สงครามยูเครน ปัญหาโลกร้อน สะเทือนถึงทุเรียนมาเลเซีย ต้นทุนเพิ่ม-ผลผลิตลด

วิกฤตโลกอย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน กับภาวะโลกร้อน ส่งผลกระทบถึงราชาแห่งผลไม้อย่างทุเรียน โดยราคาทุเรียนมาเลเซียปีนี้อาจเพิ่มสูงขึ้น เนื่องมาจากภาวะโลกร้อนกับปัญหาศัตรูพืชทำให้ผลผลิตลดน้อยลง และสงครามก็ทำให้ราคาต้นทุนอย่างเช่นปุ๋ยที่ใช้มีราคาเพิ่มสูงขึ้น

แผงขายทุเรียนแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ภาพถ่ายปี ค.ศ. 2015 ที่มา: แฟ้มภาพ/Sarah Klasing/Wikipedia

เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในมาเลเซียเปิดเผยว่าผลผลิตทุเรียนในปีนี้ลดลงร้อยละ 60 เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศที่ไม่ดี, ปัญหาศัตรูพืช และราคาที่ถูกตั้งไว้สูงขึ้นร้อยละ 10 ในปีนี้

วิลสัน ชาง ประธานของกลุ่มสหพันธ์กอบกู้ทุเรียนพันธุ์มุสังคิง (SAMKA) กล่าวว่าปัญหาเรื่องผลผลิตที่ลดลงนั้นยังส่งผลให้เกษตรกรไม่กล้าส่งออกทุเรียนไปนอกประเทศด้วย

ชางเปิดเผยว่า "หน้าทุเรียนในปีนี้มีความผันผวน ทุเรียนดูไม่สวยเท่าเดิม ไม่มีวิธีการอื่นๆ ที่จะหยุดยั้งศัตรูพืช และมีต้นทุเรียนบางต้นที่อาจจะตาย มันอาจจะต้องใช้เวลา 1-2 ปีในการทำให้ต้นทุเรียนฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงได้"

ชางบอกอีกว่าสาเหตุที่ทุเรียนมาเลเซียราคาสูงขึ้นนั้นยังมีปัจจัยมาจากราคาต้นทุนการดูแลที่สูงขึ้นและราคาปุ๋ยที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นผลผวงมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

อย่างไรก็ตามชางประเมินว่าราคาทุเรียนมุสังคิงที่สูงขึ้นนั้นจะยังไม่ถือว่าสูงเกินไปนัก โดยบอกว่าจากเดิมที่ราคากิโลกรัมละ 45 ริงกิต (ราว 350 บาท) อาจจะขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละมากกว่า 55 ริงกิต (ราว 430 บาท)

ในวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา อาห์หมัด ฮัมซาห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของมาเลเซีย กล่าวว่าราคาทุเรียนอาจจะเพิ่มสูงขึ้นสองเท่าในปีนี้ หลังจากที่ผลผลิตลดลงร้อยละ 50 เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ

มีการประเมินว่าทุเรียนหนามดำอาจจะมีราคาสูงเกินกว่ากิโลกรัมละ 100 ริงกิต (ราว 790 บาท) สำหรับทุเรียนมุสังคิงนั้นฮัมซาห์ได้ประเมินไว้สูงกว่าชานคือน่าจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 ริงกิต ถึง 80 ริงกิต (ประมาณ 470 ถึง 630 บาท) ขึ้นอยู่กับเกรดของทุเรียน เทียบกับที่ก่อนหน้านี้ราคาเคยอยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 30 ริงกิต ถึง 40 ริงกิต (ราว 240 ถึง 350 บาท)

ฮัมซาห์เปิดเผยว่าพวกเขาต้องมีการปรึกษาหารือกับกระทรวงการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของมาเลเซีย รวมถึงหน่วยงานส่งเสริมการตลาดภาคการเกษตรของรัฐบาลกลางมาเลเซีย (FAMA) เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นจำนวนผลผลิตอาจจะยิ่งตกต่ำกว่าเดิม

ฮัมซาห์ประเมินว่าหน้าทุเรียนที่กำลังจะมาถึงในปีนี้จะมีอยู่แค่ 3 เดือนเท่านั้นคือช่วงระหว่างเดือน มิ.ย. ถึง ส.ค.

ขณะเดียวกัน อับด์ มานัน อิชัค เกษตรกรสวนทุเรียนใน กัมปงเตอลักอิรา เมืองเตเมอร์โละ รัฐปาหัง ของมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า ในสวนทุเรียนของเขาที่มีต้นทุเรียนอยู่ 20 ต้นนั้น มีอยู่แค่ต้นเดียวเท่านั้นที่ออกผล

อิชัคบอกว่ามันเป็นเพราะสภาพภูมิอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และบอกว่าผลผลิตในปีนี้น่าจะออกมาน้อย อีกทั้งยังมองว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมันจะส่งผลให้ราคาทุเรียนสูงขึ้น โดยปกติแล้วอิชัคจะปลูกทุเรียนในสวนของเขาเป็นสายพันธุ์พรีเมียมที่เรียกว่าโชกวิลา (Chok Villa)

เรียบเรียงจาก

Durian supply down by nearly 60%, says group, Free Malaysia Today, 16-05-2022

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท