- จากเหตุมีผู้ประท้วงเผาคัมภีร์อัลกุรอานใกล้กับสถานทูตตุรกีในกรุงสต็อกโอล์ม สวีเดน ทำให้ประธานาธิบดีของตุรกีอ้างเรื่องนี้ในการถอนการสนับสนุนให้สวีเดนเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต
- แต่ก็มีข้อมูลออกมาว่าการประท้วงที่กระตุ้นความไม่พอใจที่ว่านี้ ได้รับการส่งเสริมโดย ชาง ฟริค อดีตนักข่าวจากสื่อรัสเซียทูเดย์ เจ้าตัวยันแค่จ้างวานให้มีการจัดประท้วง แถมเลิกสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลรัสเซียมาตั้งแต่ที่มีการผนวกรวมแคว้นไครเมียแล้ว ชี้รัฐบาลตุรกีแสดงความไม่พอใจครั้งนี้เหตุต้องการเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาเงินเฟ้อ และความยากจน พร้อมเรียกร้องรัฐบาลสวีเดนสนับสนุนชาวเคิร์ด
- ขณะที่มือเผายันถูกจ้างทั้งประท้วงและเสนอให้เผาคัมภีร์อัลกุรอานด้วย
30 ม.ค. 2566 หลังจากที่เกิดกรณีการประท้วงเผาคัมภีร์อัลกุรอานใกล้กับสถานทูตตุรกีในกรุงสต็อกโอล์ม ประเทศสวีเดน นายกรัฐมนตรี เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ของตุรกีก็ได้กล่าวแสดงความไม่พอใจว่าอย่าหวังว่าตุรกีจะให้การสนับสนุนสวีเดนในการเข้าเป็นสมาชิกภาพนาโตหลังจากที่มีการยั่วโมโหเช่นนี้
แต่ก็มีการเปิดโปงโดยสื่อสัญชาติสวีเดน SVT ระบุว่า การประท้วงเผาคัมภีร์อัลกูรอานดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการจ้างวานโดย ชาง ฟริค อดีตนักข่าวของสื่อรัสเซียทูเดย์ ซึ่งเป็นสื่อสายชาตินิยมรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นเจ้าของเว็บไซต์และพิธีกรของช่องโทรทัศน์สายขวาจัดในสวีเดนที่ชื่อ Riks ด้วย
สื่อ SVT ระบุว่าฟริคเคยสอบถามกับเว็บไซต์สายชาตินิยมให้ "ช่วยทำให้เขาสามารถติดต่อกับใครบางคนที่จะเผาคัมภีร์อัลกุรอานได้"
สื่อดิอินไซเดอร์จากรัสเซียรายงานยืนยันในเรื่องนี้ จากการที่สื่อได้สัมภาษณ์ฟริค เขาบอกว่าเขาได้จ่ายเงินจ้างวานให้มีการจัดประท้วงที่หน้าสถานทูตตุรกีในสวีเดนจริง แต่ไม่ได้บอกให้ใครเผาคัมภีร์ ฟริคบอกว่าเขาไม่มีความคิดหรือเจตนาเช่นนั้นเลย
สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่าฟริคมีส่วนพัวพันกับสื่อรัสเซียทูเดย์และกับรัฐบาลรัสเซียนั้น ฟริคบอกว่าเขาเลิกทำงานให้กับรัสเซียทูเดย์มาตั้งแต่ปี 2557 และเลิกสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลรัสเซียมาตั้งแต่ที่มีการผนวกรวมแคว้นไครเมียแล้ว นอกจากนี้ยังบอกว่าเขาได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครนและระดมทุนช่วยเหลือชาวยูเครนด้วย
ฟริคอ้างว่าการประท้วงของเขาไม่ได้ต้องการตั้งเป้าโจมตีโลกอิสลาม แต่ต้องการแสดงออกสนับสนุนพรรคแรงงานชาวเคิร์ด หรือ PKK ซึ่งเป็นพรรคที่ตุรกีจัดให้เป็นผู้ก่อการร้าย และมองว่าที่รัฐบาลตุรกีแสดงความไม่พอใจต่อการประท้วงในครั้งนี้เป็นเพราะว่าพวกเขาต้องการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากปัญหาในประเทศอย่างเงินเฟ้อ และความยากจน ฟริคยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลสวีเดนหันมาสนับสนุนชาวเคิร์ดด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 ม.ค. นั้นมีผู้นำพรรคขวาจัดของเดนมาร์ก ราสมุส พาลูดาน ขึ้นกล่าวปราศรัยที่หน้าสถานทูตตุรกีในกรุงสต็อกโฮล์ม โดยมีการกล่าวประณามศาสนาอิสลามและเผาคัมภีร์อัลกุรอาน
สื่อของสวีเดนรายงานว่าฟริคได้จ่ายเงิน 320 โครนา (ราว 1,000 บาท) เป็นค่าขอใบอนุญาตจัดการประท้วงและการันตีว่าจะออกเงินให้ในค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย
ฟริคบอกว่าความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับรัสเซียทูเดย์นั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการขายคลิปข่าวให้กับสื่อแห่งนี้เท่านั้น ฟริคยอมรับว่าเดินทางไปรัสเซียหลายครั้งและมีความเกี่ยวข้องกับรายงานข่าวโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย แต่เขาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำงานให้กับรัฐบาลรัสเซียโดยตรง แต่ฟริคก็ยอมรับว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับสื่อฝ่ายขวาในสวีเดนอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามคำให้การของพาลูดาน ฝ่ายขวาจัดจากเดนมาร์กผู้ที่ทำการประท้วง ก็ดูจะขัดแย้งกับคำให้การของฟริค จากที่ฟริคอ้างว่าเขาไม่ได้เสนอให้ผู้ประท้วงเผาคัมภีร์ของศาสนาอิสลามด้วย แต่พาลูดานก็บอกว่า ฟริคไม่เพียงแค่จ่ายเงินจ้างเขาให้ทำการประท้วงเท่านั้น แต่ยังเสนอให้เขาเผาคัมภีร์อัลกุรอานด้วย
ทางด้านเจ้าหน้าที่ของนาโตพูดถึงกรณีของฟริคว่า "มันเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินชี้ชัดว่าใครคนหนึ่งทำงานให้กับรัฐบาลรัสเซียหรือไม่จากการที่พวกเขาทำตัวเหมือนเกรียนอินเทอร์เน็ต หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ว่าตัวรัฐบาลรัสเซียเองเป็นผู้คอยบงการเกรียนอินเทอร์เน็ต ... มันเป็นไปได้ว่าฟริคอาจจะเป็นแค่คนน่ารังเกียจฝ่ายขวาจัดที่ชอบเผาคัมภีร์อัลกุรอาน หรือเรื่องนี้อาจจะเป็นปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ของรัฐบาลรัสเซีย แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม มันก็ช่วยทำให้รัสเซียได้เห็นความขัดแย้งกันในกลุ่มสมาชิกนาโต"
เรียบเรียงจาก :
