Skip to main content
sharethis

ก่อนหน้านี้ยูเครนได้บุกยึดพื้นที่ภูมิภาคเคิร์สก์ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียได้ปฏิบัติการโต้ตอบกลับเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา โดยที่ทางการรัสเซียระบุว่าพวกเขาสามารถยึดหมู่บ้านกลับมาได้อย่างน้อยสิบแห่ง มีการวิเคราะห์ว่าในขณะที่ปฏิบัติการโจมตีเคิร์กส์ของยูเครนจะประสบความสำเร็จแต่ก็มีราคาที่ต้องจ่ายแสนแพง

หลังจากที่มีสงครามการรุกรานจากรัสเซียมาเป็นเวลาสองปีกว่า เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ยูเครนก็ได้ปฏิบัติการบุกโจมตีรัสเซียแบบไม่ให้ตั้งตัว โดยการรุกเข้าไปในภูมิภาคเคิร์สก์โดยสามารถบุกเข้าไปได้ 30 กม. จากชายแดน เป็นปฏิบัติการที่รวดเร็วและสร้างความประหลาดใจให้กับรัสเซีย จนกระทั่งถึงวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมาประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ก็ยืนยันว่ารัสเซียได้ "ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับ" แล้ว

รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า กองกำลังของรัสเซียได้รุกเข้าไปในพื้นที่ของภูมิภาคเคิร์สก์และทำการยึดคืนหมู่บ้านกลับคืนมาได้อย่างน้อย 10 แห่ง ภายในช่วงเวลา 2 วัน

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงอีกว่า ยิ่งไปกว่านั้นกองทัพรัสเซียยังสามารถต้านทานการโจมตีโต้กลับของยูเครนใกล้กับหมู่บ้านสองแห่งคือ ฟานาเซเยฟกา กับ ซนาโกสต์ เอาไว้ได้ รวมถึงสามารถสกัดกั้นความพยายามโจมตีใกล้กับโอลกอฟสกาเอาไว้ได้ด้วย

เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ทางการยูเครนประกาศว่าพวกเขาสามารถยึดเมืองและหมู่บ้านของรัสเซียเอาไว้ได้ประมาณ 100 แห่งรวมถึงพื้นที่อาณาเขตราว 1,300 ตร.กม. ในภูมิภาคเคิร์สก์เอาไว้ได้ การโจมตีรุกเข้าไปในภูมิภาคเคิร์สก์ของกองทัพยูเครนเป็นเหตุให้ผู้คนมากกว่า 150,000 รายต้องอพยพหนีจากพื้นที่ชายแดน

ในตอนที่เกิดเหตุรุกรานเมื่อเดือน ส.ค. มีกรณีที่ประชาชนในพื้นที่เคิร์สก์ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามแสดงความไม่พอใจต่อทั้งทางการยูเครนที่ก่อเหตุรุกราน และต่อทางการรัสเซียที่ไม่ได้ตอบสนองต่อสถานการณ์มากพอหรือตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพดีพอ รวมถึงมีการที่รัสเซียอ้างเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นไปเป็นวาทกรรมเพื่อปลุกระดมความรู้สึกแบบชาตินิยมและความรู้สึกต่อต้านยูเครนมากขึ้น

ประธานาธิบดี เซเลนสกี ของยูเครนประกาศเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมาว่าถึงแม้กองทัพรัสเซียจะทำการโจมตีโต้ตอบกลับ แต่เขาก็ยืนยันว่าปฏิบัติการบุกโจมตีของยูเครนนั้นยังเป็นไปตามแผน

ความสูญเสียราคาแพง

อย่างไรก็ตามสื่อซีเอ็นเอ็นได้รายงานถึงเรื่องที่ว่าปฏิบัติการของยูเครนในครั้งนี้เป็นความสำเร็จที่ต้องจ่ายด้วยความสูญเสียราคาแพง โดยมีการสัมภาษณ์ทหารยูเครน 14 นาย จากหลายหน่วย มีอยู่ 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการและกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในยูเครน อีก 10 นายยังคงปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ของรัสเซีย

ทหารยูเครนทั้ง 14 นายระบุว่าปฏิบัติการในรัสเซียนั้นทั้งยากลำบากและมีความสูญเสียมากเท่าแนวหน้าที่ส่วนอื่นๆ และยิ่งนานไปปฏิบัติการก็ยิ่งยากชึ้นเรื่อยๆ พอถึงสัปดาห์ที่ 5 พวกเขาก็เริ่มตั้งคำถามแล้วว่าการตัดสินใจโจมตีโต้กลับเข้าไปในพื้นที่ของรัสเซียความเป็นความคิดที่ดีจริงหรือ ในเมื่อยูเครนเองก็กำลังประสบปัญหาในการป้องกันเมืองที่สำคัญทางตะวันออกของประเทศตัวเอง

สื่อซีเอ็นเอ็นเล่าเรื่องของทหารยูเครนที่ปฏิบัติการในพื้นที่เขตแดนของรัสเซีย แล้วต้องเผชิญกับเหตุระเบิด ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากจนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่ขา เป็นเหตุให้เขาต้องพักรักษาตัวที่เมืองทางตอนเหนือของยูเครน

ทหารนายดังกล่าวนี้ใช้นามสมมุติว่า วาซิล เขาได้กล่าวว่า รัสเซียได้ส่งกองกำลังและปืนใหญ่เป็นจำนวนมากเข้าไปที่เคิร์สก์ มีทหารฝ่ายยูเครนที่ถูกสังหารไปจำนวนมากและมียุทโธปกรณ์จำนวนมากที่พังเสียหาย

เจ้าหน้าที่ทางการยูเครนประเมินว่ารัสเซียได้ส่งกำลังเข้าไปในพื้นที่มากกว่า 30,000 นาย และส่วนหนึ่งของกองกำลังจำนวนนี้เป็นทหารที่ในอดีตเคยสังกัดหน่วยทหารรับจ้างแวกเนอร์รวมอยู่ด้วย ซึ่งกองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์ได้ถูกยุบและหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพรัสเซียหลังการเสียชีวิตของ เยฟเกนี พรีโกซิน เมื่อปี 2566 แต่ทหารยูเครนก็บอกว่าพวกเขาสามารถแยกแยะได้ว่าทหารคนไหนที่มาจากแวกเนอร์ดูได้จากการที่ทหารนายนั้นๆ มียุทโธปกรณ์ที่ดีกว่าและมีการฝึกมาดีกว่าทหารในกองทัพรัสเซีย

แล้วยูเครนโจมตีภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซียทำไม?

สาเหตุที่ปฏิบัติการรุกคืบเคิร์สก์ในครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นความสำเร็จสำหรับยูเครนนั้น เป็นเพราะว่ามันได้ส่งเสริมขวัญกำลังใจให้กับชาวยูเครนอย่างมากเพราะนับเป็นความสำเร็จเชิงยุทธศาสตร์ที่ได้มาครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ยูเครนยึดเมืองเคอร์ซอนกลับมาจากรัสเซียได้เมื่อเดือน พ.ย. 2565 อีกทั้งทหารหลายนายที่ให้สัมภาษณ์ต่อซีเอ็นเอ็นก็มองว่าการที่พวกเขาแก้เผ็ดรัสเซียทำให้ได้รับรู้ความเจ็บปวดบ้าง ถือว่าคุ้มค่ากับความยากลำบากที่พวกเขาเผชิญ

ก่อนหน้านี้ โอเล็กซานเดอร์ ซีร์สกี ผบ.ทบ. ยูเครนเคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อระบุถึงสาเหตุที่ต้องบุกภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซียว่าพวกเขาต้องการให้รัสเซียหยุดใช้เคิร์สก์เป็นฐานที่มั่นในการส่งกำลังพลเข้าโจมตียูเครนครั้งใหม่ รวมถึงสาเหตุอื่นคือการเบี่ยงเบนความสนใจกองกำลังรัสเซียจากพื้นที่อื่น เพื่อให้มีการสร้าง "เขตพื้นที่ควบคุม" ป้องกันไม่ให้มีการยิงปืนใหญ่ข้ามแดนใส่พลเรือน และป้องกันไม่ให้รัสเซียเข้ามาจับเชลยศึก รวมถึงสร้างขวัญกำลังใจให้คนในชาติยูเครน

เซเลนสกี ให้เหตุผลเพิ่มเติมถึงการโจมตีเคิร์สก์ว่าเพื่อแสดงให้พันธมิตรของยูเครนในโลกตะวันตกเห็นว่าถ้าหากมีการสนับสนุนที่ดี กองทัพของยูเครนก็สามารถโต้ตอบกลับแล้วก็สามารถเอาชนะสงครามได้ ซึ่งตอนนี้ยูเครนกำลังอยู่ภายใต้การกดดันในแนวรบทางตะวันออกของประเทศและกำลังพยายามฟื้นตัวจากการล่าถอย ที่มีสาเหตุมาจากการที่สหรัฐฯ ส่งความช่วยเหลือทางการทหารให้ล่าช้าในช่วงฤดูหนาวปีที่แล้วและช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ อย่าง บิล เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ กล่าวว่าการโจมตีของยูเครนถือเป็น "ความสำเร็จเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญ" และมองว่ามันไม่ได้สร้างขวัญกำลังใจให้ยูเครนอย่างเดียวเท่านั้น มันยังเป็นการเปิดเผยให้เห็นความเปราะบางของรัสเซียภายใต้การนำของ วลาดิเมียร์ ปูติน และของกองทัพรัสเซียด้วย

แต่ทหารยูเครนในพื้นที่ก็เปิดเผยเรื่องที่ปฏิบัติการของพวกเขามีความยากลำบากเพราะรัสเซียได้สร้างปราการป้องกันเอาไว้อย่างดี รวมถึงมีมาตรการป้องกันอื่นๆ เช่น การวางทุ่นระเบิด และการวางสิ่งกีดขวางต่อต้านรถถังที่เรียกว่า "ดรากอนส์ทีธ" ที่แปลตรงตัวว่า "ฟันมังกร" อยู่ด้วย เรื่องนี้ทำให้ทหารยูเครนจำนวนมากเหนื่อยล้าจากการปฏิบัติการแบบไม่ได้หยุดพักเนื่องจากพยายามรื้อทำลายการป้องกันของรัสเซีย มีทหารบางนายได้นอนแค่สองชั่วโมงและต้องตื่นตัวตลอดเวลา

 

เรียบเรียงจาก

Ukraine’s Kursk offensive was seen as a major success, but it came at a huge cost, CNN, 13-09-2024

https://edition.cnn.com/2024/09/13/world/ukraine-kursk-offensive-cost/index.html

Russian Army Confirms Kursk Counteroffensive, Says Recaptured 10 Villages, The Moscow Times, 12-09-2024

https://www.themoscowtimes.com/2024/09/12/russian-army-confirms-kursk-counteroffensive-says-recaptured-10-villages-a86348

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net