Skip to main content
sharethis

ศาลแขวงดุสิตพิพากษายกฟ้อง “ปอ กรกช” คดีชุมนุม #21ตุลาไปอนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออกเมื่อ 21 ต.ค.63 ศาลเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ

27 ธ.ค.2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า วันนี้ที่ศาลแขวงดุสิตอ่านคำพิพากษาคดีชุมนุม #21ตุลาไปอนุสาวรีย์ชัย ที่จัดโดยกลุ่มคณะราษฎร เมื่อ 21 ต.ค.2563 โดยนัดรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิก่อนเดินขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

สำหรับการอ่านคำพิพากษาในวันนี้เป็นส่วนของกรกช แสงเย็นพันธุ์ หรือ ปอ คนเดียว โดยเขาถูกฟ้องด้วยข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่นคนอื่นๆ  

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าศาลมีคำพิพากษายกฟ้องกรกชโดยให้เหตุผลว่าเป็นการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และไม่เกิดความรุนแรง

คำพิพากษาในคดีของกรกชนี้เป็นเหมือนเช่นคำพิพากษาของศาลแขวงดุสิตในคดีจากเหตุชุมนุมครั้งเดียวกันนี้ของอีก 7 คนที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้ว ศาลได้ให้เหตุผลไปในทำนองเดียวกันว่าการชุมนุมครั้งนั้นเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น

การชุมนุมครั้งนี้นอกจากกรกชแล้ว คดีนี้ยังมีคนอื่นถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมครั้งนี้และเลือกต่อสู้คดีถึงที่สุด ได้แก่ อานันท์ ลุ่มจันทร์, ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล, ชลธิชา แจ้งเร็ว, กรกช แสงเย็นพันธ์, สุวรรณา ตาลเหล็ก, ปิยรัฐ จงเทพ, ชาติชาย แกดำ, อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์, ไพศาล จันปาน, วสันต์ กล่ำถาวร และวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล โดยส่วนใหญ่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้วยกเว้นคดีส่วนของชลธิชา, ปิยรัฐ, ชาติชาย และวสันต์ที่คดียังไม่มีคำพิพากษาออกมา

อย่างไรก็ตามนอกจากกลุ่มข้างต้น นพ.ทศพร เสรีรักษ์ และ อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” คดีถึงที่สุดแล้ว และศาลพิพากษาลงโทษปรับ 5,000 บาท ให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือปรับ 2,500 บาท ไปก่อนหน้านี้

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net