กลุ่มชาวบ้านแลกเปลี่ยนประสบการณ์คัดค้านเหมืองแร่โปแตช

กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส จ.สกลนคร  ศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเคลื่อนไหวต่อสู้คัดค้านเหมืองแร่โปแตชกับกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด รวมถึงลงพื้นที่ศึกษาชุมชนตำบลหนองไทรที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่โปแตช

กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส จ.สกลนคร แจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่าเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส จ.สกลนคร กว่า 20 คน เดินทางไปยังหมู่บ้านหนองไทร ตำบลหนองไทร อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเคลื่อนไหวต่อสู้คัดค้านการทำเหมืองแร่โปแตชกับกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด รวมถึงลงพื้นที่ศึกษาชุมชนตำบลหนองไทรที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่โปแตชแล้ว

ก่อนการลงพื้นที่ศึกษาชุมชนได้ทำการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเคลื่อนไหวต่อสู้ของแต่ละพื้นที่ โดยกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส เผยว่า ได้ทำการรวมกลุ่มลุกขึ้นมาต่อสู้คัดค้านการขุดเจาะสำรวจแร่ของบริษัทเอกชนที่ได้รับอาชญาบัตรพิเศษเจาะสำรวจแร่โปแตช บนเนื้อที่ 120,000 ไร่ ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเริ่มแรกของการต่อสู้ต้องทำการพูดคุยกับคนในครอบครัวเครือญาติเพื่อรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ต่อด้วยการหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมือง นำมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจ หลังจากนั้นทำการรณรงค์เดินสายพูดคุยถึงผลกระทบตามหมู่บ้านต่าง ๆ และทำการปิดถนน เพื่อปกป้องบ้านเกิด ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ให้บริษัทเอกชนขุดเจาะสำรวจแร่หลุมที่ 4 ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวต่อสู้ที่แลกมาด้วยการถูกฟ้องคดี SLAPP จำนวน 3 คดี แต่ทำให้บริษัทเอกชนไม่สามารถที่จะขุดเจาะสำรวจแร่ได้มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้การต่อสู้ของกลุ่มต้องสร้างความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน ก้าวเดินไปพร้อมกันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และยึดมติกลุ่มเป็นสำคัญ

ขณะกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ก็ได้แลกเปลี่ยนว่า กลุ่มได้ลุกขึ้นมาต่อสู้คัดค้านการทำเหมืองแร่โปแตชของบริษัทเอกชนที่สร้างผลกระทบต่อชุมชน เนื่องจากการขุดเจาะอุโมงค์ทำให้ตาน้ำท่วมอุโมงค์และมีการปล่อยน้ำจากเหมืองไหลลงสู่ไร่นาชาวบ้านจนทำให้ไม่สามารถปลูกข้าวได้ พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ต้นไม้ยืนต้นตาย บ้านเรือนผุพังเสียหายจากการกัดกร่อนของความเค็ม หนองน้ำลำครองสาธารณะได้รับผลกระทบพบค่าความเค็มที่เกินมาตราฐานโดยเฉพาะบ่อน้ำบริเวณวัดหนองไทรที่มีความเค็มมากจนเครื่องวัดความเค็มไม่สามารถวัดค่าความเค็มได้ และน้ำประปาหมู่บ้านเจือปนด้วยความเค็มทำให้ไม่สามารถอุปโภคได้ ต้องจำใจเปลี่ยนไปใช้น้ำประปาในราคาโรงงานหน่วยละ 25 บาท ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเอกชนไม่เคยยอมรับว่าเป็นต้นเหตุของผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชน และการลุกขึ้นมาต่อสู้ในครั้งนี้เพื่อที่จะไม่ยอมให้เกิดผลกระทบไปมากกว่านี้

ซึ่งหลังจากพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์แล้วเสร็จ ก็ทำการลงพื้นที่ศึกษาดูผลกระทบที่เกิดขึ้นตามจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณวัดหนองไทร บ่อน้ำสาธารณะ ไร่นา และบ้านเรือนของชาวบ้านในชุมชน

โดยหลังจากลงพื้นที่กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสได้กล่าวถึงความรู้ว่า ไม่คิดว่าเหมืองแร่โปแตชที่ตำบลหนองไทรจะอยู่ใกล้ชุมชนขนาดนี้ เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นก็รู้สึกหดหู่ ไม่อยากคิดถึงอนาคตอีก 5 หรือ 10 ปี ข้างหน้าว่าจะเกิดความเสียหายไปมหาศาลถึงขั้นเป็นทะเลเกลือหรือไม่ รู้สึกดีใจที่ได้มาหาพี่น้องกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด และขอเป็นกำลังใจให้ต่อสู้จนชนะ ส่วนพวกเราก็จะต่อสู้เช่นกันจะไม่ยอมให้มีการทำเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่เด็ดขาด เพราะไม่อยากให้อำเภอวานรนิวาสเป็นเหมือนกับตำบลหนองไทร

ด้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดก็ได้กล่าวขอบคุณกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสที่เดินทางมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การต่อสู้โดยกลุ่มจะนำไปปรับใช้ในการเคลื่อนไหว นอกจากนี้การพูดคุยในครั้งนี้ทำให้เกิดความกล้า เกิดความมั่นใจ มีจุดยืนที่เข้มแข็ง ต่อสู้เพื่อลูกหลานให้มีที่อยู่อาศัยและรักษาสมบัติของพ่อแม่ไว้ และมีกำลังใจในการต่อสู้และจะสู้ให้ถึงที่สุด

การพบกันในครั้งนี้ถือเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่าง 2 พื้นที่ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้คัดค้านการทำเหมืองแร่โปแตชที่ประเด็นเดียวกัน เป็นการเยี่ยมเยือนพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของพี่น้องครอบครัวเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ เติมพลังกายพลังใจให้ซึ่งกันและกัน จับมือเคียงข้างกันต่อสู้ไปจนกว่าจะไม่มีการทำเหมืองแร่โปแตชแม้แต่พื้นที่เดียว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท