Skip to main content
sharethis

'พริษฐ์' แจงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับก้าวไกล จะเป็นจุดเริ่มต้นยุติความขัดแย้ง - 'สว. สมชาย' ไม่หนุนร่างฉบับก้าวไกล เชื่อไม่ผ่านวุฒิสภา ย้ำหนุนปรองดอง แต่ต้องไม่นิรโทษกรรมให้คดี 'มั่นคง-ทุจริต-ผิดอาญาร้ายแรง- ม.112'

1 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่าพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีภาพรวมการเดินสายพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ เพื่อหาเสียงสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมฉบับก้าวไกล ว่าขณะนี้อยู่ในช่วงริเริ่มการเดินสาย และพยายามพูดคุยกับหลายฝ่ายให้ได้มากที่สุด ยังมีอีกหลายกลุ่มที่เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะพูดคุย ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมข้อกังวลว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งการสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน เพราะอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ หากได้เดินสายพูดคุยกับอีกหลายฝ่ายเพิ่มเติม รวมถึงข้อกังวลอื่นๆ อย่างครบถ้วน เราจะเปิดเผยถึงความคืบหน้ากันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกล ไม่สามารถดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ได้สำเร็จ ทางพรรคจะมีแนวทางอย่างไรต่อ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรายังคงคาดหวังว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคซีกรัฐบาล ซึ่งสุดท้ายแล้ว แม้ว่าจะมีพรรคซีกรัฐบาลทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็ยังสามารถไปต่อได้ เพราะเป็นร่างกฎหมายที่เสนอโดยพรรคฝ่ายค้าน ไม่ได้เป็นกฎหมายที่ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ตนคิดว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นต่างกัน ก็สามารถลงมติที่แตกต่างกันได้ แต่หากพรรคฝ่ายรัฐบาลมีความเห็นที่แตกต่างในรายละเอียด เราก็อยากเห็นพรรคการเมืองเหล่านั้นเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับตัวเองประกบ ก็จะสามารถนำเนื้อหาเหล่านี้มาถกเถียงกันผ่านกระบวนการในรัฐสภาได้ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันได้

เมื่อถามว่า ทางฝ่ายรัฐบาลโยนให้พรรคก้าวไกล พูดคุยกับวิปรัฐบาลเพื่อที่จะนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เสนอเข้าที่ประชุมสภาฯ ในสมัยการประชุมหน้า ทางพรรคได้มีการพูดคุยกับวิปรัฐบาลบ้างหรือยัง นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทางวิปแต่ละฝ่ายก็คงมีการประสานกันอยู่แล้ว แต่ก่อนจะไปถึงการบรรจุวาระในช่วงเวลาใด เบื้องต้นคณะทำงานของเรา ได้พยายามพูดคุยกับตัวแทนทุกพรรคการเมือง เพื่อสร้างความเข้าใจในตัวกฎหมาย

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่า พรรค ก.ก. กำลังพยายามเคลมผลงาน ด้วยการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองเช่นนั้น

“คิดว่าไม่ว่าใครเสนอก็ตาม สมมติว่า ในที่สุดแล้ว ทาง ครม. เสนอกฎหมายที่มีเนื้อหาสาระเป้าหมายเดียวกับของก้าวไกลเลย แล้วในที่สุด เป็นร่างของ ครม.ที่ผ่าน แต่ร่างของก้าวไกลไม่ผ่าน เราก็แฮปปี้ เราก็ยินดี สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใครเสนอ สาระสำคัญคือ สิ่งที่เราผลักดันได้สำเร็จตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่” พริษฐ์กล่าว

พริษฐ์ กล่าวต่อว่าขณะนี้ยังไม่มีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมจากพรรคการเมืองอื่น ต้องรอดูท่าทีรัฐบาลว่า จะเป็นอย่างไร เราในฐานะผู้เสนอ ก็ยินดีไปนำเสนอกับทางรัฐบาล

เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้จะสามารถแก้ปัญหาทางการเมืองได้จริงหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนว่าเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งเราก็เห็นว่าข้อเสนอการเสนอนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นข้อเสนอที่หลายฝ่ายทางการเมืองเคยเสนอมาแล้ว ว่าเป็นกลไกสำคัญในการยุติปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมา

ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่ได้นิรโทษกรรมเจาะจงแค่นักโทษทางการเมือง ที่โดนคดีอาญามาตรา 112 และ 116 แต่หลักการคือ พยายามนิรโทษกรรมผู้ที่โดนคดี ที่มีมูลเหตุจูงใจกับความขัดแย้งทางการเมือง เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตามกลไกที่กฎหมายเสนอ เพื่อศึกษาว่า คดีไหนเข้าข่ายหรือไม่เข้าข่าย

เมื่อถามถึงความกังวลในการเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อาจเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนยืนยันว่า ข้อแรก การใช้กลไกอย่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทางการเมือง เป็นข้อเสนอที่หลายฝ่ายทางการเมืองเคยเสนอ เพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองมาแล้ว

ข้อสอง เรายืนยันว่า กฎหมายนิรโทษกรรมของเราเป็นความพยายามในการนิรโทษกรรม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มการเมืองทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ไม่คิดว่าจะเป็นการจุดชนวนสร้างความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นอีก

'สว. สมชาย' ไม่หนุนร่างฉบับก้าวไกล เชื่อไม่ผ่านวุฒิสภา

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2566 ว่าสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ยืนยัน ยึดมั่นหลักการสนับสนุนปรองดองนิรโทษกรรมคดีการเมือง คัดค้านนิรโทษกรรม 3 คดีมั่นคงสำคัญ คือ การทุจริตชาติ คดีอาญาร้ายแรง เช่น คดีฆ่ากันตายแล้วอ้างเหตุทางการเมืองและคดีความผิด ม.112 โดยเฉพาะคดีนี้ ที่กลุ่มแกนนำ หัวหน้าพรรคได้เคลื่อนไหวเป็นนโยบายในการล้ม แก้ไขกฎหมาย และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วจะมาอ้างเหตุเพื่อนิรโทษกรรมนั้น เป็นการเขียนกฎหมาย เพื่อช่วยในสิ่งที่ตัวเองกระทำความผิด ทั้งที่หากสำนึกว่ากระทำผิด ก็สามารถทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคลได้ เช่นเดียวกับแกนนำหลายบุคคลที่เป็นนักวิชาการในอดีตก็เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษมาแล้ว

ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ของพรรคก้าวไกล ที่มีรากมาจากความเคลื่อนไหวของพรรคอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้า ต่างกรรมต่างวาระในการสนับสนุนให้มวลชน สมาชิก สส. คณะกรรมการบริหาร รวมถึงผู้นำทางความคิดหลายคน ที่ไปจาบจ้วงละเมิดจนผิดกฎหมาย ตนไม่เห็นด้วย 100% และเชื่อว่า หากเสนอมา สว. ก็คงไม่ให้ความเห็นชอบ

ส่วนคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อส้ม ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นเรื่องทางการเมืองก็ให้นิรโทษกรรมได้ และเห็นว่าเรื่องนี้รัฐบาลสามารถออกเป็นพระราชกำหนดได้เลย ซึ่งหากไม่มีเงื่อนไข 3 เรื่องดังกล่าวก็พร้อมที่จะสนับสนุน

“สรุปว่าเห็นด้วยกับกระบวนการความปรองดองสมานฉันท์และขั้นตอนที่จะทำนั้น ไม่จำเป็นต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ รัฐบาลนี้สามารถออกเป็นพระราชกำหนดได้เลย แต่ต้องชัดเจนว่ามีเรื่องใดบ้างและต้องไม่มี 3 เรื่องนี้ ซึ่งถ้าออกเป็นพระราชบัญญัติก็ต้องใช้เวลานานหน่อย ต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา แต่ก็เห็นด้วยในหลักการว่า ถ้าจะนิรโทษกรรมจะต้องยึดหลักเรื่องนิรโทษกรรมและกระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนผ่าน ต้องยึดหลักความเข้าใจที่มีต่อกันแบบมีผลในระยะยาวและเป็นจริงได้ ไม่ใช่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดแล้วกลับไปทำความผิดอีกต่อไป เพราะจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มั่นใจว่า สังคมไทยชัดเจนหรือยังว่า จะปรองดองสมานฉันท์กันแบบถาวรจริงหรือไม่ เพราะเงื่อนไขที่ยื่นมาในการนิรโทษกรรมคดี ม.112 ก็ดีหรือคดีทุจริต ล้วนเป็นเงื่อนไขที่เขียนกฎหมายเพื่อให้ตัวเองซึ่งกระทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษมากกว่า ที่จะเดินหน้าไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง” สมชาย กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net