Skip to main content
sharethis

เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอน รวมตัวอ่านเเถลงการณ์ "ประณามความล้มเหลวโครงการกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอน จ.สงขลา” เรียกร้องกรมเจ้าท่าแก้ไขปัญหา หลังชายหาดท่าบอนถูกกัดเซาะหนักขึ้นจากผลการกระทบของกำแพงกันคลื่นที่คลื่นกระโจนปะทะกำแพงและกัดกินเข้ามาในบ้านเรือน – สวนมะพร้าว ของประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน ตลอด 3 ปีตั้งแต่ที่กรมเจ้าท่าสร้างกำแพงกันคลื่นแล้วเสร็จ

 

3 ม.ค. 2567 เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอนรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ่านแถลงการณ์ประณามความล้มเหลวโครงการกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอน สงขลา เรียกร้องกรมเจ้าท่าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและฟื้นฟูหาดท่าบอน ระบุ ตลอดระยะเวลา 3 ปีนับตั้งแต่ที่กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอนความยาว 5 กิโลเมตรแล้วเสร็จ ชายหาดท่าบอนได้ถูกกัดเซาะหนักขึ้นจากผลการกระทบของกำแพงกันคลื่นที่คลื่นกระโจนปะทะกำแพงและกัดกินเข้ามาในบ้านเรือน สวนมะพร้าวของประชาชนตลอดแนวชายหาด 5 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน

ภาพ Beach For Life Thailand

เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอน อ่านเเถลงการณ์ "ประณามความล้มเหลวโครงการกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอน จ.สงขลา ของกรมเจ้าท่า และ เรียกร้องให้เกิดการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและการฟื้นฟูชายหาดท่าบอน"

ตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอนความยาว 5 กิโลเมตรแล้วเสร็จ ในรูปแบบกำแพงกันคลื่นเข็มผืด ซึ่งอ้างว่าสามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้นั้น ชายหาดท่าบอนได้ถูกกัดเซาะหนักขึ้นจากผลการกระทบของกำแพงกันคลื่นที่คลื่นกระโจนปะทะกำแพงและกัดกินเข้ามาในบ้านเรือน สวนมะพร้าวของประชาชนตลอดแนวชายหาด 5 กิโลเมตร ที่มีกำแพงกันคลื่น ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือนที่อยู่เรียงรายตลอดแนวชายหาดท่าบอน ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งบ้านเรือนที่พังไป สวนมะพร้าวที่ล้มตายถูกน้ำกัดเซาะ ชายหาดที่หายไป คือ ผลกระทบอันเกิดจากการสร้างกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอนโดยกรมเจ้าท่าที่ผิดหลักวิชาการ สะท้อนความล้มเหลวในการป้องกันชายฝั่งด้วยกำแพงกันคลื่น

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ประชาชนท่าบอนต้องทนทุกข์กับโครงการกำแพงกันคลื่นดังกล่าวและผลกระทบที่เกิดขึ้น ต้องนอนหวาหวั่นขวัญผวาทุกครั้งที่คลื่นปะทะกำแพงกันคลื่นแล้วกระโจนซัดเข้ามาสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาชน ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกำแพงกันคลื่นดังกล่าวตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการยอมรับจากกรมเจ้าท่าอย่างตรงไปตรงมาว่านี่คือ ความล้มเหลวและวิบัติของโครงการกำแพงกันคลื่นที่กรมเจ้าท่าสร้างทิ้งไว้ที่ชุมชนบ้านท่าบอน รวมถึงประชาชนไม่เคยได้รับการเยียวยาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ทุกหน่วยงานกลับปิดตาและมองข้ามปล่อยทิ้งให้ประชาชนท่าบอนต้องช่วยเหลือตัวเอง เอาตัวรอดเอง จากปัญหาที่พวกเราไม่ได้เป็นคนก่อ

พวกเรา คือ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอน วันนี้เรามาศาลาเพื่อบอกกับผู้ว่าราชการ หน่วยงานของรัฐ และสังคมว่า “กำแพงกันคลื่นหาดท่าบอนที่สร้างโดยกรมเจ้าท่า คือ ความอัปยศและมรดกบาปที่รัฐทิ้งไว้ให้กับชุมชน จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆให้ชายหาดท่าบอนที่เคยสวยงามกลับคืนมา”

พวกเราต้องการให้หน่วยงานเร่งดำเนินการ 3 ข้อเรียกร้องโดยเร็ว ดังนี้

(1) ให้มีการหารือหน่วยงานราชการภายในจังหวัดเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาและความเดือนร้อนที่เกิดขึ้นจากกำแพงกันคลื่นหาดท่าบอนก่อนบ้านเรือนประชาชนจะไหลลงทะเลเพราะกำแพงกันคลื่น

(2) ขอให้มีการฟื้นฟูชายหาดท่าบอนให้กลับมา เพราะที่นี่เคยมีชายหาด แต่ถูกกำแพงกันคลื่นทำลายชายหาดให้หายไป

(3) ขอให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาชายหาดท่าบอนและฟื้นฟูชายหาดทั้งระบบของบ้านท่าบอน

เราหวังว่า 2 ข้อเรียกร้องนี้ จะถูกตอบรับโดยเร็ว เราทนทุกข์มานานเกินกว่าจะกลับไปรอที่บ้านโดยไร้ความหวังอีกต่อไป หากไม่มีความคืบหน้าประชาชนท่าบอนจะปักหลักรอความคืบหน้าตามข้อเรียกร้อง ณ ศาลากลางแห่งนี้จนกว่าจะเป็นไปตามข้อเรียกร้อง

 

แถลงวันที่ 3 มกราคม 2567

ณ ศาลากลางจังหวัดสงขลา

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net