นักกิจกรรมพม่าชวน 'ประเทศเพื่อนบ้าน' งดซื้อสินค้า ‘คาเฟอเมซอน’ หลัง ปตท.ยังไม่ยุติทำธุรกิจกับกองทัพพม่า

‘Blood Money Campaign’ ซึ่งเป็นกลุ่มนักกิจกรรมพม่า รณรงค์ให้ประเทศเพื่อนบ้าน งดซื้อสินค้าร้านกาแฟเครือ ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ‘คาเฟอเมซอน’ หลัง ปตท.สผ.ยังไม่ยุติการลงทุน-รับซื้อก๊าซธรรมชาติจากโครงการของกองทัพพม่า ด้านซีอีโอของ OR เผยไม่เคยหนุนการละเมิดสิทธิฯ ในเมียนมา 

 

20 ธ.ค. 2565 กลุ่มรณรงค์ต่อต้านเงินเปื้อนเลือด หรือ ‘Blood Money Campaign’ (BMC) ออกแถลงการณ์ขอให้ประชาชนร่วมบอยคอตสินค้า ‘คาเฟอเมซอน’ ซึ่งเป็นกิจการร้านกาแฟของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด หรือ OR และอยู่ในเครือ ปตท.  

ข้อความรณรงค์จาก BMC หัวข้อ บอยคอต 'คาเฟ่อเมซอน' ในฐานะส่วนหนึ่งของเครือข่ายธุรกิจของ ปตท. และผู้จัดหาแหล่งทุนของอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในเมียนมา 

ข้อความระบุต่อว่า เผด็จการในเมียนมาก่อใช้ความรุนแรงอันน่าสะพรึงกลัวต่อประชาชนพม่าทุกวัน มีการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อพลเรือน เผาบ้านเรือน และประชาชน ประหัตประหารฝ่ายตรงข้าม และอื่นๆ ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นภายในจำนวนประมาณ 1 แสนคน นับตั้งแต่เผด็จการทหารก่อรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ. 2021 การกระทำอันโหดร้ายของเผด็จการทหารคืออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ 

รายได้จากการร่วมทุนกิจการน้ำมันและก๊าซกับ ปตท.สผ. ซึ่งได้รับการจ่ายโดยบริษัทแม่ ปตท. ทำให้เผด็จการทหารมีเงินตราต่างประเทศที่กำลังต้องการมากขึ้น (ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี) ซึ่งเงินเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ บำรุงทหาร และทำให้ตัวเองอยู่ในอำนาจนานยิ่งขึ้น

กลุ่มบริษัท ปตท. ต้องได้ยินข้อความว่า การเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ (กับกองทัพพม่า) เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทำให้ประชาชนต้องหลั่งเลือด มีเลือดเปื้อนอยู่ที่มือของคุณ กำไรที่แลกมาด้วยชีวิตของชาวเมียนมา 

ดังนั้น พวกเราเรียกร้องด้วยความนับถือ ขอให้สาธารณชนในประเทศเมียนมา เพื่อนบ้านของเมียนมา และทุกที่ที่คาเฟอเมซอนเปิดกิจการ เข้าร่วมการบอยคอตแบรนด์และสินค้าของอเมซอน เช่น กาแฟ และขนมต่างๆ รายได้จากอเมซอน อาจนำไปสู่การฆ่าคนจำนวนมาก ทำให้ชาวพม่ากลายเป็นผู้พลัดถิ่น หรือสร้างความเจ็บปวดอื่นๆ  

ปตท. ต้องยุติการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับเผด็จการเมียนมา

 

เหตุที่ BMC รณรงค์แบนสินค้าคาเฟ่อเมซอน เนื่องจากบริษัทเครือ ปตท. เป็นผู้รับซื้อก๊าซฯทั้งหมดที่นำเข้าจากประเทศเมียนมา และบริษัท ปตท.สผ. เป็นผู้ดําเนินโครงการก๊าซธรรมชาติของเมียนมา 2 โครงการในอ่าวเมาะตะมะ ได้แก่ ยาดานา และซอติก้า ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นของสภาบริหารแห่งรัฐ หรือ SAC ในนาม บริษัท Myanmar Oil and Gas Enterprise - MOGE 

ทาง BMC มีความกังวลว่า เงินจากการรับซื้อก๊าซธรรมชาติของ ปตท. จะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้กับกองทัพเผด็จการพม่า และนำเงินดังกล่าวไปซื้ออาวุธปราบฝ่ายต่อต้าน และเข่นฆ่าประชาชน ต่ออายุให้กองทัพพม่าอยู่ในอำนาจได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ข้อมูลจากสัปดาห์สิ่งแวดล้อมแม่โขง-อาเซียน ปี’65 ซึ่งจัดขึ้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ BACC เผยว่าเมียนมาได้รายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติ สูงถึง 33 พันล้านบาทต่อปี

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เคยตอบประเด็นที่ OR ละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศเมียนมานั้น ขอยืนยันว่าการลงทุนของ OR ในเมียนมามุ่งสร้างและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนชาวเมียนมา รวมทั้งยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจตามหลักการสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล โดยปัจจุบันมี PTT Station 3 แห่งและร้านคาเฟอเมซอน 8 สาขาดำเนินการโดยผู้แทนจำหน่ายและแฟรนไชน์ในเมียนมา และไม่ได้มีส่วนสนับสนุนหรือเกี่ยวข้องกับกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในเมียนมาแต่อย่างใด

นายดิษทัต ปันยารชุน (ที่มา: เว็บไซต์ PTTGC Group)

ปัจจุบัน สภาบริหารแห่งรัฐ หรือ SAC เป็นรัฐบาลที่บริหารประเทศเมียนมา และมี พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพพม่า ที่ทำรัฐประหารเมื่อปี 2564 เป็นประธานสภาฯ

ก่อนหน้านี้ ช่วงการประชุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ APEC ปี 2565 ซึ่งจัดประชุมเมื่อ พ.ย.ที่ผ่านมา BMC เคยส่งจดหมายถึงกระทรวงการคลัง แห่งประเทศไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกร้อง 1. หยุดจัดหาเงินทุนสำหรับอาชญากรรมที่โหดร้ายในเมียนมา และหยุดกล่าวอ้างเพื่อสร้างความเข้าใจผิด และความชอบธรรมให้กับการสมรู้ร่วมคิดกับคณะเผด็จการทหาร และ 2. จ่ายเงินให้กับรัฐบาลเมียนมาที่ชอบธรรม โดยเข้าบัญชีที่ได้รับการคุ้มครอง (Protect account) ที่คณะเผด็จการพม่าไม่สามารถเข้าถึงได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำหรับกลุ่มรณรงค์ต่อต้านเงินเปื้อนเลือด หรือ BMC เป็นการรวมตัวของนักกิจกรรมเมียนมา เพื่อเรียกร้องให้บริษัทเอกชน และบรรษัทข้ามชาติ ยุติการทำธุรกิจกับกองทัพพม่า เพื่อตัดแหล่งรายได้ของกองทัพพม่า 

สำหรับกลุ่มรณรงค์ต่อต้านเงินเปื้อนเลือด หรือ Blood Money Campaign มีการชี้แจงบนหน้าเฟซบุ๊ก ถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่ 1. หยุดแหล่งรายได้ทั้งหมดของเผด็จการพม่า 2. ยุติการจ่ายเงินทั้งหมดให้กับกลุ่มบริษัท Myanmar Oil and Enterprise หรือ MOGE จนกว่ารัฐบาลจะกลับมาเป็นรัฐบาลพลเรือน และ 3. ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อ MOGE ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ องค์กรช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า หรือ AAPP ระบุว่า นับตั้งแต่เมื่อ 1 ก.พ. 2564 จนถึง 20 ธ.ค. 2565 มีประชาชนที่เสียชีวิตด้วยฝ่ายทางการพม่า จำนวนอย่างน้อย 2,629 ราย มีผู้ถูกจับกุม อย่างน้อย 16,564 ราย และ 13,088 รายยังคงถูกคุมขัง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท