ธนาธร-ชำนาญ ชวนคนใต้คุยเรื่องกระจายอำนาจ ปลดล็อคท้องถิ่น

ธนาธร-ชำนาญ ลุยนครศรีธรรมราช ชวนคนใต้คุยเรื่องกระจายอำนาจ ปลดล็อคท้องถิ่น โฆษก กมธ.กระจายอำนาจ ระบุมุ่งเน้นการศึกษาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินที่อยู่ในส่วนของท้องถิ่น ตรวจสอบและผลักดันเพิ่มเติมงบประมาณให้องค์กรปกครองท้องส่วนถิ่นทั่วประเทศ

5 พ.ค.2565 ทีมสื่อคณะก้าวหน้า รานงานว่า วันนี้ (5 พ.ค.65) ที่โรงแรมปุระนคร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช คณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดโครงการสัมมนารัฐธรรมนูญกับการกระจายอำนาจ โดยมี ไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางมากล่าวต้อนรับคณะกรรมาธิการฯ แทนผู้ว่าราชการจังหวัดฯ 

สมชาย ฝั่งชลจิตร โฆษกกรรมาธิการการกระจายอำนาจ ได้กล่าวเปิดงาน โดยอธิบายเน้นย้ำว่าการทำงานในฐานะกรรมาธิการนั้นประกอบด้วย ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ในส่วนของการทำงานของกรรมาธิการชุดนี้ มุ่งเน้นการศึกษาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินที่อยู่ในส่วนของท้องถิ่น อบจ. อบต. เทศบาลทั่วประเทศ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา รวมทั้งการตรวจสอบและผลักดันเพิ่มเติมงบประมาณให้องค์กรปกครองท้องส่วนถิ่นทั่วประเทศ

วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้พูดถึงแนวทางและขั้นตอนของการกระจายอำนาจ และร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้เกิดการกระจาย งาน เงิน คน ไปพร้อมกัน นอกจากนั้นยังเสนอให้มีการทำประชามติทั้งประเทศเพื่อยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคภายใน 5 ปี และสร้างกลไกการตรวจสอบการใช้อำนาจท้องถิ่นโดยประชาชนโดยตรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานยังมีการเชิญวิทยากรอีก 2 ท่านได้แก่ ชำนาญ จันทร์เรือง และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งชำนาญได้บรรยายในหัวข้อรัฐธรรมนูญกับการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นถูก กําหนดขึ้นในรัฐธรรมนูญครั้งแรก เมื่อปี 2540 ต่อเนื่องมาถึงรัฐธรรมนูญ 2550 ได้มีบทบัญญัติให้การสนับสนุนองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นมีความเจริญเติบโตมากขึ้น แต่ในรัฐธรรมนูญ 2560 กลับมีการจำกัดกรอบหน้าที่และอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลง เพราะเมื่อวิคราะห์จากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วเห็นว่าไม่มีการบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องการกระจายอำนาจไว้เลย ที่สำคัญคือแม้แต่คําว่า “การกระจายอำนาจ” ก็ยังไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 แม้แต่คําเดียว ที่สําคัญที่สุดคือบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ควรเน้นเฉพาะในเร่ืองการดําเนินกิจการบริการสาธารณะเท่านั้น แต่ควรมีบทบาทในการดําเนินกิจการในเรื่องอื่นด้วย เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การสร้างงาน การช่วยเหลือคนยากจน เป็นต้น ช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 นี้ จะพบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีศักยภาพสูงในการช่วยเหลือทั้งในเรื่องการจัดการพื้นที่หรือการจัดสรรงบประมาณต่าง ๆ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ได้เป็นอย่างดี 

ธนาธร กล่าวว่าปัจจุบันตนเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง ซึ่งได้ดำเนินนโยบายทั้งในเรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น น้ำประปาดื่มได้ หรือพยายามสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การท่องเที่ยวชุมชน ที่กระจายเงินและงานไปยังพี่น้องในชุมชนนั้นๆ แต่ตนยังพบปัญหาว่าทั้งในเรื่องสาธารณูปโภคและการพัฒนาเศรษฐกิจหรือโครงการต่างๆ ยังถูกจำกัดด้วยข้อกฎหมายหลายประการ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ดังนั้นตนจึงขอเสนอให้มีการปลดล็อคท้องถิ่น ซึ่งรูปธรรมคือการทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดทำบริการสาธารณะเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียงไม่กี่อย่าง หรือการจัดสรรงบมาณใหม่ เป็นแบบ 50 : 50 เพื่อให้บริหารจัดการโดยท้องถิ่นและเพิ่มอิสระของท้องถิ่นในการหารายได้ เช่น มีอำนาจในการเก็บภาษีแบบใหม่ๆ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในงานดังกล่าว บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาเข้าร่วมประมาณ 300 คน โดยในช่วงท้าย นายธนาธรได้กล่าวเชิญชวนว่าทุกท่านร่วมสนับสนุกการเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อคท้องถิ่น ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมเป็นอย่างดี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท