Skip to main content
sharethis

แถลงข่าวเปิดแคมเปญ “50,000 ชื่อ ร่วมเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบโดย สสร.” เลขาธิการ ครป. หวังเปลี่ยนแปลงกติกาใหม่ที่เป็นธรรม และมีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 21 ที่เป็นประชาธิปไตยเสียที


นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) 

10 ธ.ค. 2565 นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แจ้งข่าวว่าในงานแถลงข่าว “50,000 ชื่อ ร่วมเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบโดย สสร.” เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม ณ ห้องสเตทรูม โรงแรม Westin สุขุมวิท ตนได้ระบุว่าวันนี้ครบรอบ 90 ปีประชาธิปไตย ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 20 ฉบับ เพราะติดกับดักอำนาจนิยม ประชาธิปไตยของไทยเลยไม่พัฒนาก้าวหน้าเป็นขั้นบันใด 

"เนื่องในวันรัฐธรรมนูญนี้ ผมจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมลงชื่อ 50,000 ชื่อ เพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยโดยให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ซึ่งภาคประชาชนร่วมกับพรรคไทยสร้างไทยเสนอริเริ่มต่อรัฐสภาและวันนี้ได้เปิดให้ประชาชนลงชื่อได้แล้วในระบบอิเลคทรอนิกส์ของเว็บไซด์รัฐสภา เพื่อเปลี่ยนแปลงกติกาใหม่ที่เป็นธรรม และมีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 21 ที่เป็นประชาธิปไตยเสียที" เมธา กล่าว

นายเมธา กล่าวว่า ภาคประชาชนสนับสนุนให้มีการแก้ไขและร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากประการที่หนึ่ง ที่ผ่านมาเรามีเจตจำนงค์ของประชาชนในการร่วมกันผลักดันรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย หรือฉบับประชาชน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 ที่เป็นกับดักอำนาจนิยม ที่ผ่านมาเราเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งจากพรรคการเมืองและภาคประชาชนแล้วกว่า 25 ฉบับ แต่ผ่านเพียงฉบับเดียวคือการแก้ระบบเลือกตั้งและสัดส่วน ส.ส. ที่ฝ่ายรัฐบาลคิดว่าจะได้ประโยชน์ในครั้งแรก สำหรับร่างแก้ไขฉบับใหม่นี้ เป็นไปตามที่รัฐสภาเคยรับหลักการให้มี ส.ส.ร. ผ่านวาระ 2 ไปแล้วและค้างอยู่วาระ 3 และไม่ขัดต่อคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใดเพราะเป็นร่างแก้ไขหมวดที่ 3 เป็นต้นไป และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้เพื่อเปิดทางให้มี ส.ส.ร. มาร่างใหม่ในอนาคต เป็นครั้งสุดท้ายที่สามารถทำได้ในการประชุมครั้งสุดท้ายของรัฐบาลนี้เพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง

เหตุผลประการที่สอง เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 60 คือฉบับที่เลอะเทอะที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะให้อำนาจ ส.ว.จากการแต่งตั้งของคนไม่กี่คนมาแต่งตั้งนายกฯ ผิดหลักการและทำลายประชาธิปไตยไปหมด กฎหมายหลายฉบับไม่ผ่านรัฐสภาเพราะ ส.ว.แต่งตั้งเหล้านั้น ถ้าไม่มี ส.ว. ก็ผ่านทุกร่าง ดังนั้น ส.ว.คืออุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตยและการปฏิรูปการเมือง

ประการที่สาม รัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญนี้จึงใช้อำนาจนิยมแบบเลอะเทอะที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน เพราะแม้แต่ พล.อ.ประยทธ์ ก็ไม่เคยเคารพรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่การละเมิดมาตรา  161 เรื่องถวายสัตย์ มาตรา 44 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมแต่ไปออกกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ไปละเมิด รวมถึงมาตรา 56 ที่รัฐไปทำสัญญาเอกชนสัมปทานผูกขาดการผลิตไฟฟ้าโดยเอกชนเกินร้อยละ 51 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยภายในเดือนมกราคมนี้

ประการที่สี่ ในปีหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถือเป็นเจตจำนงค์ที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องทำสัญญาประชาคมกับประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไป ทุกพรรคจะต้องมีคำตอบและแนวทางที่ชัดเจน พรรคไหนไม่มีแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือจะไปต่ออีก 2 ปี ประชาชนก็ไม่ต้องไปเลือก

"โดย ครป. และภาคประชาชนจะจัดเวทีใหญ่เพื่อนำเสนอแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนในวันที่ 18 ธันวาคมนี้  เพื่อร่วมกันออกแบบรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย เพื่อนำเสนอต่อทุกพรรคการเมืองและ ส.ส.ร.ในอนาคตต่อไปเป็นไกด์ไลน์ข้อเสนอจากฝ่ายประชาชน" เมธา กล่าว

ขอเชิญร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดย ส.ส.ร. ตามลิ้งค์นี้
https://dev.parliament.go.th/einitiative/petloginbyshr.aspx


มติชนออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่านายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวตอนหนึ่งในการแถลงข่าว “50,000 ชื่อ ร่วมเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบโดย สสร.” ว่า 90 ปีมานี้เราอยู่ในวงจรอุบาทว์มาตลอดเวลา คือการเลือกตั้ง รัฐประหาร สืบทอดอำนาจและก็เลือกตั้ง สิ่งที่เห็นชัดเจนคือไม่มีใครมองประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ยืนยันว่าคนไทยทุกคนต้องได้รับ สิทธิ์การดูแลตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ถูกปล้นไปจากคนที่ยึดอำนาจ ดังนั้นประชาชนเจ้าของประเทศจะต้องมากำหนดทำอนาคตของตัวเองให้ได้ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญเป็นกติกาสูงสุด แต่วันนี้ไม่ได้เขียนโดยประชาชน ถึงจะบอกว่าเห็นชอบแล้ว แต่เห็นชอบแบบถูกบังคับ วันนี้จึงถึงเวลาที่ต้องมาเขียนกติกาด้วยตัวเอง ผ่าน สสร. เพื่อร่างรัฐธรรมนูญให้มีกลไกตัดวงจรอุบาทได้ ทำให้การรัฐประหารล้มล้างรัฐธรรมนูญผิดกฎหมายต้องรับโทษ นี่เป็นภารกิจร่วมของเราทุกคน แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี นี่คือการปฏิวัติครั้งสำคัญด้วยสันติวิธีด้วยการที่ลงชื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้โดยการเปลี่ยนแปลงกติกาสูงสุดเสียใหม่ ซึ่งตนไม่ได้หวังแค่ 5หมื่นรายชื่อ แต่หวัง 5 ล้าน 10 ล้านคน เพื่อกำหนดชะตากรรมของตัวเองด้วยการเขียนกติกาเอง โดยหวังว่าจะได้ครบ 5 หมื่นชื่อภายในปีนี้หรืออย่างช้าสุดภายในมกราคม 65 แล้วประชาชนจะได้รัฐบาลใหม่และรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากประชาชน แม้ทำยังไม่สำเร็จแล้วยังค้างอยู่ แต่รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาก็จะได้ยืนยันว่าจะทำอันนี้ต่อหรือไม่ อยากให้ทุกคนทำสิ่งนี้ให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนและลูกหลานต่อไป

ด้าน น.ส. ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมือง กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์ที่สุดเพราะปิดจุดอ่อน จากการผลักดันให้มีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในช่วงที่ผ่านๆ มา โดยตอบโจทย์ ข้อกังวลที่ว่าจะต้องมีการทำประชามติหรือไม่ เนื่องจากต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ริเริ่ม แต่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความชัดเจนและว่าไม่ได้มีการร่างใหม่ทั้งฉบับ ไม่มีการแตะหมวด 1 หมวด 2 ดังนั้นจึงตัดข้อกังวลว่าจะต้องทำประชาพิจารณ์ออกไป อย่างไรก็ตามการประชาพิจารณ์ไม่ได้ละทิ้งเพราะหลังจากที่สสร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา เรียบร้อยแล้วก็จะต้องมีการทำประชาพิจารณ์อยู่ดี ดังนั้นจึงตอบโจทย์ประชาชนทั้งส่วนที่อยากให้แก้ไขก็เดินต่อได้ ส่วนที่อาจจะยังกังวลว่าจะแก้อะไรก็ไม่ต้องกังวล จึงไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่มาลงชื่ออีกสักครั้ง ในเมื่อเราผ่านการใช้รัฐธรรมนูญปี 60 มา 5 ปีแล้วเราเห็น ปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหาที่บอกว่าเมื่อไหร่อยากจะแก้อะไรสักอย่างหนึ่งจะต้องมีเสียงสว.1 ใน 3 มาสนับสนุน และทุกครั้งที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ารัฐสภาเสียงส่วนใหญ่อยากให้แก้ทุกครั้งที่มีการเสนอเข้าไปแต่ไปแพ้เสียงส่วนน้อยคือเงื่อนไขสว . 84 คน ตรงนี้ไม่เคยถึง ครั้งสุดท้ายคือเรื่องของการปลดล็อคท้องถิ่น

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า แน่นอนว่ากติกาสูงสุดของประเทศคือรัฐธรรมนูญไม่ควรมาจากคนที่ยึดอำนาจ และมีเจตนารมณ์ในการสืบทอดอำนาจ อย่างเด็ดขาด และเราเห็นผลร้ายมาโดยตลอด ตนเริ่มต้นทำงานการเมืองเมื่อปี 2535 เหตุการณ์นั้นเหมือนปัจจุบันเลย มีการรัฐประหารปล่อยให้มีรัฐบาลพลเรือนดูเหมือนจะดี แต่สุดท้ายก็เขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจตนเอง แต่ก็ยังไม่หนักถึงขนาดปัจจุบัน เพียงแต่บอกว่าให้คนนอกเป็นนายกฯ ได้ แต่วันนี้ท่านเห็นแล้วรัฐธรรมนูญฉบับนี้เลวร้ายยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์ มีทั้งคนที่มาเลือกนายกฯ แทนเรา และสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศคือแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ไม่ว่ารัฐบาลไหนมาก็ยังจะคุมรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมาให้ทำหรือไม่ให้ทำอะไรได้โดยการเขียนอย่างละเอียดบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ตนจะต้องขออนุญาตเป็นส่วนหนึ่งร่วมกันกับภาคประชาชน เชิญชวนประชาชนลุกขึ้นมาปฏิวัติ จากคนปฏิวัติด้วยกระบอกปืนมานานแล้ว ครั้งนี้ประชาชนต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติด้วยตัวประชาชนเอง ด้วยปากกาของประชาชน เริ่มต้นตั้งแต่การลงชื่อเพื่อสนับสนุนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ภาคประชาชนและพรรคไทยสร้างไทยร่วมกันเสนอสู่ประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว เราต้องการ 5 หมื่นชื่อตามกฎหมายแต่ก็หวังว่าจะได้เป็นล้านรายชื่อ และขั้นที่ 2 ในวันเลือกตั้ง เราก็ต้องปฏิวัติด้วยประชาชน เพื่อประชาชน เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่เต็มขั้น ได้รัฐบาลที่ประชาชนต้องการ ได้รัฐธรรมนูญที่ประชาชนเขียนเอง และได้ชีวิตที่มีความสุขของเรา สิทธิเสรีภาพและอนาคตของเรากลับคืนมา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net