ศาลปกครองกลางยกคำร้อง 'ณภัทร วินิจฉัยกุล' ฟ้อง กสทช. ออกประกาศรวมธุรกิจฯ 'ทรู-ดีแทค' ปี 2561 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

20 มิ.ย.2565 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า  เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้อง ไม่รับการขอทุเลาชั่วคราวของ ณภัทร วินิจฉัยกุล ที่ได้ยื่นศาลปกครองกลางฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยระบุว่า ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธ.ค. 2560 (“ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ”) ไม่ชอบด้วยกฎหมายและได้ยื่นคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาต่อศาลปกครองเพื่อขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับหรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ โดยเร่งด่วน ทั้งนี้ศาลฯ พิจารณาว่า การกล่าวอ้างของณภัทร ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงและไม่ได้เกิดความเสียหายอย่างที่กล่าวอ้าง

ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งยกคำร้องของณภัทร โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าประกาศ กสทช.เรื่องมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธ.ค. 2560 ชอบด้วยกฎหมาย และจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทรูและดีแทคยังอยู่ระหว่างการดำเนินการจดทะเบียนให้เกิดเป็นนิติบุคคลใหม่ซึ่งมีผลเป็นการรวมธุรกิจ ดังนั้น จึงไม่มีความเสียหายร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขในภายหลังตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างแต่อย่างใด

นอกจากนี้ การให้ทุเลาการบังคับหรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ อาจเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของ กสทช.ด้วยเช่นกัน ซึ่งคำสั่งของศาลปกครองที่ยกคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเป็นที่สุดและไม่สามารถอุทธรณ์

ทั้งนี้ กสทช.ได้ดำเนินการตาม roadmap ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ คาดว่าจะระบุผลการพิจารณาในกรณีมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เพื่อแจ้งให้ทรูและดีแทคทราบ ซึ่งยังคงเป็นไปตามประกาศ ปี 61 โดยยังคงเป็นไปตามแผนการดำเนินการที่ประกาศไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. (กตป.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด กสทช. ได้ออกมาชี้แจงว่ากรณีที่ณภัทร ได้ยื่นหนังสือถึง กสทช.กรณีควบรวมทรู-ดีแทคเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวซูเปอร์บอร์ด โดยณภัทรเป็นหนึ่งในซูเปอร์บอร์ด กสทช.รับผิดชอบเฉพาะกิจการกระจายเสียง และไม่เคยนำเรื่องควบรวมดังกล่าวมาหารือที่ประชุม

ที่มา : สำนักข่าวไทย และไทยพีบีเอส