ขบวนแรงงานไปทำเนียบ ไล่ประยุทธ์อยู่ 8 ปีนานพอแล้ว

กลุ่มเครือข่ายแรงงาน 15 แห่งรวมตัวกันเดินขบวนไปทำเนียบขับไล่ประยุทธ์ ยืนยันอยู่ในตำแหน่ง 8 ปีนานเกินอีกทั้งได้รับเลือกตั้งมาก็ไม่ได้ทำตามสัญญาขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 425 บาท/วันให้ กระทั่งเกิดปัญหาเศรษฐกิจข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูงจนค่าแรงที่เคยหาเสียงไว้ก็ไม่พอแล้ว

23 ส.ค.2565 บริเวณพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล ประชาชนนัดรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี หากเริ่มนับตั้งแต่ 24 ส.ค.2557 หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ทำรัฐประหารเข้ามาปกครองประเทศได้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี

เวลา 9.30 น. Friends Talk ถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายแรงงานที่เริ่มรวมตัวกันที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐตามที่มีการประกาศนัดหมายไว้ โดยประชาชนที่เข้ามาร่วมมีการถือป้าย “ประยุทธ์ออกไป” “ให้มันจบที่ 8 ปี” ป้ายวิจารณ์ปัญหาราคาสินค้า ค่าครองชีพที่สูงขึ้นโดยไม่มีการควบคุม รวมถึงป้ายทวงคำสัญญาขึ้นค่าแรงขั้รต่ำ 425 บาท ของพรรครัฐบาลรวมถึงการเรียกร้องให้ต้องขึ้นค่าแรงถึง 725 บาทเพื่อให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในขณะที่บนรถเครื่องเสียงมีการปราศรัยยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ในตำแหน่งมาถึง 8 ปีแล้วและการได้ตำแหน่งมาก็มาจากการรัฐประหารซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก รวมถึงปัญหาที่รัฐบาลประยุทธ์ไม่สามารถำตามสัญญาได้แต่ก็ยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และปัญหาการบริหารประเทศที่ล้มเหลวที่ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้และ

จากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. เริ่มตั้งขบวนและเดินออกจากบริเวณหน้าพาณิชยการพระนครไปที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐซึ่งมีการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ปิดครึ่งสะพานพร้อมมีแนวรั้วเหล็กของตำรวจที่มีแนวตำรวจชุดกากีไม่มีอุปกรณ์ควบคุมฝูงชรยืนเรียงแถวอยู่หลังรั้วประมาณ 20 นาย พร้อมเครื่องขยายเสียง ฝั่งมวลชนประกาศขอให้ตำรวจได้เปิดทางให้ประชาชนได้เดินผ่านไปที่ทำเนียบพร้อมสะท้อนปัญหาความลำบากของแรงงานที่อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลประยุทธ์โดยไม่ได้รับการดูแลและทำร้ายประชาชน

สำหรับแถลงการณ์ที่มีเครือข่ายแรงงานร่วมลงชื่อทั้งหมด 15 กลุ่ม มีการระบุข้อเรียกร้องไว้ 3 ข้อคือ 

1. ให้ทำตามสัญญาที่พรรคปพลังประชารัฐหาเสียงไว้ว่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท/วัน และให้ปรับขึ้นเป็น 492 บาท/วันด้วยภายในเดือนมกราคม 2566 เพราะราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น

2. ลดราคาน้ำมันทุกชนิดลง 6 บาท/ลิตร ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าครองชีพให้กับประชาชน

3. พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายในวันที่ 24 ส.ค.2565 

นอกจากนั้นยังมีตัวแทนจากเครือข่ายแรงงานกลุ่มต่างๆ เวียนกันขึ้นปราศรัยด้วย

ตัวแทนจากสหภาพคนทำงานปราศรัยว่ายืนยันว่าประยุทธ์จะต้องออกจากตำแหน่งและจะต้องได้รับโทษจำคุกจากการทำรัฐประหาร และเครือข่ายแรงงานก็มีสิทธิที่จะออกมาขับไล่เผด็จการเพราะชีวิตของคนทุกคนจะไม่มีความเจริญภายใต้ทหารและชีวิตจะไม่ดีขึ้นจนกว่าประเทศจะเป็นประชาธิปไตยเต็มใบมีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน เพราะรัฐบาลยังดำเนินคดีกับคนเห็นต่างอยู่นับพันคน

สหภาพคนทำงานยืนยันว่าจะมุ่งสร้างรัฐสวัสดิการ มีเรียนฟรีมีเงินเดือนถึงระดับอุดมศึกษา รักษาฟรีถ้วนหน้า ขนส่งสาธารณะที่ดี เพราะทั้งหมดคือการกระจายความมั่งคั่งที่จะทำได้ผ่านการกระจายอำนาจในระบอบประชาธิปไตย ชีวิตที่ดีและการเมืองจึงเป็นสิ่งเดียวกัน

"เมื่อประชาชนคนทำงานไม่มีกระทั่งปากเสียง เราก็ไม่มีปากท้องที่มั่นคงเช่นกัน" ตัวแทนจากสหภาพคนทำงานกล่าว

ตัวแทนจากสหภาพไรเดอร์ขึ้นเล่าปัญหาสภาพการทำงานของไรเดอร์ในแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งเรื่องค่าตอบแทนต่อรอบที่เปลี่ยนไปมาและต่ำลงเรื่อยๆ ที่ตอนนี้มาถึง 15 บาทต่อรอบแต่ไรเดอร์ต้องแบกรับต้นทุนค่าน้ำมันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการทำงานในสภาพที่มีความปลอดภัยในชีวิตต่ำจากการต้องเผชิญความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนท้องถนนแต่ไม่ได้รับการดูแลจากบริษัทแพลตฟอร์ม แต่ปัญหาเหล่านี้รัฐบาลก็ไม่เคยดูแลและไม่มีการออกกฎหมายมาคุ้มครอง

สมยศ พฤกษาเกษมสุข ปราศรัยว่าการขึ้นค่าแรงไม่ได้ทำให้ประเทศเสียหายเพราะตอนสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นถึง 6.5% เพราะทำให้เกิดการกระจายตัวของเงินจากมหาเศรษฐีมาสู่คนจนมากขึ้นแม้ว่าจะไม่ได้ทำให้คนจนกลายเป็นคนรวยเลยก็ตามและจนเหมือนเดิมต่อให้ขึ้นค่าแรงเป็น 495 บาท/วันแล้วแต่ก็ยังเป็นการชดเชยอัตราสินค้าที่แพงขึ้นสมกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นและหวังว่าตำรวจที่มากันจะเข้าใจเพราะก็คงมีคนในครอบครัวที่ต้องทำงานในโรงงานหรือห้างร้านต่างๆ ถ้าขึ้นค่าจ้างชีวิตทุกคนดีขึ้นหมด

"อันนี้เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าภายใต้การบริหารงานของประยุทธ์ จันทร์โอชา 8 ปีที่ผ่านมานั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเราดีขึ้นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลชุดนี้มาแบบโจรแล้วก็แสดงพฤติกรรมแบบโจรโดยปล้นภาษีของพวกเราผ่านน้ำมัน" สมยศกล่าวโดยเทียบกับราคาน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกกว่าหมดเพราะแพงกว่าจากการคิดภาษีสรรพสามิตที่สูงถึง 6 บาท/ลิตรและยังมีค่าการกลั่นน้ำมันที่สูงขึ้นมาถึง 6 บาทแล้วจากสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่อยู่เพียงประมาณ 3 บาท ทำให้คนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มีเพียงบริษัทพลังงานอย่าง ปตท.และบริษัทที่มีโรงกลั่นน้ำมัน

11.20 น. พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์​ ผู้กำกับการ สน.นางเลิ้ง แจ้งว่าเนื่องจากขณะนี้ยังมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และมีประกาศห้ามชุมนุมเว้นแต่จะปฏิบัติตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ดังนั้นการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายแรงงานนี้เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายเนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งจัดการชุมนุมกับตนก่อน 24 ชั่วโมงตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และให้เลิกการชุมนุมภายใน 10 นาที คือ 11.30 น. 

อย่างไรก็ตามผกก.สน.นางเลิ้งได้ระบุว่าหากต้องการชุมนุมต่อขอให้ทำหนังสือถึงผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เพื่อให้ใช้ดุลพินิจต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร และเขายืนยันว่าการชุมนุมที่เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธยังสามารถทำได้ไม่ได้ห้ามมีการชุมนุม

ธนพร วิจันทร์ จากเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนที่อยู่บนรถเครื่องเสียงได้ประกาศว่าการชุมนุมนี้จะผิดพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ได้อย่างไรเพราะขณะนี้มีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่และการชุมนุมนี้เป็นเพียงการทวงสัญญาที่รัฐบาลเคยให้ไว้แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับมาใช้กฎหมายในการกดขี่ประชาชนทั้งที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเสรีภาพ พร้อมถามว่าทำไมไม่ไปบอกพล.อ.ประยุทธ์ให้ลาออกไป

จากนั้นธนพรอ่านแถลงการณ์และกล่าวว่าตอนนี้ทุกกลุ่มเครือข่ายไม่ยอมรับพล.อ.ประยุทธ์แล้วและกำลังจะออกมาชุมนุมอีกหลายกลุ่ม ส่วนมวลชนที่มาร่วมก็ได้เอาหุ่นจำลองนายกรัฐมนตรีและป้ายรณรงค์มาเผา เมื่อเผาหมดได้ช่วยกันเก็บกวาดออกจากผิวถนน

11.50 น. รถเครื่องเสียงประกาศพักการชุมนุม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท