Skip to main content
sharethis

'แพทองธาร' ห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.หนองคาย สั่งการทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ DE เปิด แพลตฟอร์ม HelpT น้ำท่วม พร้อมรับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากน้ำท่วม และให้การช่วยเหลือ

 

 

14 ก.ย. 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ข้อความห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดหนองคายผ่าน X พร้อมสั่งการทุกหน่วยงานเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและให้รายงานนายกรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเรื่องการประเมินสถานการณ์เพื่อสั่งการการช่วยเหลือภาครัฐทันท่วงที  ทั้งนี้ ยังขอให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดด้วย

ทั้งนี้  สำนักงาน ปภ. จังหวัดหนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จิตอาสา อาสาสมัคร มูลนิธิพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือแล้ว  โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าให้ความช่วยเหลือ และมีการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และการสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบ สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งเหตุ ขอความช่วยเหลือ โทร.สายด่วนอุทกภัย 67 อีสานตอนบน ปภ. 1784 แพทย์ฉุกเฉิน 1669 ทางหลวง 1586 การไฟฟ้า 1129 ตำรวจ 191 และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก 044-245-946

อนึ่ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ยังเชิญชวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถร้องเรียนได้ที่ "แพลตฟอร์ม HelpT" พร้อมรับแจ้งเหตุฉุกเฉินและการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

พอใจสถานการณ์น้ำ จ. เชียงราย เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เป็นห่วงระดับน้ำโขง สั่งการทุกหน่วยเตรียมรับมือปัญหาอุทกภัย

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2567 เวลา 15.15 น. ณ. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นการติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดเชียงราย

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานปกครอง ภาคประชาชน ที่ได้สนธิกำลังในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทำให้สถานการณ์เบาบางลงไป โดยเฉพาะอาหารและน้ำ ได้เตรียมการอย่างพอเพียง ซึ่งได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า ระดับน้ำกำลังลดลงแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปกู้ภัยประชาชนที่ติดอยู่ในบ้าน เพื่อนำเข้ามาในศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งเหลืออีกแค่จำนวนไม่มาก ประมาณ 300 คน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง จัดทำแผนที่กลาง เพื่อให้ทุกภาคส่วน รวมถึงภาคเอกชนที่ได้นำเอาเจ็ตสกี จะได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังค้างอยู่ได้ นอกจากนี้ ไทยได้เร่งเจรจากับเมียนมา เพื่อขยายพื้นที่รับน้ำระหว่าง 2 ประเทศ เพราะปัจจุบันมีการบุกรุกพื้นที่ ทำให้ช่องทางแคบลง และไม่สามารถรับน้ำ และระบายน้ำได้ทันด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเยี่ยมผู้ประสบภัยในวัดพรหมวิหาร ส่วนมากเป็นชาวเขาและยังไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ไม่สามารถรับเงินเยียวยาได้ จึงให้กระทรวงมหาดไทย เร่งหามาตรการพิสูจน์สัญชาติ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับเงินเยียวยาอย่างทั่วถึง และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการกรมทางหลวง เร่งซ่อมแซมสะพานที่ขาด เพื่อให้การสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก สำหรับการติดตามราคาสินค้า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นและใช้ในการฟื้นฟูเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความสำคัญของระบบเตือนภัย โดยมอบหมายให้ DE และ GISTDA หามาตรการที่เร่งด่วนเตือนภัยแก่ประชาชน รวมถึงระบบ SMS Alert ต้องมีประสิทธิภาพ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ตื่นตัว รับมือกับปัญหาได้ทัน ทั้งนี้ หลังจากน้ำลดลง ให้ทุกภาคส่วน ช่วยกันทำความสะอาดบ้านเรือน ถนน เพื่อให้ประชาชนกลับมาสู่สภาพปกติ รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ซึ่งรัฐบาลจะหามาตรการและงบประมาณ รวมทั้งพิจารณาการใช้เงินจากกองทุนต่างๆ เพื่อเยียวยาพี่น้องประชาชนในส่วนนี้ เพื่อที่ประชาชนจะได้ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในการลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิในการเยียวยา เพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว และเข้าถึงประชาชนได้ง่าย ที่ผ่านมาได้มีการใช้ “ทางรัฐ” ในการลงทะเบียนโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งยังเหลืออีกสองวันสำหรับการลงทะเบียนโครงการ ฯ และในอนาคตการใช้แอปฯ ทางรัฐ จะทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกับประชาชนได้ง่าย ทั้งช่วยให้การช่วยเหลือ จ่ายค่าเยียวยาได้รวดเร็วและถึงพี่น้องประชาชนจริง ๆ รัฐบาลเองก็จะเดินหน้าสู่รัฐบาลดิจิทัล ด้วย

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมการรับมือปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในจังหวัดหนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง ที่อาจได้รับผลกระทบจาก ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่สูงขึ้นด้วย

 

ที่มาเรียบเรียงจากเว็บไซต์รัฐบาลไทย [1] [2]

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net