Skip to main content
sharethis

'เศรษฐา' ร่วมพิธีมอบใบอนุญาตทำประโยชน์ในพื้นที่ของราชการ รับฟังประเด็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว จ.สกลนคร ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา หวังให้พุทธศาสนาเป็นศูนย์กลาง หล่อหลอมจิตใจ - สั่งหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาที่ดินวัดทั่วประเทศนำร่องสกลนคร 10 วัด สั่ง พศ. ดำเนินการด่วน

18 ก.พ. 2567 เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่าเมื่อเวลา 10.30 น. ณ วัดถ้ำผาแด่น ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมพิธีมอบใบอนุญาตทำประโยชน์ในพื้นที่ของราชการ และพูดคุยประเด็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนครให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมด้วย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
 
นายกรัฐมนตรีเข้ากราบสักการะหลวงพ่ออุดมสมบูรณ์ และกราบนมัสการพระครูปลัดอุดมวัฒน์ (ปกรณ์ กนฺตวีโร) เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาแด่น จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังประเด็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนครให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา จากผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยวัดถ้ำผาแด่นถือเป็นหนึ่งในวัดท่องเที่ยวของโครงการอารามภิรมย์ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2567 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธาน kick off โครงการอารามภิรมย์ที่วัดถ้ำผาแด่นแห่งนี้ โดยหวังให้วัดเป็นศูนย์กลางชุมชน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าวัดมากขึ้น อันเป็นการช่วยส่งเสริมความสำคัญของพระพุทธศาสนาที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต และการกระจายรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่
 
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีมอบใบอนุญาตทำประโยชน์ในพื้นที่ของราชการ พร้อมกล่าวว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นเทือกเขาภูพาน โดยในสมัยก่อนนั้นเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสันติภาพ มีสงครามสู้รบกับคอมมิวนิสต์มาโดยตลอด แต่วันนี้ผ่านมา 30 ปี สันติภาพเป็นเรื่องที่เราอยู่ร่วมกันมา ทำให้ประชาชนทำมาหากินได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องอันตราย เรื่องสันติภาพจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องรักษาเพื่อความสมัครสมานสามัคคี เพราะเราคงไม่อยากกลับไปสู่จุดเดิม ทั้งนี้ ต้องขอบคุณรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้มาพัฒนาและยกที่ดินให้กับพุทธศาสนา ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าชาวไทยพุทธทุกคนมีความเชื่อในเรื่องพุทธศาสนา เราอยากให้พุทธศาสนาเป็นศูนย์กลางเพื่อหล่อหลอมจิตใจให้มีความรักความสามัคคี นำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน

มติชนออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่านายกรัฐมนตรีได้ถวายใบอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าให้แก่วัดและสำนักสงฆ์ที่ประสบปัญหาที่ดิน จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ 1.วัดถ้ำผาแด่น 2.ที่พักสงฆ์นางเลิงนฤมิตร 3.ที่พักสงฆ์ป่าภูน้อย 4.ที่พักสงฆ์ป่าภูโล้น 5.ที่พักสงฆ์เกาะแก้ว 6.ที่พักสงฆ์บ้านเม่นน้อย 7.ที่พักสงฆ์ดอนแสงธรรมประชารัฐ 8.ที่พักสงฆ์ป่าสว่างธรรม 9.ที่พักสงฆ์ป่าศรัทธาธรรม และ 10.ที่พักสงฆ์ป่าโคกหินแผง ซึ่งเป็นไปตามที่ ส.ส.สกุณา สาระนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสกลนคร ได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2567 แม้วัดและที่พักสงฆ์ดังกล่าวได้รับการผ่อนผันให้ใช้ที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้รับพิจารณาแต่อย่างใด ทำให้พระสงฆ์และชาวบ้านในชุมชนไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้ จนกระทั่งล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด

“ท่านนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงต่อความเป็นอยู่ของคณะสงฆ์และการปฏิบัติศาสนกิจทางพระพุทธศาสนา จึงได้สั่งการเร่งให้ความช่วยเหลือและแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง ได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมป่าไม้ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนคร และลงพื้นที่จริง พบว่ามีวัดและที่พักสงฆ์หลายแห่งทั่วประเทศประสบปัญหาเช่นเดียวกัน จึงได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเร่งรวบรวมและติดตามให้ความช่วยเหลือ โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างใกล้ชิด ในอนาคตเราตั้งเป้าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับวัดและที่พักสงฆ์ทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง วันนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่เราสามารถช่วยเหลือวัดและสำนักสงฆ์ 10 แห่งของ จ.สกลนคร ได้ ถือเป็นความสำเร็จที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือทั้งคณะสงฆ์และประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นางพวงเพ็ชร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net