Skip to main content
sharethis

5 องค์กรในเครือข่าย senate67 ที่ทำหน้าที่รณรงค์และจับตากระบวนการเลือก สว. 2567 แถลงปัญหาสมัคร สว. พบ "ระบบล่าช้า-ขาดการเตรียมความพร้อม" จี้ กกต. เร่งสรุปยอดผู้สมัคร-สถานที่เลือกระดับอำเภอ ออกระเบียบแนะนำตัวใหม่ ย้ำ กกต. ต้องไม่อุธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ชี้ระบบซับซ้อน เป็นเหตุให้ยอดผู้สมัครต่ำกว่าเกณฑ์

25 พ.ค. 2567 เว็บไซต์ iLaw หลังจากกระบวนการรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ในระบบ “เลือกกันเอง” เสร็จสิ้นแล้ว 5 องค์กรในเครือข่าย senate67 ได้แก่ We Watch,  iLaw, ActLab, เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL)  คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญประชาชน (ครช.) ที่ทำหน้าที่รณรงค์และจับตากระบวนการเลือก สว. 2567 นี้ พบปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 5 วันที่เปิดรับสมัคร 20-24 พ.ค. 2567 จึงจัดแถลงสรุปปัญหาการรับสมัคร สว. และแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่หอศิลป์บ้านจิมทอมป์สัน (Jim Thompson Art Center) โดยมีข้อสรุปปัญหา ข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนี้

กระบวนการสมัครล่าช้า แต่กกต. เปิดรับสมัครแค่ 5 วัน

กฤต แสงสุรินทร์ จาก We Watch แถลงถึงปัญหาที่พบระหว่างช่วงห้าวันที่เปิดรับสมัคร สว. ดังนี้

1. กลไกการสมัครล่าช้า สร้างภาระให้ประชาชน : ในการรับสมัครวันแรกพบว่าระบบล่มในหลายพื้นที่จนทำให้การรับสมัครล่าช้า นอกจากนั้นเมื่อระบบกลับมา โดยรวมยังพบว่ากระบวนการรับสมัครสำหรับผู้สมัครหนึ่งคนจะใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที และในบางกรณีใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง โดยกกต. เลือกที่จะกำหนดวันรับสมัครไว้เพียง 5 วัน ทั้งๆ ที่กฎหมายให้เปิดรับสมัครได้ถึง 7 วัน และไม่ครอบคลุมวันหยุดเสาร์อาทิตย์

2. เจ้าหน้าที่สับสน สะท้อนการเตรียมความพร้อมของ กกต. : หลายกรณีเจ้าหน้าที่เรียกเอกสารที่อยู่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ เช่น สูติบัตร วุฒิการศึกษา หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัท ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนี้กลายเป็นภาระให้ผู้สมัครต้องโต้แย้งกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง หรือบางคนอาจต้องมีภาระหาเอกสารเพิ่มโดยไม่จำเป็น แสดงให้เห็นถึงการอบรมและการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่ยังคงมีปัญหา

3. ขาดการอำนวยความสะดวกผู้สูงอายุและผู้พิการ : การจัดสถานที่รับสมัครหลายแห่งไม่เอื้อต่อการเดินทางของผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น หลายพื้นที่มีบันไดและทางต่างระดับ รวมถึงจัดสถานที่รับสมัครไว้บนอาคารชั้น 2 ชั้น 3 ผู้พิการทางสายตายังไม่ได้รับการอำนวยความสะดวก เพราะไม่มีเอกสารที่เป็นอักษรเบรลล์

ข้อกังวลเกี่ยวกับการทุจริตและการซื้อเสียง

จากกระบวนการรับสมัคร สว. ห้าวัน และการรับรายงานเรื่องร้องเรียนความผิดปกติ ตัวแทนจาก We Watch ระบุปัญหาที่พบและรับเรื่องร้องเรียนมาว่า

  1. เจ้าหน้าที่เสี่ยงเปิดเผยข้อมูลผู้สมัครก่อนพ้นเวลารับสมัคร พบว่ามีสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวในพื้นที่การรับสมัคร โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปกปิดรายชื่อผู้สมัครให้มิดชิด รวมถึงบางพื้นที่ยังให้ผู้สมัครเข้ากลุ่มไลน์เดียวกันก่อนวันปิดรับสมัคร อาจทำให้มีคนทราบล่วงหน้าได้ว่า ในอำเภอนั้นๆ มีผู้สมัครแล้วกี่คนและประเมินได้ว่ามีกลุ่มอาชีพละกี่คน
  2. พบรายงานความผิดปกติเกี่ยวกับการระดมคน การจ่ายเงินจ้างให้ลงสมัคร และการขนคนไปสมัครพร้อมกันในหลายพื้นที่ หลายกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงความสัมพันธ์ของผู้ที่มาสมัครกันเป็นกลุ่มใหญ่กับข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการเลือก สว. ยังเป็นข้าราชการซึ่งมักมีความสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ระบบซับซ้อน ผู้สมัครน้อยกว่าที่ กกต. คาด

หลังการปิดรับสมัคร สว. แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการจากกรมการปกครองว่ามีผู้มาสมัคร สว. จากทั่วประเทศทั้งหมดจำนวน 48,226 คน ซึ่งจำนวนดังกล่าวน้อยกว่าที่ กกต. เคยคาดจำนวนผู้สมัครไว้ที่หลักแสนคน ณัชปกร นามเมือง เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) ระบุว่า จำนวนผู้สมัคร สว. รวมแล้วน้อยกว่าที่ กกต. เคยคาดหมายไว้หลายเท่า เป็นผลมาจากการขาดการประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง กระบวนการขั้นตอนที่ซับซ้อน การประกาศวันรับสมัครอย่างกระชั้นชิด รวมทั้งการตีความคุณสมบัติของผู้สมัครที่ขาดความชัดเจน ผลที่เกิดขึ้นวันนี้แสดงให้เห็นว่า การเลือกสว. ครั้งนี้เป็นระบบที่กีดกันการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง

แต่ถึงจะมีอุปสรรคมากมายในการเข้าไปมีส่วนร่วม ก็ยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และยอมทุ่มเทฝ่าด่านต่างๆ เพื่อเข้าไปเปลี่ยนประเทศนี้ พวกเราต้องขอขอบคุณพี่ๆ ทุกคน ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อฝ่าฟันยื่นใบสมัครจนสำเร็จ พวกเราขอแสดงความนับถือพี่ๆ ที่พยายามเป็นตัวแทนความฝันของน้องๆ ที่ไม่มีสิทธิจะได้เลือก สว. ครั้งนี้

ข้อเรียกร้องต่อ กกต. สำหรับกระบวนการต่อไป

ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) ในฐานะตัวแทนเครือข่าย แถลงข้อเรียกร้องต่อ กกต. สำหรับกระบวนการที่จะเกิดขึ้นภายหลังการปิดรับสมัคร สว. ดังนี้

  1. กกต. ต้องประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสมัคร สว. โดยเร็ว ครบถ้วน และเข้าถึงง่าย ต้องให้ผู้สมัคร สว. และประชาชนทุกคนเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ทางระบบออนไลน์ ภายในวันที่ 29 พ.ค. 2567
  2. กรณีที่ไม่รับสมัครบุคคลใด กกต. ต้องระบุเหตุผลที่ชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ต้องมีการชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย เป็นลายลักษณ์อักษร และต้องอำนวยความสะดวกให้กับบุคคลที่ต้องการยื่นคัดค้านผลการวินิจฉัย
  3. กกต. ต้องให้ความชัดเจนว่าจะเปิดเผยข้อมูลผู้สมัครสว. เมื่อใด เปิดเผยช่องทางไหนบ้าง และจะอำนวยความสะดวกให้ผู้สมัครที่ไม่สามารถไปรับเอกสารตามวันเวลานัดหมายได้อย่างไร
  4. กกต. ต้องประกาศสถานที่เลือกในระดับอำเภอโดยเร็ว และต้องเป็นสถานที่ที่เป็นที่รู้จัก เดินทางไปได้โดยสะดวก ต้องให้ความชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนและแนวปฏิบัติว่า การเลือกจะต้องทำอย่างไร ผู้สมัครต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ใช้เวลาในการเลือกเท่าใด
  5. กกต. ต้องเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตการณ์การเลือก สว. ได้ตลอดกระบวนการ ต้องเปิดให้ผู้สังเกตการณ์และผู้สมัคร สว. มีสิทธิทักท้วงกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยสะดวกและรวดเร็ว

มุ่งมั่นพิทักษ์สิทธิผู้สมัครในกระบวนการต่อไป

ลลิตา เพ็ชรพวง ActLab กล่าวถึงกลไกการปกป้องสิทธิของผู้สมัครว่า หลังการรับสมัครเสร็จสิ้น กกต. แจ้งว่าจะเผยแพร่บัญชีรายชื่อผู้สมัครทุกกลุ่มอาชีพทุกอำเภอ ในวันที่ 25 พ.ค. 2567 เวลา 22.00 น. ทางแอปพลิเคชั่น Smart Vote และภายในห้าวัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 29 พ.ค. 25567 จะประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบแล้วอีกครั้ง

สำหรับผู้สมัครที่ยื่นใบสมัครเรียบร้อยแต่ กกต. ไม่ประกาศรับรองรายชื่อและออกหนังสือแจ้งการไม่รับสมัคร ผู้สมัครนั้นสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 3 วัน ซึ่งเราจะมีตัวอย่างแบบฟอร์มคำร้องเผยแพร่ทางเว็บไซต์ senate67.com และพร้อมให้คำแนะนำถึงขั้นตอนวิธีการที่จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ให้ดำเนินการได้ทันวันเลือกระดับอำเภอ

สำหรับผู้สมัครที่เข้าสู่กระบวนการในวันเลือก แล้วพบความผิดปกติ เช่น การปฏิบัติผิดขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ การนับคะแนนผิด การขานบัตรเสียผิด จะต้องทักท้วงให้เจ้าหน้าที่แก้ไขได้ทันที หากพบการกระทำที่ส่อความไม่สุจริต เช่น การมีบุคคลภายนอกเข้าแทรกแซงการเลือก ก็ต้องร้องเรียนและบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ โดยเราจะมีแบบฟอร์มการทักท้วงการทำงานของเจ้าหน้าที่และการร้องเรียนความผิดปกติ ซึ่งจัดเตรียมไว้ที่เว็บไซต์ senate67.com

กกต. ต้องออกมาแถลงชัดเจนว่าจะไม่อุทธรณ์ หรือแก้ระเบียบแนะนำตัวตามคำพิพากษาศาลปกครอง

นันทวัฒน์ ศักดิ์สกุลคุณากร คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญประชาชน (ครช.) ระบุว่า กกต. เคยออกระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. โดยใจความหลักคือ การแนะนำตัวกันจะเกิดขึ้นได้เฉพาะระหว่างผู้สมัครด้วยกันเท่านั้น ผู้สมัครจะแนะนำตัวได้เพียงข้อมูลที่กำหนดไว้ คือ ข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน และประสบการณ์การทำงานในกลุ่มอาชีพเท่านั้น ทั้งหมดต้องรวมไว้ในกระดาษ A4 ไม่เกิน 2 แผ่น

เมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) ศาลปกครองกลางก็มีคำพิพากษาให้เพิกถอนระเบียบ กกต. 5 ข้อ ทำให้การแนะนำตัวจะไม่มีข้อจำกัดทั้งในแง่ของรูปแบบ เนื้อหา ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวกันได้อย่างอิสระ ยกเว้นการให้สัมภาษณ์สื่อ ทำให้การเลือก สว. ครั้งนี้เปิดกว้างมากขึ้น ผู้สมัครไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขของการแนะนำตัวอีกต่อไป

อย่างไรก็ดี ผลของคำพิพากษาศาลปกครองยังไม่เกิดขึ้นทันที เพราะ กกต. ยังมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำวินิจฉัยของศาลปกครองกลางภายใน 30 วัน ดังนั้น เราจึงเรียกร้องไปยัง กกต. ว่า

(1) กกต. ต้องไม่อุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าว และแถลงยืนยันอย่างเป็นทางการและเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความชัดเจน

(2) หาก กกต. เลือกที่จะออกระเบียบในการแนะนำตัวใหม่ ระเบียบที่ออกมาจะต้องไม่ขัดกับแนวทางที่ศาลปกครองวางไว้ ไม่จำกัดการรับรู้หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้สมัคร สว. และต้องคำนึงถึงหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสำคัญ

ประชาชนมีส่วนร่วมได้ จับตา-สังเกตการณ์ สว. 67

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ iLaw ระบุว่า ภายในวันที่ 29 พ.ค. 2567 กกต. จะต้องประกาศรายชื่อผู้สมัครสว. ทั้งหมดที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้วทางระบบออนไลน์ เราจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคน “จับตา” โดยการเข้าไปดูรายชื่อของผู้สมัครและร่วมกันแสดงความคิดเห็นถึงคนที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม หรือชี้เบาะแสหากทราบว่ามีผู้สมัครที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะสมัคร สว. ได้ เพื่อเป็นการช่วยผู้สมัครคนอื่นๆ “ทำการบ้าน” ก่อนวันเลือกจริง

ในวันที่ 9 มิ.ย. 2567 จะเกิดการเลือกระดับอำเภอขึ้น เราขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนร่วมกัน “จับตา” โดยการส่งหนังสือขออนุญาตเข้าสังเกตการณ์ไปยัง กกต. หรือผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ หรือติดตามการถ่ายทอดสดซึ่งอาจจะมีขึ้นเฉพาะอำเภอที่พร้อม หรือติดตามดูบันทึกวิดีโอการเลือกจากกล้องวงจรปิด และรายงานความผิดปกติหรือรายงานผลการสังเกตการณ์มาทางเว็บไซต์ senate67.com

สำหรับข้อมูลผู้สมัครบนเว็บไซต์ senate67.com จะเปิดเผยทั้งหมด ทั้งชื่อ นามสกุล ข้อมูลส่วนตัว และจุดยืนวิสัยทัศน์ของผู้สมัครทันทีที่มีความชัดเจนว่า กกต. จะไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครอง โดยผู้สมัครทุกคนสามารถให้ข้อมูลเพิ่มได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และสามารถแก้ไขข้อมูลที่เคยให้ไว้แล้วได้ทางอีเมล senate2567@gmail.com

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net