Skip to main content
sharethis

'เศรษฐา' ลงพื้นที่ สน.ห้วยขวาง สั่งตรวจสอบป้ายโฆษณาซื้อขายพาสปอร์ต กำชับตำรวจเข้มงวดในพื้นที่  ทุกอย่างต้องถูกกฎหมาย - 'วิโรจน์' กังวลป้ายชวนซื้อพาสปอร์ตเด่นหรา ห่วงไทยศูนย์กลางอาชญากร


ที่มาภาพ: Thai PBS 

22 ก.ค. 2567 สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง สอบถามกรณีที่พบว่ามีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายพาสปอร์ต ที่บริเวณแยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง และรับจ้างดำเนินการแปลงสัญชาติ (สัญชาติที่สอง) ได้ใน 30 วัน โดยมีภาพตัวอย่างหนังสือเดินทางของประเทศอินโดนีเซีย วานูอาตู กัมพูชา และตุรกี  ล่าสุดได้ทำการรื้อถอนเสร็จแล้วเมื่อช่วง 10.00 น. วันนี้

ทั้งนี้ นายกฯ ได้สั่งการให้ตรวจสอบถึงที่มาที่ไปของการขึ้นป้ายโฆษณาดังกล่าว หากมีความผิดตามกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการตามกระบวนการ เนื่องจากเขตห้วยขวาง มีการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจของชาวจีนจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจสอบทุกอย่างต้องดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย

ขณะเดียวกันได้กำชับให้ตำรวจ เข้มงวดเรื่องของยาเสพติดและเรื่องหนี้นอกระบบในพื้นที่ที่รับผิดชอบด้วย ทีมข่าวได้พบกับผู้ที่เห็นเหตุการณ์ตอนติดตั้งป้าย โดยเล่าว่า ป้ายดังกล่าวมีการติดตั้งช่วงบ่าย ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้เข้าไปพูดคุยกับคนติดป้ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ว่ามาทำอะไร ได้รับคำตอบกลับมาสั้นๆว่ามารอติดป้าย แต่ไม่ทราบว่าเป็นของบริษัทใด

จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ ส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นป้ายดังกล่าว รวมทั้งป้ายโฆษณาย่านนี้จะมีการติดตั้งและรื้อถอนเป็นปกติอยู่แล้ว จึงไม่ได้สังเกตหรือสนใจเท่าไรนักทราบว่ามีป้ายดังกล่าวจากข่าวที่ปรากฏ ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า อาจเกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทา เนื่องจากปัจจุบันมีชาวจีนมาประกอบธุรกิจย่านห้วยขวางเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาควบคุมเพื่อไม่ให้กระทบกับการทำมาหากินของคนไทย

วันพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น. ทางสำนักงานเขตห้วยขวาง จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

'วิโรจน์' กังวลป้ายชวนซื้อพาสปอร์ตเด่นหรา ห่วงไทยศูนย์กลางอาชญากร

มติชนออนไลน์ รายงานว่านายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีป้ายโฆษณาภาษาจีนชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ ย่านรัชดาว่า ต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่หากเป็นไปตามป้าย สามารถติดต่อและทำได้จริง มีความเป็นไปได้สูงที่มีการทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจและกังวลใจมาก เพราะปกติแล้วธุรกิจผิดกฎหมายและการทำพาสปอร์ตปลอมมีอยู่แล้ว แต่จะทำแบบหลบๆ ซ่อนๆ ไม่มีประชาสัมพันธ์โฆษณาแบบเอิกเกริกอย่างนี้ ต้องทำแบบใช้ระบบใต้ดิน ติดต่อคนนั้นคนนี้แล้วพากันไปทำ แต่ครั้งนี้ถึงขั้นขึ้นป้ายเลย คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก หากเป็นเรื่องจริง

“ถ้าเป็นความจริงก็ถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลไปด้วย เพราะสะท้อนว่าขึ้นป้ายตัวใหญ่ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย คนไทยก็คงไม่สนใจหรอก รัฐบาลไทยหรือตำรวจไทยก็คงไม่สนใจหรอก เราต้องยอมรับจริงๆ ว่าตรงย่านนั้น รัชดา ห้วยขวาง มีชาวจีนอาศัยอยู่เยอะ ดังนั้น เขาต้องการสื่อสารกับคนจีนจริงๆ ที่เข้าใจภาษานั้นจริงๆ แสดงว่าประเทศเรากำลังกลายเป็นศูนย์กลางภัยคุกคามของโลกแล้วสิ” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์กล่าวว่า หากเป็นจริงจะทำให้ภาพลักษณ์ เกียรติภูมิของประเทศเสื่อมเสียไปด้วย แล้วจะทำให้ดึงดูดมาเฟียข้ามชาติ อาชญากรจากต่างประเทศที่เข้ามาหลบพักในไทยก่อนจะไปประเทศอื่น ประเทศเรากำลังกลายเป็นศูนย์กลางของอาชญากรจีนหรือไม่ กรณีนี้ถือเป็นการทำผิดในราชอาณาจักรไทย ผิดกฎหมายไทย ต้องดำเนินคดีอาญา ถ้าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ก็สามารถที่จะสืบเสาะและขยายผลได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า เบื้องหลังยังมีอีกเยอะหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า คงมีอีกเยอะ ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลจีนด้วย เพราะมาเฟียจีน อาชญากรจีนจำนวนมาก มีหมายจับที่ประเทศจีนแล้วหลบหนีออกมา โดยมีเป้าหมายคือประเทศไทย

“ตามที่เขาร่ำลือกันจนลงหลักปักฐานแล้ว มีเครือข่าย มีฮับ มีศูนย์ประสานงานของเครือข่ายอาชญากรจีนในประเทศไทยว่าหลบมาพักก่อน แล้วเดี๋ยวจะมีทีมงานคอยประสานงานที่จะให้หนีไปยังประเทศนั้น ออกไปยังประเทศนี้ได้ ตอนนี้มันกลายเป็นเครือข่ายแล้ว มาเฟียจีนสีเทา ต่อให้คุณมีเงินหนีคดีมาจากประเทศจีน ที่นี่จะเป็นแหล่งพักพิง ที่นี่สามารถติดสินบนได้ ที่นี่สามารถยัดใต้โต๊ะได้ ที่นี่สามารถซื้อข้าราชการบางคนได้ มันกลายเป็นศูนย์รวมของการกระทำความผิดกฎหมายไปแล้วสิ” นายวิโรจน์กล่าว

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net