นอน อย่าคิดไปไกล เพราะการเลือกตั้งเป็นแค่กลไกของระบอบการปกครอง เป็นกลไกตามห้วงเวลาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ระบอบประยุทธ์ ออกแบบไว้สืบทอดอำนาจเอง ดังนั้น กำหนดการและเวลาการเลือกตั้งจะต้องเป็นไปตามกลไกรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว จะยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ

เมธา มาสขาว เลขาธิการ ครป.

เมธา ระบุว่า ที่น่าเป็นห่วงก็คือกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ โปร่งใส เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตยได้อย่างไร โดยไม่เอียงข้างฝ่ายอำนาจนิยม เพราะมีเรื่องที่ กกต.จะไม่รายงานผลคะแนนแบบเรียลไทม์ โดยอ้างต้องผ่านการตรวจสอบก่อน แต่ถูกตั้งคำถามเยอะมากจึงประกาศจะรายงานผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการผ่านทางระบบ “ECT Report” แต่ไม่รายงานผ่านแอปพลิเคชันเหมือนครั้งก่อนทั้งๆ ที่ประมูลจัดจ้างออกแบบทำไว้แล้ว แต่เรื่องนี้ภาคประชาชนจะทำงานคู่ขนานโดยรายงานผลประจำหน่วยต่อสาธารณะไปด้วย เพื่อให้ตรงกันและไม่ให้เกิดการโกงการเลือกตั้งหรือรวมคะแนนผิด และขอให้ภาคประชาชนร่วมกันเป็นอาสาสมัครและนักข่าวพลเมืองรายงานผลการเลือกตั้งต่อสาธารณะร่วมกันทั่วประเทศ 

เลขาธิการ ครป. กล่าวว่า เนื่องจากในยุคนี้องค์กรอิสระที่ออกแบบมาตามรัฐธรรมนูญ 40 ถือว่าอ่อนแอลงมากที่สุด และบางส่วนอิงแอบอำนาจรัฐ  เพราะรัฐธรรมนูญ 60 ไม่ได้มาจากเจตนารมณ์สมบูรณ์ของประชาชน เพราะมีการบังคับประชามติโดยไม่มีทางเลือก และออกแบบให้องค์กรอิสระอยู่ภายใต้อำนาจและอาณัติของรัฐบาล องค์กรอิสระทั้ง 5 องค์กร คัดเลือกโดยคนของ คสช. และที่ประชุมวุฒิสภา ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนหรือผ่านสภาผู้แทนราษฎร 

เลขาธิการ ครป. ระบุต่อว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าเป็นห่วง มีเรื่องการนับรวมคนไทยที่ไม่มีสัญชาติและการแบ่งเขตเลือกตั้งที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งอาจเกิดการเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายรัฐบาลผู้มีอำนาจ มีเรื่องการหาเสียงที่ทำผิดรัฐธรรมนูญและกติกากันเอง โดยเฉพาะพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลในขณะนี้ มีเรื่องการชงให้ยุบพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะจริงๆ พรรคการเมืองต้องถูกยุบยาก และจริงๆ ไม่ควรบังคับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สังกัดพรรคด้วยซ้ำ เพราะเป็นการลิดรอนสิทธิทางการเมืองตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล

เมธา กล่าวด้วยว่า ที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้นก็คือ หลังผลการเลือกตั้งออกมา จะมีการออกแบบพรรคร่วมรัฐบาลโดยให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เป็นฐานในการจัดตั้งรัฐบาล และโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านกติกาตามรัฐธรรมนูญที่ไม่ชอบธรรมเหมือนการเลือกตั้งในปี 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเลือกใช้วิธีนี้หากได้เสียง ส.ส.เกิน 25 เสียง น่าเสียดายที่มีการเรียกร้องให้มีการลงประชามติตัดอำนาจ สว.เลือกนายกฯ ไม่ทัน เพราะวุฒิสภาโหวตคว่ำผลการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ต้องการให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการใดๆ จนถูกตั้งคำถามว่า ส.ว.มีไว้ทำไม เป็นกาฝากประชาธิปไตยหรือไม่

เมธา ทิ้งท้ายว่า แต่พรรคการเมืองต่างๆ จะพิทักษ์หลักการประชาธิปไตยในเรื่องนี้ได้อย่างไร จะต้องมีการร่วมกันให้สัตยาบันกับประชาชน โดย ครป.และเครือข่าย 30 องค์กรประชาธิปไตย จะรณรงค์เรื่องนี้ในช่วงเลือกตั้ง และจัดเวทีสัญญาประชาคมพรรคการเมืองในเรื่องต่างๆ เพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยร่วมกัน และหวังว่าครั้งนี้ "ฝ่ายอำนาจนิยมจะพ่ายแพ้ต่อฝ่ายประชาธิปไตยเสรีนิยม" ดังที่ พล.อ. ประวิตร กล่าวไว้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net