'ชูวิทย์' เตือน 'ประยุทธ์' หากไม่อยากฟัง ก็นั่งอยู่ที่บ้านดีกว่า ถามจะพบแค่ประชาชนที่เอาแต่ตบมือเชียร์หรอ หลัง จนท.ล็อกคอปิดปากหญิงสูงวัยตะโกนตำหนิ ด้าน ‘ประยุทธ์’ ป้อง จนท.ถามกลับ 'แรงตรงไหน' ผิดกฎหมายหรือไม่ เย้ย มาแค่ 3 คน ขอสื่ออย่าคุ้ยให้ค่า ต่อมามีการแจ้งข้อหา 'ป้าวันทนา' ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ขณะที่ทนายอานนท์เผยป้าวันทนาเตรียมแจ้งเอาผิด จนท.กลับ

13 มี.ค.2566 จากกรณีเจ้าหน้าที่บุกล็อกคอปิดปากหญิงสูงวัย ที่ตะโกนตำหนิการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างลงพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แล้วใช้ร่มบังไม่ให้สื่อจับภาพ อ้างจะพาป้าไปหาหมอ พร้อมขอดูบัตรสื่อที่ถ่ายภาพนั้น

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว ในหัวข้อ "ปิดปากประชาชน" โดยระบุว่า เมื่อนายกฯ เลือกเส้นทางเป็นนักการเมือง ต้องไม่กลัวประชาชนด่า ไม่จำเป็นต้องปิดปากประชาชน สิ่งที่ประชาชนพูด ต้องรับฟังให้ได้

ชูวิทย์ ตั้งคำถามด้วยว่า จะเดินสายพบแค่ประชาชนที่เอาแต่ตบมือเชียร์ มอบดอกไม้ให้อย่างเดียวเท่านั้นหรือ หากจะด่า ก็ต้องปล่อยให้ด่าไปตามความรู้สึก อย่าไปคิดปิดปาก และอย่าไปเอาร่มปิดบังความจริงที่ประชาชนคนหนึ่งเขาอยากพูด การรับฟังความจริงจากประชาชน เป็นความรู้สึกจริง มากกว่าคนรอบข้างที่เอาแต่ชื่นชมยกย่อง เพราะนั่นไม่ใช่ความจริง

“ความรู้สึกของประชาชนเป็นสิ่งที่ต้องรับฟัง ส่วนท่านจะสื่อสารตอบประชาชนอย่างไรก็เป็นสิทธิของท่าน นั่นคือ “ประชาธิปไตยที่สวยงาม” แต่การไปปิดปากประชาชน มันคือวิสัยของ “เผด็จการ” หากไม่อยากฟัง ก็นั่งอยู่ที่บ้านดีกว่า" ชูวิทย์ โพสต์ แนะนำ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมย้ำว่าการเป็นนักการเมืองจึงต้องเรียนรู้

'อนุสรณ์ เพื่อไทย' จี้ 'ประยุทธ์' อย่าเสพติดการใช้ความรุนแรงกับประชาชน

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา การเสนอแนะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็นไปด้วยความยากลำบากและมีข้อจำกัดอย่างมาก การบุกล็อกคอปิดปากหญิงสูงวัยในครั้งนี้ ยากเกินกว่าที่ประชาชนจะทำใจรับได้ ปากบอกลงพื้นที่ไปติดตามนโยบายให้ประชาชน แต่กลับไปใช้ความรุนแรงกับประชาชนเสียเอง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ทนรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ ก็ควรนอนอยู่บ้าน ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพลงพื้นที่หาคะแนนเสียง ไปเป็นภาระของประชาชน 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ไม่เคยกลัวใคร ทำไมกับเพียงหญิงสูงวัยถึงใช้ความรุนแรงถึงเพียงนี้ การใช้ความรุนแรงกับประชาชนในครั้งนี้ เป็นการเปลือยตัวตนอีกครั้งของพล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีทัศนคติอย่างไรต่อประชาชน 

“สโลแกน ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ของพล.อ.ประยุทธ์ หวังว่าคงไม่รวมไปถึงการใช้ความรุนแรงกับประชาชนแบบ รุนแรงแล้ว รุนแรงอยู่ รุนแรงต่อ” อนุสรณ์ กล่าว

ด้าน ‘ประยุทธ์’ ป้อง จนท.ถามกลับ 'แรงตรงไหน' ผิดกฎหมายหรือไม่ เย้ย มาแค่ 3 คน ขอสื่ออย่าคุ้ยให้ค่า

ขณะที่สำนักข่าวไทย รายงานปฏิกิริยาของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า อย่าไปสนใจ มันจะเห็นต่างสักกี่คน พร้อมย้อนถามว่า “เป็น 100 เป็น 1,000 คนหรือไม่ มา 3 คน ตนไม่สนใจอยู่แล้ว”

ต่อกรณีคำถามถึงการดูแลกลุ่มคนเห็นต่างของเจ้าหน้าที่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็ดูแลดีไม่ใช่เหรอ ตำรวจเขาก็ดูแลไม่ให้มีการทำผิดกฎหมาย ตนไม่ใช่ศัตรูกับเขานี่นา ก็เป็นเรื่องของเขาสิ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่ออย่าไปคุ้ยหรือให้ความสำคัญ เข้าใจหรือเปล่า ตนไม่ให้ความสำคัญ

ต่อคำถามที่ว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างเกินเหตุไปหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “รุนแรงตรงไหนล่ะ ผมไม่เห็นนี่ รุนแรงอย่างไร”

ทั้งนี้รายงานข่าวระบุด้วยว่า เมื่อผู้อธิบายว่ามีการกระชากและลากตัวหญิงผู้สูงอายุที่เห็นต่างนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเสียงดังว่า “อ้าว ก็ฝ่าฝืนกฎหมายหรือเปล่าล่ะ ทำผิดกฏหมายหรือเปล่า เขาห้ามทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือเปล่า ถ้าเขาห้ามแล้วไม่เชื่อฟัง เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้วิธีการอื่นมั้ง แล้วทำไมจะต้องทำในสิ่งที่เจ้าหน้าที่เขาห้ามล่ะผมไม่เข้าใจ เออ! แล้ววันนี้ผมมาทำอะไรให้กับใคร ทำให้กับคนตั้งเป็น 1,000 เป็น 10,000 คน แล้วเขาเสียประโยชน์หรือไม่พวกนี้ ผมไม่ได้โกรธเขานะ แต่ผมไม่เห็นประโยชน์ แล้วก็อย่าไปให้ความสำคัญ กับเรื่องพวกนี้ในหนังสือพิมพ์ เพราะมันไม่เกิดประโยชน์”

รายงานข่ารวระบุด้วยว่า หลังพูดจบ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นไปนั่งบนรถก่อนที่จะลดกระจกลงมาพูดกับผู้สื่อข่าวอีกว่า “คำถามแบบนี้อย่าถามกันอีกนะ คนมาเป็น 10,000 คนกับคนอีกแค่ 3 คน”

แจ้งข้อหา 'ป้าวันทนา' ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ขณะที่ทนายอานนท์เผยป้าวันทนาเตรียมแจ้งเอาผิด จนท.กลับ

เมื่อเวลา 20.06 น. เฟซบุ๊ก ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน พยาบาลอาสา โพสต์รายงานว่า “ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ป้าวันทนา ( ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ฯ., ตะโกนพูดคำหยาบคาย,ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ. ) วางเงินประกันฯ หนึ่งหมื่นบาท จากกองทุนราษฏรประสงค์ โดยมูลนิธิอิศรา ประสานงานให้ความช่วยเหลือ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน TLHR.

หลังจากได้ประกันตัว พาผู้บาดเจ็บไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาต่อไปค่ะ ซึ่งป้ามีอาการบาดเจ็บซีกซ้ายทั้งซีก ข้อเท้าอักเสบบวม ข้อมืออักเสบ มีรอยข่วนตามร่างกาย ในเรื่องคดี ทางศูนย์ฯ จะหารือกันอีกครั้งในวันถัดไป”

ขณะที่ต่อมาเวลา 22.39 น. อานนท์ นำภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแจ้งว่า พรุ่งนี้ ป้านา วันทนา โอทอง จะเดินทางจากราชบุรีมาแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง โดยจะเดินทางมาแจ้งความที่กองปราบฯ ถนนพหลโยธิน (ติดแดนเนรมิตเดิม) เวลา 13.00 น.