'สมศักดิ์' ควง 'สุริยะ' กลับเพื่อไทย วิจารณ์ รบ.แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ มองแลนด์สไลด์คือคำตอบ

เพื่อไทย รับ 'สมศักดิ์-สุริยะ' กลับเข้าพรรค ทั้งสองเชื่อมั่นเกือบแลนด์สไลด์แล้ว 99.99% ด้านอดีต รมว.อุตสาหกรรม วิจารณ์ รบ. ไร้เสถียรภาพ ขาดความเชื่อมั่น แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ มองแลนด์สไลด์ของ พท.คือคำตอบที่ทำให้นโยบาย 'คิดใหญ่' เป็นจริงได้

 

สืบเนื่องจากเมื่อ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี สมศักดิ์ เทพสุทิน ลาออกจากตำแหร่ง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสหกรรม ทั้งนี้ การลาออกของทั้งสองคนมีผลตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2566 ตามรัฐธรรมนูฐ 2560 มาตรา 170(2) หรือความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเมื่อลาออกจากตำแหน่ง

ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค. 2566) ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานว่า ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.29 น. สมศักดิ์ เทพสุทิน สุริยะ จังรุ่งเรืองกิจ และอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยาของสมศักดิ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางเข้าสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมี ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กิตติ ลิ่มสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ 

ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอต้อนรับทุกท่านด้วยความขอบคุณยิ่ง ขอขอบคุณที่มาร่วมอุดมการณ์กับเรา วันนี้ถือเป็นวันที่ดี และเป็นวันที่ดียิ่งกว่าวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน วันนี้พรรคเพื่อไทยมีผู้ที่เคยทำงานในอุดมการณ์เดียวกัน ร่วมทำงานกันมาและเคยสร้างผลงานมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เคยเป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทย สมศักดิ์ เทพสุทิน และอนงค์วรรณ เทพสุทิน เคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็นบุคคลที่เคยขับเคลื่อนอุดมการณ์เพื่อประชาชนจนประสบความสำเร็จ ประชาชนต่างมีความชื่นชอบในนโยบาย แต่ด้วยมิติการเมืองในสังคมไทยที่เปลี่ยนไป จากกติกาที่บิดเบี้ยว ทำให้ต้องทำงานทางการเมืองกับพรรคอื่น ซึ่งหวังว่าในอนาคตกติกานั้นไม่ควรเกิดขึ้นอีก และหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ควรเป็นการเมืองในระบบ ไม่มีอำนาจซ่อนเร้นแอบแฝง เป็นอำนาจของประชาชนที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นจริงได้หรือไม่ อยู่ที่ประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนมอบอาณัติให้เราอย่างเด็ดขาด จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า เสียงที่ประชาชนให้มา เป็นเสียงข้างมากอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ทราบว่าหลายฝ่ายพร้อมปรับตัว เพราะเห็นแก่ประเทศชาติ เพื่อให้การเมืองเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง 

ทั้งนี้ นายสุริยะ จะสนับสนุนยุทธศาสตร์ในภาพใหญ่ ส่วนนายสมศักดิ์ จะมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ จะเข้าไปดูแลขับเคลื่อนผลักดัน โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่เพื่อไทย ยังไม่มี ส.ส. โดยเฉพาะภาคใต้ ตั้งเป้าหมายได้ ส.ส. ถึง 5-10 คน จากเดิมที่ตั้งเผ้าได้ ส.ส. 1 คนซึ่งถือเป็นกำไรของเรา

ชลน่าน กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการทำหน้าที่แทนประชาชน เป็นสถาบันแห่งความหวังให้กับประชาชน เป้าหมายของเราคือการชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ได้ ส.ส.จำนวน 250 คนขึ้นไป และเป้าหมายเด็ดขาดที่ 310 คนขึ้นไป เพื่อเอาชนะกติกาในปัจจุบัน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวถือเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้า เพราะถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.310 เสียงในสภา แต่การที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ต้องได้ 376 เสียง ซึ่งต้องมาพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะถึงด้วยวิธีการอย่างไร 

“ผมเชื่อว่าภาพที่ปรากฏบนเวทีนี้ จะสร้างความเชื่อมั่น ทำให้เป้าหมายของเราไปสู่ความสำเร็จได้ ด้วยความสามารถของคุณสุริยะ คุณสมศักดิ์ และคุณอนงค์วรรณ เราจะผนึกกำลังกัน เพื่อพี่น้องประชาชน” ชลน่าน กล่าว

ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกลับเข้ามายังพรรคเพื่อไทยของ 3 ท่าน ถือเป็นความรักความผูกพัน ความอบอุ่น ของพรรคเพื่อไทยที่มีความเป็นกันเอง เราจะมาสร้างอนาคตประเทศร่วมกัน ในนามของพรรคเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ขอต้อนรับสมาชิกทั้งสามท่านอย่างอบอุ่นเช่นเดิม

สมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้รู้สึกมีความสุข มีความหวัง ดีใจและภูมิใจเป็นอย่างมาก สิ่งที่คิดมาโดยตลอดจะสามารถบรรลุเป้าหมาย เพื่อวางแนวทางช่วยเหลือประชาชนได้ ซึ่งเราต้องปรับตัว ที่ผ่านมาประเทศชาติเสียหาย ประชาชนเสียเวลาไปอย่างมาก ขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่เปิดรับตนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง และหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมช่วยงานให้สมบูรณ์แบบ เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้ครบ 100% สู่เป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์

(ซ้าย) สมศักดิ์ เทพสุทิน และ (ขวา) สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนเข้ามาเสริมเติมเต็มในบางส่วนให้ครบจะเป็นผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ตนพึงพอใจในการทำงานของพรรคเพื่อไทย ทีมของเพื่อไทย เป็นทีมที่เข้าใจง่ายเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่ใช่เป็นบุคคลที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ ที่จะพูดคุยหรือทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ทีมนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ เพราะหากทีมงานไม่สามารถทำความเข้าใจในนโยบายอย่างเด่นชัดได้ ส่วนราชการเสนอ บันทึกมา แล้วทำตามเดิม จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาใหม่ๆได้ ในอดีตพรรคไทยรักไทย นโยบายของทักษิณ ชินวัตร บรรลุเป้าหมายอย่างแจ่มชัด และนำไปสู่การปฏิบัติ 

“วันนี้ไม่แลนด์สไลด์ ก็เกือบแลนด์สไลด์แล้ว 99.99% เพราะประชาชนเข้าใจ ยอมรับในทีมของพรรคเพื่อไทย ผมก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ผมเต็มใจมา การพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อจะก้าวเดินไปข้างหน้าของงานและบริการประชาชนให้สมดังใจคิด ให้สมกับพี่น้องประชาชนตั้งใจรอ ผมก็ประกาศตัวมาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ผมพร้อมและจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ สิ่งที่พูดมาตลอด ดิน ฟ้า อากาศ ฟ้าเปิดเมฆหมอกจางหายเบาบางไป ก็เป็นบรรยากาศของประชาธิปไตย ที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้พี่น้องประชาชนให้มีความสุข” สมศักดิ์ กล่าว  

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ให้โอกาสกลับเข้ามาทำงาน สาเหตุที่ตัดสินใจเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยได้พังทลายไปอย่างยับเยิน โดยเฉพาะ 4 ปีแรกที่เกิดการทำรัฐประหาร ทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับของนักลงทุนต่างประเทศ ประเทศไทยสูญเสียโอกาสไปอย่างมากมาย และในช่วง 4 ปีหลัง พรรคพลังประชารัฐ ได้รับ ส.ส.มาจำนวนไม่มากพอ จึงจำเป็นต้องกระจายกระทรวงเศรษฐกิจไปให้พรรคการเมืองต่างๆ ทำให้ขาดพลังในการแก้ไขนโยบายต่างๆ ต้องคอยประนีประนอม พรรคการเมืองต่างๆ ที่ต้องการงบประมาณเพื่อชูนโยบายของพรรคตนเอง ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ ยืนยันจาก GDP ของประเทศที่ต่ำเกือบที่สุดในกลุ่มอาเซียน ดังนั้น การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต้องมีพรรคแกนนำรัฐบาล มีจำนวน ส.ส ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแบบถล่มทลาย หรือแลนด์สไลด์ ทั้งหมดทำให้ตน และนายสมศักดิ์ ตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อมีส่วนทำแลนด์สไลด์ในครั้งนี้ ให้พรรคเพื่อไทยได้นำนโยบาย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน”

สำหรับสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่พังทลายไปแล้ว หากไม่คิดใหญ่ เศรษฐกิจคงฟื้นตัวไม่ได้อย่างแน่นอน คิดใหญ่อันดับแรกของพรรคเพื่อไทย จะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันภายในปี 2570 และผู้ที่จบปริญญาตรี เงินเดือนปรับขึ้นเป็น 25,000 บาท เพราะผู้ใช้แรงงานที่มีจำนวนกว่า 14 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น เพราะสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน แต่ค่าแรงเตี้ยติดดิน 

คิดใหญ่อันดับ 2 คือ การช่วยเหลือพี่น้องชาวเกษตรกรที่มีจำนวนเกือบ 10 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารของรัฐบาลที่ขาดประสิทธิภาพ ทำให้พืชผลการเกษตรตกต่ำเป็นประวัติศาสตร์ในขณะที่ปัจจัยการผลิต อาทิ ปุ๋ยขึ้นราคาไปกว่า 200-300% รวมไปถึงค่าน้ำมันต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นที่พรรคเพื่อไทย ประกาศต่อประชาชนในนโยบายหลัก จากการที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้พบกับผู้ประกอบการต่างๆ ประธานหอการค้าประธานอุตสาหกรรม ทุกคนบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ถ้าอยู่ต่อไปคงจะเกิดความทุกข์ยากลำบากมาก 

“หลายคนที่สนิทกัน มากระซิบบอกว่าให้ท่านย้ายพรรคเถอะ เพื่อนฝูงของผมทุกคนไม่มีใครเชียร์ให้อยู่พรรคเดิม จากนโยบายพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะชนะอย่างแลนด์สไลด์แน่นอน จากผลโพลที่สำรวจก็เห็นชัดเจนว่าประชาชนต้องการให้พรรคเพื่อไทย กลับมาเป็นรัฐบาลและผมเชื่อว่าอย่างที่ท่านสมศักดิ์ ได้พูดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล 99.99% ผมก็เชื่อว่าทุกคนในที่นี้ก็เห็นด้วย” สุริยะ กล่าว 

อนงค์วรรณ เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการที่เคยเป็นอดีต ส.ส. และจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนยังคงชื่นชมนโยบายในอดีตของพรรคไทยรักไทย เพราะได้รับประโยชน์ สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ทันสมัย ซึ่งประชาชนยังให้การชื่นชอบอยู่เหมือนเดิม จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนจะเห็นถึงความตั้งใจจริง และตนมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป การหายไปและกลับมาอีกครั้งในนามของพรรคเพื่อไทย ตนรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกมีความหวังเป็นอย่างมากเหมือนที่เคยเป็นความรุ่งเรืองในอดีต ขอขอบคุณหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ที่ยังให้การสนับสนุน  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว ชลน่าน ได้สวมเสื้อแจกเกตพรรคเพื่อไทย ให้กับสมศักดิ์ นายสุริยะ อนงค์วรรณ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยตลอดการแถลงข่าวเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท