ประชาไท-18 ก.ค. 48 "การประมวลว่า คนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ว่าเห็นด้วย ประมวลจากใคร ถ้าประเมินจากคนในยะลาแน่นอนคน เห็นด้วย เพราะคนกำลังเดือดร้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงขนาดกล่าวว่า ถ้ามันสงบได้ ใครจะมาละเมิดสิทธิ์ฉัน ฉันยอม " นาย
นายไพศาลกล่าวว่ารัฐบาลไม่เปิดโอกาสให้คนคิดในการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่กลับฉวยโอกาส และหลังจากนั้นวันเดียว เอาเอแบคโพลมาอ้าง ว่า คนเห็นด้วยถึง 85 เปอร์เซ็นต์ แต่ขอถามรัฐบาลว่า คนรู้จักรายละเอียดของ พ.ร.ก.ดังกล่าว ดีแล้วหรือไม่
นอกจากนี้นาย ไพศาลชี้ว่า รัฐบาลไปประเมินตอนสถานการณ์สุกงอม เอาข้อมูลมาหลอกประชาชนว่าคนเห็นด้วย พร้อมทั้งยกตัวอย่าง กรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ สภ.อ. ตากใบ จนทำให้มีการเสียชีวิตว่า ในช่วงแรกคนก็เห็นด้วยกับการตายของคนกลุ่มดังกล่าวเยอะมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป มีข้อมูลด้านอื่นๆเปิดเผยออกมามากขึ้น พอคนได้คิด แนวคิดสนับสนุนดังกล่าวก็เริ่มหายไป
นาย
ทั้งนี้ นายไพศาล ได้เปรียบเทียบกรณีดังกล่าว กับทหารที่ไปรุกรานในเมืองอื่นว่า แม้บางคนเป็นทหารเด็ก พอรู้ว่าฆ่าคนไม่ผิด บุกไปถึงบ้านเมืองไหนก็ไปฆ่า ไปข่มขืน เพราะคนพวกนี้วุฒิภาวะอาจจะน้อยกว่าระดับผู้ใหญ่ แต่ว่าถืออาวุธตลอด ในกรณีภาคใต้ก็อาจเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ได้ และต่อไปมันอาจจะเกิดไปได้ทั้งประเทศไทย
"สิ่งที่เคยเกิดขึ้นเฉพาะกับคนใน 3 จังหวัดภาคใต้มันลุกลามไปยังที่อื่นแล้ว ไปสงขลาอีก 4 วันข้างหน้า อาจเป็น 7 หรือวันหนึ่งอาจเกิดกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านก็ได้ ถ้าเขาเกิดปลุกม็อบขึ้นมาเพราะไม่พอใจรัฐบาล ที่หน้ารัฐสภา รัฐประกาศดำเนินการได้เลย " นายไพศาล กล่าว และระบุตอนท้ายไว้อีกว่า ตอนนี้รัฐบาลเหมือนเป็นคนสองเพศ ทั้งประชาธิปไตยและเผด็จการอยู่ในตัวเดียวกัน พ.ร.ก.นี้เหมือนเป็นการมอบอำนาจให้คนๆเดียว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)