Skip to main content
sharethis

ตลอดทั้งวันนี้ (11 ก.ย.) หลายพื้นที่ในภาคเหนือยังคงเผชิญเหตุน้ำท่วม - พรุ่งนี้ (12 ก.ย.) นายกเรียกถกสถานการณ์น้ำท่วม หลังแถลงนโยบาย - ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันบริเวณที่ลุ่มต่ำและชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ รวมทั้งน้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 13-18 ก.ย. เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศไทยตอนบน


ที่มาภาพ: สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์ 

11 ก.ย. 2567 ตลอดทั้งวันนี้ มีรายงานข่าวว่าหลายพื้นที่ในภาคเหนือยังคงเผชิญเหตุน้ำท่วม โดยในช่วงเช้า มีรายงานข่าวว่า  ที่หน้าด่านพรหมแดนแม่สาย แห่งที่ 1 จ.เชียงราย ปริมาณน้ำจากลำน้ำแม่สายยังคงไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ส่งผลกระทบให้กับประชาชน และผู้ค้าในพื้นที่ตลาด ประชาชนส่วนใหญ่ต่างมาติดตามสถานการณ์น้ำตั้งแต่ช่วงเช้า บนถนนมีน้ำท่วมสูง 20 ซม. - 1 เมตร ตามความสูงของพื้นถนน ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากภาคประชาสังคม ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า

ขณะที่ร้านค้าบางร้านนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อระบายน้ำออกจากร้าน ขณะที่ฝนยังตกต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำมีการปรับเพิ่มและลดลง แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยผู้ค้าตลาดสายลมจอยระบุว่าน้ำท่วมครั้งนี้เป็นการท่วมครั้งที่รุนแรงที่สุดในปีนี้และยังกังวล เนื่องจากมีผู้สูงอายุอยู่ภายในร้านด้วย

ส่วนที่ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เทศบาลตำบลแม่สาย มีการจัดตั้งจุดรับเรื่องให้ความช่วยเหลือประชาชนผ่านสายด่วน 199 และประกอบอาหารเพื่อส่งต่อให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ รวมถึงเปิดศูนย์พังพิงชั่วคราวเทศบาลตำบลแม่สาย ให้ผู้ประสบอุทกภัยได้พักอาศัยชั่วคราวซึ่งมีผู้เดินทางมาพักอาศัยจำนวนมาก โดยเบื้องต้นจำนวน 2 ตำบล คือ ต.แม่สาย และ ต.เวียงพางคำ รวม 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 1,191 ครัวเรือน ร้านค้า/สถานประกอบการ 92 แห่ง สถานีตำรวจ 1 แห่ง คาดการว่ามีผู้ที่ติดอยู่ภายในบ้านเรือนที่อพยพไม่ทัน ราว 400 คน ซึ่งขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ส่งอาหารให้กับผู้ประสบภัยแล้ว และคาดว่าสถานการณ์น้ำวันนี้จะยังทรงตัวเนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

เวลา 14.55 มีรายงานข่าวว่า นายอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย แจ้งสถานการณ์น้ำแม่สายที่หลากในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะนี้ระดับน้ำลดลง พบดินโคลนและความเสียหายหลังน้ำลดหลายพื้นที่ อยู่ระหว่างประสานทุกหน่วยเร่งฟื้นฟู จากสถานการณ์ของฝนที่ยังตกต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าทำให้ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่าในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 ตำบล 29 หมู่บ้าน

ท่วมเมืองเชียงรายแล้ว ตัวเมืองเริ่มสถานการณ์หนัก บริเวณชุมชนเกาะลอย-ห้าแยกพ่อขุน-สะพานน้ำกกถนนพหลโยธิน

เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่าสถานการณ์ฝนตกและน้ำท่วมหนักใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาถึงเช้าวันที่ 11 ก.ย. 2567 พบกระแสน้ำยังไหลแรง ทำให้รถใหญ่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ได้ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าน้ำจะไหลเข้าพื้นที่ ต.ศรีเมืองชุม และต.เกาะช้าง ในช่วงเช้า และจะมีมวลน้ำจากเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไหลลงสู่พื้นที่ ต.โป่งผา และต.โป่งงาม ขณะที่ จ.เชียงราย แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมความพร้อมรับมวลน้ำ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

เพจมูลนิธิกระจกเงาเชียงราย โพสต์ภาพสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ที่อ.เมืองเชียงราย วันพุธที่ 11 ก.ย. 2567 เวลา 13.39 น. บริเวณชุมชนเกาะลอย-ห้าแยกพ่อขุน-สะพานน้ำกกถนนพหลโยธิน

GISTDA เปิดภาพดาวเทียมน้ำท่วมเชียงราย จมน้ำ 3 อำเภอรวมกว่า 1.3 แสนไร่

เพจ GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เผยภาพน้ำท่วมจากภาพดาวเทียม RADARSAT-2  ของวันที่ 10 ก.ย. 2567 เวลา 18.15 น. พบน้ำท่วมขังในพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายใน 3 อำเภอ คือ #แม่สาย 6,182 ไร่ #เชียงแสน 3,694 ไร่ #แม่จัน 3,225 ไร่ รวมพื้นที่น้ำท่วมขังทั้งหมด 13,101 ไร่ โดยปริมาณน้ำท่วมขังทั้งหมดที่เกิดขึ้นในพื้นที่จะถูกระบายลงสู่แม่น้ำโขงต่อไป

สถานการณ์ดังกล่าว GISTDA ได้ส่งข้อมูลภาพจากดาวเทียมดังกล่าวให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนในการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน และการติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป 

'แพทองธาร' เผย พร้อมช่วยน้ำท่วมเชียงรายเต็มที่ ตอนนี้ได้อัปเดตข้อมูลกับ รมว.กลาโหมตลอด ยอมรับจุดที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือพื้นที่ใน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย

เพจ สวท.เชียงราย กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตอนนี้ยังสั่งการได้ไม่เต็มที่จนกว่าจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ได้อัปเดตข้อมูลกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบว่ากองทัพลงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสถานการณ์ขณะนี้นี้ได้จัดตั้งศูนย์พักพิงพัก 2 แห่ง คือที่ อ.แม่สาย และตั้งโรงครัวแล้ว สามารถจัดปรุงอาหารที่โรงครัวได้ 500 - 600 กล่องต่อมื้อ ซึ่งก็ยังไม่พอจึงจะเร่งรีบในเรื่องนี้ และหลังจากวันพรุ่งนี้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น ก็จะสามารถสั่งการได้อย่างเต็มที่  พยายามหาข้อมูลไว้ และให้ทุกคนเตรียมพร้อมในเรื่องของการจัดการ โดยขณะนี้จุดที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือพื้นที่ใน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ถือว่าเป็นพื้นที่ที่สถานการณ์น้ำหนักมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า กระแสน้ำขณะนี้ยังคงไหลเชี่ยว เรือทองแบน ยังไม่สามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นยังต้องรอ แต่ทุกฝ่ายก็จะเตรียมพร้อมไว้แล้วทั้งอุปกรณ์การช่วยเหลือต่าง ๆ และเรือเจ็ทสกี หากกระแสน้ำดีขึ้นก็จะสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันที ซึ่งขณะนี้มีบ้านเรือนของประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 9,000 ครัวเรือน

เผย 12 ก.ย. นายกฯ เรียกถกสถานการณ์น้ำท่วม หลังแถลงนโยบาย

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่าสำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายภูมิธรรมบอกว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความห่วงใย ได้ส่งกำลังใจ สงสารประชาชนอยากให้ทุกคนปลอดภัย และสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากช่วงนี้รัฐบาลยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ นอกเสียจากจะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสียก่อน ต้องรอจนกว่าจะวันที่ 12 ก.ย. 2567 เมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จ จะมีอำนาจสั่งการได้เลย ไม่ต้องรอจนแถลงนโยบายจบ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมในวันที่ 12 ก.ย. 2567 เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา

ในเรื่องของความเสียหาย ได้รับรายงานว่ามีความเสียหายจากดินโคลนถล่มที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ส่วนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีน้ำเชี่ยวกราก ประชาชนได้รับความเดือดร้อนนับพันราย ตอนนี้มีปัญหาทั้งน้ำท่วมสูง ปัญหาเรื่องการกินอยู่ของประชาชน แต่ตนเชื่อว่าหน่วยงานต่างๆ ที่มีหน้าที่โดยตรงได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือบ้างแล้ว ซึ่งกระทรวงกลาโหม มณฑลทหารบกที่ 37 มณฑลทหารบกที่ 34 และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ไปช่วยแล้ว โดยผู้ใหญ่ในกระทรวงกลาโหมรายงานว่าไม่ต้องกังวลสถานการณ์ในขณะนี้ ตอนนี้ทหารทุกหน่วยอยู่ในพื้นที่แล้ว หน่วยราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด มีการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็น แม้รัฐบาลจะไม่ได้สั่งการอะไรก็ตาม ซึ่งตนมีความสบายใจขึ้น เพราะตอนนี้รัฐบาลสามารถทำได้แค่มีความห่วงใย แต่หลังจากนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จเราจะปฏิบัติการทันที

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าหลังจากแถลงนโยบายเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.เชียงราย หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในวันที่ 12 ก.ย. จะมีการประชุมก่อน ตอนนี้เราทราบแต่เพียงสื่อ ซึ่งไม่แน่ใจว่าข้อมูลตรงหรืออันไหนเป็นข้อเท็จจริง แต่หลังจากวันที่ 12 ก.ย. น่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยหลังนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จ ปัญหาน้ำท่วมจะเป็นปัญหาแรกที่เราจะทำทันที ส่วนคำถามว่า เท่าที่มีการประเมินคาดว่าน้ำท่วมจะคลี่คลายเมื่อใด นายภูมิธรรมตอบว่า ขอรอหารือในวันที่ 12 ก.ย. ก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะคลี่คลายเร็วหรือช้า ปัญหาขณะนี้คือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ที่เราต้องเข้าไปช่วยก่อน

ดินถล่ม อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นเสียชีวิต 4 คน เร่งค้นหา 2 ผู้สูญหาย

Thai PBS  รายงานสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่บ้านดอยแหลม และบ้านหล่ายอาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ล่าสุดมีผู้ประสบภัย 9 คน เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บ 3 คน และสูญหาย 2 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งค้นหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

นอกจากนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในวันนี้ เบื้องต้นมีข้อสั่งการเร่งด่วน 4 ข้อ ผ่านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับสถานการณ์ดินสไลด์ในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ คือให้ทีมเชียงใหม่ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์พายุยางิ ในด้านความเป็นอยู่ประชาชน ได้การสั่งการให้ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยสังคมทุกหน่วย ตั้งครัวสนามเคลื่อนที่ พร้อมกับจัดรถส่งอาหารเข้าสนับสนุนพื้นที่ อ.แม่อาย และ อ.ฝาง ทันที

ด้านการค้นหาผู้สูญหาย ได้สั่งระดมหน่วยกำลังทุกหน่วย เดินเท้าขึ้นดอยค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังพบผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บแล้วจำนวนหนึ่ง ด้านฟื้นฟูถนนที่ดินถล่มปิดทาง ได้มอบภารกิจให้นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำทีม ทล. ทช. ทส. นำเครื่องจักรกลจากพื้นที่อื่น เข้าช่วยเคลียร์ดินถล่มปิดถนนทุกเส้นทาง ที่ อ.แม่อาย อ.ฝาง

ด้านฟื้นฟูชุมชนที่น้ำพัดโคลนมาทับถม ได้มอบภารกิจให้นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำทีม ทถ. อปท. นำรถเกรด รถน้ำ รถขนขยะ เข้าช่วยล้างโคลน เก็บขยะกีดขวางในชุมชน บ้าน วัดในจุดที่สามารถทำได้เลยทันที

น้ำป่าทะลัก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อีกระลอก

เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่าที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เกิด น้ำท่วม อ่วมหนักในรอบ 30 ปี 4 ตำบล 33 หมู่บ้าน 2,900 ครัวเรือน 8,200 คน ที่ น้ำมาว ทะลักท่วมใน ต.ม่อนปิ่น น้ำแม่ใจเริ่มทะลักเจ้าพื้นที่ ต.โป่งน้ำร้อน ต.เวียง ตั้งแต่บ้านแม่ใจเหนือ บ้านเวียงฝาง ต.เวียง น้ำมาวทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนใน ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ส่วนทางชาวบ้านยังได้หากระสอบทรายมาไว้เพื่อป้องกันโดยรอบ ถึงแม้ว่า น้ำป่า จะมาเร็วลงเร็ว แต่ครั้งนี้มาเยอะและหนัก น้ำท่วมสูง 50-80 เชนติเมตร บางพิ้นที่สูงกว่า 1 เมตร

ว่าที่ร้อยตรี นพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอฝาง โทรมาแจ้งว่าตอนนี้ทางอำเภอแจ้งทุกฝ่าย ทั้ง อบต. เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้จัดเวรยามพร้อมแจ้งความเคลื่อนไหวของระดับน้ำ 24 ชั่วโมง พร้อมกระสอบทราย ที่จะบริการป้องกันน้ำเข้าท่วมบ้านประชาชน แต่เวลานี้คงไม่ทันแล้ว น้ำป่า ลงมาเร็วมากท่วมหลายพื้นที่ และท่านที่สัญจรเส้นทาง 107-1089 ฝาง-บ้านป่าบง ต.เวียง ให้เลี่ยงใช้เส้นทางบายพาส เพราะจะสะดวกปลอดภัยกว่า น้ำเพิ่มลงมาเรื่อยๆ ท่วมพื้นที่หมู่บ้านที่อยู่ติดลำน้ำ แต่ก็จะมาไวไปไว ถ้าฝนทางทิศตะวันตกหรือดอยตกลงมาเพิ่มอีก

ทางฝ่ายปกครองแจ้งทุกส่วนเตรียมพร้อม 24 ชัวโมงทุกตำบล ทุกหมู่บ้านแล้ว ทางนายอำเภอก็เปิดโทรศัพท์และวิทยุ 24 ชั่วโมง สามารถแจ้งมาได้ตลอดเวลา ในระดับน้ำทางอำเภอฝาง ลดลงประมาณ 4-5 เซนติเมตร

ชาวแม่สอดเร่งเก็บของหนีน้ำท่วม

มติชนออนไลน์ รายงานว่า อ.แม่สอด จ.ตาก ตลาดริมเมยอ่วมหนัก น้ำขึ้นหนักกว่าครั้งที่ผ่านมา แผงลอยจมน้ำอพยพย้ายคนออกจากตึกแถว และย้ายของจากร้านค้า

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก น้ำเมยมีระดับสูงขึ้น ไหลบ่าท่วมบ้านเรือนประชาชนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจ และแหล่งเที่ยวที่สำคัญ เช่น ตลาดริมเมย ร้านค้า ซึ่งน้ำท่วมสูงมาก จนเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันขนย้ายสินค้า และทรัพย์สินที่มีค่า ออกจากตลาดริมเมย ย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ถูกน้ำท่วมอย่างฉุกละหุก โดยมีรายงานข่าวว่า ชาวเมียนมา 1 ราย โดยสารเรือจากเมียวดีมาฝั่งไทย เกิดเรือล่มทำให้ผู้โดยสารบนเรือสูญหายไปกับน้ำ 1 คน เป็นชายชาวเมียนมา ชื่อนายเฮงโก่ อายุ 28 ปี

ชาวบ้านบอกว่า น้ำท่วมครั้งนี้หนักกว่าช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เพราะฝนตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งมีทั้งน้ำป่าไหลหลาก และน้ำเมยสูงขึ้นไวมากจนเตรียมตัวไม่ทัน

น้ำในแม่น้ำปายและน้ำแม่สะงา ไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าว จ.แม่ฮ่องสอน

เว็บไซต์สยามรัฐ รายงานว่าสถานีอุทกวิทยาบ้านท่าโป่งแดง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้รายงานระดับน้ำในแม่น้ำปาย แม่น้ำสายหลักของ จ.แม่ฮ่องสอน ยังเพิ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ วัดระดับน้ำในแม่น้ำปาย สูงสุดที่ 4.53 เมตร จากเมื่อตอนเช้าเวลา 06.00 น.วัดได้ 3.47 เมตร สูงขึ้นมาถึง 1.06 เมตร ส่งผลให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่นาและการเกษตรในพื้นที่บ้านกุงไม้สัก, บ้านปางหมู, บ้านสบสอย ต.ปางหมู, บ้านท่าโป่งแดง, บ้านห้วยเดื่อ และ บ้านห้วยปูแกง ต. ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งสถานการณ์น้ำยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่องสาเหตุเนื่องจากยังคงมีฝนตกหนาแน่นในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ตกต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา

โดยน้ำในแม่น้ำปาย จาก อ.ปาย น้ำของ อ.ปางมะผ้า และลำห้วยสาขาต่าง ๆ จากพื้นที่ อ.ปาย ถึง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้ไหลลงมาสมทบ จากฝนที่ตกต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 2 ทำให้น้ำท่วมอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานของผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุอุทกภัยแต่อย่างใด โดยระดับน้ำแม่น้ำปายตามสถานีต่าง ๆ พบว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำปาย ได้เริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายปกครองจึงได้มีการกำชับให้ราษฎรพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทภัยที่อาจจะเกิดเหตุได้อย่างไม่คาดฝัน

'อนุทิน' เรียกประชุมด่วน ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงราย จ่อลงพื้นที่ 14 ก.ย.

11 ก.ย. 2567 มติชนออนไลน์ รายงานว่าเมื่อเวลา 15.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์

ด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กล่าวรายงานเหตุดินถล่มที่แม่อายระหว่างลงพื้นที่ ว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย ขณะนี้ได้นำส่งโรงพยาบาลทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่สำหรับผู้สูญหาย 6 ราย ได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตแล้วทั้งหมด โดย 1 ในนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำตอนนี้ พบว่ามวลน้ำที่ไหลลงมาที่แม่น้ำกกค่อนข้างมีปริมาณมาก ซึ่งจะไหลลงไปที่ จ.เชียงราย ทางเชียงใหม่จึงยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่พบว่าเป็นเรื่องของดินสไลด์ลงมาทับบ้านเรือนประชาชน

ด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวรายงานว่า ขณะนี้อยู่กับ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์น้ำ และให้ความร่วมมือช่วยเหลือต่างๆ เพราะยังมีประชาชนติดค้างในบ้านเรือนจำนวนหนึ่ง แต่ข่าวดีที่ได้รับคือกระแสน้ำลดความรุนแรงลงแล้ว และจากการช่วยเหลือของกองทัพ คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำภายใน 1-2 วันนี้น้ำจะลดลง แต่สิ่งที่เราไม่มั่นใจคือยังมีฝนตกลงมาอยู่ จึงกังวลว่าน้ำจากที่อื่นๆ อาทิ เมียนมารวมถึงแม่น้ำกกจะไหลลงมาซ้ำ ทำให้ตอนนี้น้ำเริ่มเอ่อท่วมคอสะพาน และการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงแจ้งว่ารันเวย์ของสนามบินยังไม่ท่วม แต่ทางเข้าสนามบินต้องใช้รถสูง จึงอยากจะขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 หรือ ฮ.ปภ.32 เพิ่มเติม ซึ่งทางจังหวัดได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไปแล้ว จำนวน 1 ลำ ส่วนเรื่องถุงยังชีพ และบุคลากรทางการแพทย์นั้น ยืนยันว่ายังเพียงพอรับมือกับสถานการณ์แล้ว โดยทางอธิบดีฯ ปภ.ได้กล่าวเสริมว่าได้สั่งการให้เฮลิคอปเตอร์ไปลงที่ อ.แม่สายแล้วจำนวน 1 ลำ โดยจะดำเนินการทันที

ด้านนายอนุทินกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ต้องขยายความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้น หากงบประมาณไม่เพียงพอช่วยเหลือ ขอให้เบิกงบประมาณเพิ่มเติมเข้ามา นอกจากนี้ได้กำชับให้ดูแลรวมถึงเชิดชูเกียรติผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต เนื่องจากถือเป็นบุคลากรของกระทรวงมหาดไทย และขอแสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยสภาพอากาศแบบนี้อย่าขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสถานการณ์เด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายต่อชีวิต อย่างไรก็ตาม จะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ในจังหวัดที่ประสบอุทกภัยด้วย คาดว่าจะเป็นวันที่ 14 ก.ย.นี้ 

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเฝ้าระวัง

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2567 เพจสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โพสต์ข้อความโดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 13-18 ก.ย. 2567 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน บริเวณที่ลุ่มต่ำและชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ รวมทั้งน้ำป่าไหลหลาก ดังนี้

  • ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
  • ภาคกลาง จ.ลพบุรี สระบุรี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  • ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้ จ.ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตรัง และสตูล
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net