นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงาน รวม 5 คน ได้รับหมายเรียก ข้อหาร่วมกันละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากการชุมนุมหน้าทำเนียบ เมื่อ 23 ส.ค. 65 เพื่อไล่ประยุทธ์ และเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาคุณภาพชีวิต ด้านผู้นำแรงงานมองรัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปิดปาก ปชช. 

9 ก.ย. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และสหภาพคนทำงาน รายงานวานนี้ (8 ก.ย.) บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เผยว่า สมาชิกกลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และสหภาพคนทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มภาคประชาสังคมที่เคลื่อนไหวด้านสิทธิแรงงาน ได้รับหมายเรียกข้อหา ร่วมกันละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกโดย สน.นางเลิ้ง จากเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขับไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวาระครบรอบ 8 ปี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนในประเทศ

เอกสารหมายเรียก ธนพร วิจันทร์ นักกิจกรรมด้านสิทธิแรงงาน (ที่มา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน)

จากการสอบถามทางข้อความกับผู้ประสานงาน สหภาพคนทำงาน เผยว่า มีประชาชนได้รับหมายเรียกจากกิจกรรมดังกล่าว จำนวน 5 ราย ได้แก่ ธนพร วิจันทร์ หรือไหม นักกิจกรรมด้านสิทธิแรงงานจากสหภาพคนทำงาน เซีย จำปาทอง ผู้นำสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอและกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต สุธิลา ลืนคำ นักกิจกรรมเพื่อสิทธิแรงงาน สมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24มิถุนาประชาธิปไตย และ สนธยา วงษ์ศรีแก้ว นักกิจกรรมแรงงาน

สหภาพคนทำงาน ระบุว่า การออกประท้วงครานั้น เพราะต้องการส่งเสียงความเดือดร้อนของประชาชน อันมีสาเหตุจากการบริหารของรัฐบาลที่ไร้น้ำยา ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ในสภาวะของแพงค่าแรงถูก รวยกระจุก จนกระจาย แต่นอกจากรัฐบาลประยุทธ์จะปล้นอำนาจและทรัพย์สินของประเทศไปแล้ว ยังใช้กฎหมายกดหัวประชาชนผู้ใช้แรงงานเยี่ยงไพร่ทาสสมัยโบราณอีกด้วย

สำหรับการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา นักกิจกรรมเพื่อสิทธิแรงงาน นัดรวมตัวประท้วงและมีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลทั้งหมด 3 ข้อ ประกอบด้วย 

1. ให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกภายในวันที่ 24 ส.ค. 2565 
2. ให้พรรคพลังประชารัฐ ปรับค่าแรงขั้นต่ำตามที่ได้หาเสียงไว้ โดยปรับเป็น 425 บาทต่อวัน เท่ากันทั่วประเทศ ภายในเดือน ต.ค. 2565 และปรับเป็น 495 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศ ภายใน ม.ค. 2566
3. ลดค่าน้ำมันทุกชนิดลงลิตรละ 6 บาท และลดค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าครองชีพ ให้กับประชาชน

ขณะที่ เซีย จำปาทอง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กวานนี้ว่า รัฐบาลกำลังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือปิดปากผู้เห็นต่าง พร้อมยืนยันสิทธิการรวมตัวของประชาชนเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และการแก้ปัญหาให้ประชาชนเป็นหน้าที่ของรัฐบาล

“ในฐานะผู้ใช้แรงงานยืนยันว่าสิทธิการรวมกลุ่มของประชาชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และการดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหน้าที่ของรัฐ 

“แต่ในปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐที่สืบทอดอำนาจเผด็จการพวกเขาจึงใช้  พรก.ฉุกเฉินฯ เป็นเครื่องมือปิดปากประชาชนที่เห็นต่าง  โดยมิได้สำนึกแม้แต่น้อยว่าเงินเดือนที่ได้รับทุกๆ เดือนมาจากหยาดเหงื่อของผู้ใช้แรงงานและประชาชน” โพสต์ของเซีย จำปาทอง ระบุ