กกต.แจ้งหัวหน้า 'รวมไทยสร้างชาติ' ดูแลไม่ให้ 'ไตรรงค์' นำสถาบันกษัตริย์มาใช้ในการหาเสียง

เลขาฯ กกต.ส่งหนังสือเวียนแจ้งพรรคการเมือง ห้ามสมาชิกพรรคดึงสถาบันมาหาเสียง แจ้งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติควบคุมและกำกับดูแลไม่ให้ 'ไตรรงค์' นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ชี้อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับรวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศและคำสั่งของ กกต. ด้าน 'สมชัย' ชี้แค่เตือนยังไม่เพียงพอ เหตุความผิดเกิดขึ้นแล้ว ต้องตั้งคณะทำงานไต่สวน

 

13 มี.ค.2566 จากกรณีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สมชัย ศรีสุทธิยากร และวีระ สมความคิด 2 สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย เข้ายื่นเรื่องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบเอาผิดพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยประเด็นหนึ่งคือเรื่อง ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยเกี่ยวกับสถาบันและใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย อีกทั้งต่อมา ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัย ไตรรงค์ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งอีกครั้งนั้น

ล่าสุดวันนี้ (13 มี.ค.) สำนักข่าวไทย รายงานว่า แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ลงนามในหนังสือเรื่องการควบคุมและกำกับดูแลสมาชิกพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งถึงหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีรายละเอียดว่าด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2566 ไตรรงค์ ได้ปราศรัยที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ช่วงหนึ่งของการปราศรัยได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมือง พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของไตรรงค์อาจฝ่าฝืนระเบียบกกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนของการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งได้ จึงขอให้พรรครวมไทยสร้างชาติควบคุมและกำกับดูแลไม่ให้ไตรรงค์กระทำการที่อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับรวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศและคำสั่งของ กกต.

รายงานข่าวระบุด้วยว่า เลขาฯ กกต. ลงนามในหนังสือเรื่องการควบคุมและกำกับดูแลมีให้สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายแจ้งต่อหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค โดยระบุว่าด้วย พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 22 กำหนดให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลไม่ให้สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ รวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของกกต.

ทั้งนี้ เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้เลือกตั้งส.ส.หรือให้เลือกสมาชิกวุฒิสภาแล้วแต่กรณี คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลไม่ให้สมาชิกพรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการในลักษณะที่อาจทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม  

นายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้พรรคการเมืองปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จึงขอให้พรรคการเมืองแจ้งให้สมาชิกพรรคการเมืองปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ รวมทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของกกต.โดยเฉพาะระเบียบกกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561และที่แก้ไขเพิ่มเติมในส่วนของการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง

เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองได้รับแจ้งจากนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าสมาชิกพรรคการเมืองกระทำการอาจมีลักษณะฝ่าฝืนมาตรา 22 วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติหรือสั่งการให้สมาชิกพรรคการเมืองยุติการกระทำนั้นทันที และกำหนดมาตรการหรือวิธีการที่จำเป็นเพื่อไม่ให้สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการมีลักษณะดังกล่าวอีก แล้วแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่มีมติ

หากคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่ปฏิบัติตามมาตรา 22 วรรคสาม แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นายทะเบียนพรรคการเมืองจะเสนอให้กกต.พิจารณามีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ คำสั่งดังกล่าวให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและห้ามกรรมการบริหารพรรคการเมืองซึ่งพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุดังกล่าวดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 20 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 22 วรรคสี่ แห่ง พ.ร.ป.ฉบับเดียวกัน    

'สมชัย' ชี้แค่เตือนยังไม่เพียงพอ เหตุความผิดเกิดขึ้นแล้ว ต้องตั้งคณะทำงานไต่สวน

ด้าน สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่าเป็นการขยับที่ดีของกกต. ที่ทำความเข้าใจกับพรรคการเมืองรวมถึงตักเตือนไปยังพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะกระทำความผิดในเรื่องราวดังกล่าว 

“ขอชมเชยกกต.ทำงานได้รวดเร็ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เมื่อเป็นความผิด กกต.ต้องตั้งคณะทำงานไต่สวน แสวงหาข้อเท็จจริงให้ได้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ว่ามีองค์ประกอบความผิดครบถ้วนแล้วหรือยัง ซึ่งกระบวนการตรงนี้ กกต.ไม่ได้ตอบว่ารับเรื่องไว้พิจารณาและตั้งคณะทำงานขึ้นมาไต่สวนเก็บรวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้น ที่จะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่” สมชัย กล่าว

สมชัย กล่าวา จะรอดูกกต.ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรหรือเพียงตักเตือนแล้วเลิกแล้วต่อกัน ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง เพราะการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้วมากกว่า 1 ครั้ง ดังนั้น น่าจะต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาเก็บรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับองค์ประกอบหลักฐานการกระทำความผิดเพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมกกต.พิจารณาวินิจฉัย ส่วนที่เคยยื่นคำร้องขอให้กกต.ตรวจสอบการปราศัยหาเสียงของนายไตรรงค์เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจากกกต.ว่าได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบหรือไม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท