'พรรคกล้า' อัดนโยบายรัฐทำคนเป็นหนี้เพิ่ม 'เพื่อไทย' ชี้ค่าแรง 425 บาท รัฐบาลยังทำไม่ได้ จะรับผิดชอบอย่างไร

'พรรคกล้า' อัดนโยบายของรัฐทำคนเป็นหนี้เพิ่ม จี้เร่งช่วยประชาชน แนะพักชำระเงินต้น 2 ปี ลดดอกเบี้ยเหลือ 1% 'เพื่อไทย' ชี้ค่าแรง 425 บาท รัฐบาลยังทำไม่ได้ จะรับผิดชอบอย่างไร เป็นนโยบายหาเสียงแล้วทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ กกต.ต้องมีคำตอบ

27 ส.ค. 2565 สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่านายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กว่าวถึงจำนวนหนี้ของประชาชนที่มีการกู้เงินในช่วงโควิด-19 มีจำนวนบัญชีเงินกู้ของคนไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 13 ล้านบัญชี ซึ่ง 10ล้านบัญชี เป็นผลพวงมาจากนโยบายของรัฐ โดยประชาชนกลุ่มนี้จากที่ไม่เคยมีปัญหาตอนนี้กู้เพิ่มไม่ได้เพราะติดเครดิตบูโรไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในจำนวน13 ล้านบัญชี รวมเป็นเงินประมาณ 3 แสนกว่าล้านบาท และต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ประชาชนติดหนี้ มาจากนโยบายของรัฐในช่วงโควิด ที่ออกมาเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย

ดังนั้นพรรคกล้าจึงมองว่าต้องช่วยประชาชนที่เป็นหนี้ โครงการที่รัฐต้องเร่งพัฒนา คือ “กล้าฟื้นชีวิต” คือการพักชำระเงินต้น 2ปี , ลดดอกเบี้ยเหลือ 1% 1 ปี และ แขวนดอกเบี้ยค่าปรับ ซึ่ง 10 ล้านบัญชี ที่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และจ่ายเงินตรงทุกเดือน รัฐก็จะคืน Cash Back 5 % ให้

โครงการนี้จะช่วยให้ประชาชนที่ติดบูโรสามารถกลับฟื้นขึ้นมาได้โดยเร็ว โครงการนี้ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเลย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี สามารถนำเรื่อนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)และออกมาตราการนี้มาช่วยเหลือประชาชนได้ทันที เพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการอยู่ตอนนี้คือ เวลา เพราะทุกคนที่เป็นหนี้มาจากต้นทุนที่ดี มีอาชีพ มีธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม การเสนอโครงการในวันนี้ เพราะเห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลนิ่งเฉย ไม่มีมาตราการใดออกมาช่วยประชาชนที่เป็นหนี้โดยเฉพาะเป็นหนี้ช่วงโควิด หวังว่าเรื่องนี้จะเข้าไปสู่การพิจารณาใน ครม.ซึ่งหากประชุมเร็วที่สุดก็สามารถช่วยเหลือประชาชนได้เร็วเช่นกัน

'เพื่อไทย' ชี้ค่าแรง 425 บาท รัฐบาลยังทำไม่ได้ จะรับผิดชอบอย่างไร

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่า นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี มติคณะกรรมการค่าจ้างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2565 ชลบุรี, ระยอง, ภูเก็ต ค่าแรง 354 บาทต่อวัน ส่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้ , น่าน และ อุดรธานี ถูกสุด 328 บาทต่อวัน ว่าพรรคพลังประชารัฐที่ตอนนี้มีหัวหน้าพรรคเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี รู้สึกอย่างไร ที่นโยบายหาเสียงเป็นสัญญาประชาคมกับประชาชน ไม่สามารถทำได้ตามสัญญาทั้งที่มีอำนาจล้นมือ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ หลอกลวง เพื่อหวังผลคะแนนตอนเลือกตั้งหรือไม่ ตอนหาเสียงบอกว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท เท่ากันทั่วประเทศ พอมาเป็นรัฐบาลปรับแต่ละครั้งกระปริบกระปรอย แต่ละพื้นที่ก็ปรับไม่เท่ากัน ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำ จนปลายอายุรัฐบาล จังหวัดที่ได้มากที่สุดก็ยังห่างไกลจาก 425 บาทที่หาเสียงอยู่มาก แทนที่จะพูดในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่พูด กลับพูดแล้วไม่ทำ และอาจเตรียมไปพูดโม้ใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เกียรติภูมิของความเป็นพรรคการเมืองแทบไม่เหลือ 

กกต.จะดำเนินการอย่างไร ถ้าพรรคการเมืองไปหาเสียงแล้วทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ แล้วไม่เกิดผลอะไรทางกฏหมาย ต่อไปพรรคไหนอยากพูดอะไร อยากสัญญาอะไร พอทำไม่ได้ก็ไม่มีความผิด ไม่ต้องรับผิดชอบ กลายเป็นเพียงคำสัญญาที่ว่างเปล่าหลอกลวงประชาชน นโยบายที่ใช้หาเสียงแล้วทำไม่ได้ควรมีราคาที่ต้องจ่าย จะยุบพรรคหรือถูกลงโทษอย่างไรก็ควรต้องมีบรรทัดฐาน พรรคพลังประชารัฐยังหาเสียงนโยบายเงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น 20,000 บาท เงินเดือนอาชีวะเริ่มต้น 18,000 บาท ปลดหนี้นอกระบบผู้ใช้แรงงาน 10 ล้านราย ที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท นโยบายมารดาประชารัฐ พรรคพลังประชารัฐทำหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ทำหรือทำไม่ได้ จะรับผิดชอบอย่างไร ค่าแรงขึ้นยังไงให้เหมือนไม่ขึ้น แทนที่จะขึ้นค่าแรง แต่ดันไปขึ้นค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน เพิ่มภาระค่าครองชีพพุ่งสูง

“พล.อ.ประยุทธ์ หยุด ประเทศไทยต้องไม่หยุด ประชาชนเดือดร้อน จากนโยบายที่ใช้หาเสียงแล้วทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ กกต.ต้องมีคำตอบ” นายอนุสรณ์ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท