Skip to main content
sharethis

เมื่ออังคาร (3 ม.ค.) ที่ผ่านมา ทางการจีนออกมาวิจารณ์กฎระเบียบการตรวจคนเข้าเมืองที่ "รับไม่ได้" ของหลายประเทศและอาจมี "มาตรการตอบโต้" หลังพบรายงานว่าอย่างน้อย 12 ประเทศมีคำสั่งให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีนต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบก่อน จึงจะสามารถเข้าประเทศได้ รวมถึงกรณีของโมร็อกโกห้ามนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีนเข้าประเทศอย่างสิ้นเชิง

นักท่องเที่ยวจีนในคามาคุระเมื่อปี 2018 ถ่ายโดย Toshihiro Gamo

"บางประเทศออกข้อบังคับเกี่ยวกับการเข้าประเทศโดยพุ่งเป้ามายังจีน" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนกล่าวในการตอบคำถามกับสื่อมวลชน เธอกล่าวอีกว่า "การทำเช่นนี้ขาดฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และการกระทำเหล่านี้เป็นเรื่องรับไม่ได้เลย" และจีนอาจ "ดำเนินมาตรการตอบโต้บนหลักการต่างตอบแทนกัน"

Channel News Asia สื่อของสิงคโปร์ ตั้งข้อสังเกตว่ามาตรการเหล่านี้ไม่ได้ประกาศใช้เฉพาะกับนักท่องเที่ยว "สัญชาติจีน" เพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงนักท่องเที่ยว "เดินทางมาจากจีน" บางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาให้เหตุผลในการตัดสินใจออกข้อบังคับว่า ข้อมูลการติดเชื้อของจีนยังคงขาดความโปร่งใสและการเดินทางมาจากจีนอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงของการเกิดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ได้

ตามรายงานของ Channel News Asia พบว่าประเทศที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวจีนต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเข้าประเทศ ได้แก่ (1) สหรัฐอเมริกา (2) อินเดีย (3) ญี่ปุ่น (4) อิตาลี (5) สเปน (6) ไต้หวัน (7) เกาหลีใต้ (8) แคนาดา (9) ออสเตรเลีย (10) บริเตน (11) ฝรั่งเศส และ (12) การ์ตา แม้จะมีกำหนดข้อระเบียบออกมาในลักษณะเดียวกัน แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันออกไป

ตัวอย่างเช่น บางประเทศ (เช่น ฝรั่งเศส การ์ตา และเกาหลีใต้) กำหนดให้นักท่องเที่ยวจากที่เดินทางจากจีนแสดงผลตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ส่วนกรณีของอินเดียไม่ได้ประกาศข้อกำหนดเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไทยด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วพบว่ามาตรการเหล่านี้จะเริ่มมีการบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.

มาตรการเหล่านี้ถูกประกาศออกมา หลังจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการนโยบายโควิดเป็นศูนย์ในรอบ 3 ปี ส่งผลให้ความสนใจของชาวจีนในการท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงอย่างมาก รัฐบาลจีนนำโดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยอมปรับเปลี่ยนนโยบายในเรื่องนี้แบบ 180 องศา หลังจากเกิดการประท้วงใหญ่ต่อมาตรการโควิดเมื่อปลายปีที่แล้ว นับเป็นการแสดงความไม่พอใจครั้งใหญ่ที่สุดต่อผู้นำจีน หลังสีจิ้นผิงขึ้นสู่อำนาจในปี 2555

เมื่อ 27 ธ.ค. 65 คณะกรรมาธิการสุขภาพของจีนประกาศให้ลดมาตรการป้องกันโควิด-19 นับตั้งแต่ 8 ม.ค. เป็นต้นไป โดยอนุญาตให้ผู้เดินทางจากต่างประเทศไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป แต่ต้องแสดงผลตรวจโควิดในช่วง 48 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางมายังประเทศจีนเช่นกัน การปรับเปลี่ยนมาตรการครั้งนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงปลายปี

ตั้งแต่ ธ.ค. ที่ผ่านมา จีนบันทึกการเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ได้เพียง 22 ราย จากการพยายามลดขอบเขตนิยามของการเสียชีวิตจากโควิดให้แคบลงอย่างมาก หลายฝ่ายกังวลว่าตัวเลขดังกล่าวอาจไม่สะท้อนความเป็นจริง เฉิน เออเจิน รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรุ่ยจิน และคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านไวรัสโควิด-19 ระบุว่า ในเซี่ยงไฮ้อาจมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร ส่วนที่โรงพยาบาลเซี่ยงไฮ้ในแต่ละวันมีการรับผู้ป่วยฉุกเฉินกว่า 1,600 คน เกินครึ่งเป็นผู้ป่วยที่อายุเกิน 65 ปี และกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ป่วยโควิด

ในเมืองใหญ่อื่นๆ เช่น ปักกิ่ง เทียนจิน ฉงชิ่ง และกวางโจว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนให้การบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดได้เข้าสู่จุดสูงสุดแล้ว ขณะที่มณฑลเจ้อเจียงมีการติดเชื้อกว่า 1 ล้านคน ใกล้เข้าสู่จุดสูงสุดของการระบาด

ในพื้นที่ชนบท เจ้าหน้าที่ก็กำลังเตรียมความพร้อมภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด โดยคาดการณ์ว่าตัวเลขอาจจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงตรุษจีนนับตั้งแต่ 21 ม.ค. ทั้งนี้ รัฐบาลอนุญาตให้ประชาชนสามารถเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงเทศกาลได้แล้วในรอบ 3 ปี

 

แปลและเรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net