Skip to main content
sharethis


ประชาไทคัดสรร  - เวบไซด์คมชัดลึก 9 พ.ย.48          "คตง" มีมติ ให้เดินหน้าหารายชื่อผู้ว่าฯสตง.คนใหม่ อ้างเป็นองค์กรอิสระ ต้องทำตามคำวินิจฉัยศาล รธน. หวั่นกลัวไม่มีคนมาสมัคร พร้อมกระตุ้น ส.ว. ช่วยหาทางออกปัญหาไปพร้อมๆกัน เชื่อปัญหานี้สามารถแก้ได้

 


นายเกรียงศักดิ์ วัฒนวรางกูร กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงถึงผลการประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เพื่อหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาการสรรหาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า ที่ประชุม คตง.มีมติเสียงส่วนใหญ่ ต่อการแก้ไขปัญหาการสรรหาผู้ว่าฯ สตง.ใน 2 ประเด็น คือ


 


1.เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 47/2547 ว่าการสรรหาและเลือกผู้ว่าฯ สตง.คนก่อน ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และได้มีคำวินิจฉัยที่ 60/2548 ไม่รับคำร้องของ คตง. โดยเห็นว่า คตง.ได้ใช้ดุลยพินิจพิจารณาเลือกผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่ เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรร มนูญที่ 47/ 2547 แล้ว  คตง.จึงมีหน้าที่ต้องดำเนินการสรรหา และเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่ต่อไป  เพราะที่ประชุม คตง.ไม่ต้องการที่จะให้เกิดปัญหาสูญญากาศ ในช่วงเวลาที่ สตง.ไม่มีผู้ว่าการฯ มาทำหน้าที่


         


2. ให้ส่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 47 / 2547 และ 60 / 2548 ให้วุฒิสภาซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องพิจารณาวินิจฉัย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป


        


นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า การที่ประชุม คตง.มีมติในการแก้ไขปัญหาผู้ว่าฯ สตง.โดยใช้มติเสียงส่วนใหญ่เนื่องจากมีกรรมการบางส่วน ที่มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 60 / 2548 โดยที่ผ่านมา คตง.ได้มีการตั้งคำถามในทางอ้อมๆ ว่าจำเป็นจะต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา พ้นจากตำแหน่งหรือไม่ แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้คำวินิจฉัยในประเด็นนี้ โดยกรรมการ คตง.บางท่าน เห็นว่าควรจะส่งคำวินิจฉัยในกรณีดังกล่าวนี้ ไปยังวุฒิสภา เพื่อต้องการให้เกิดความชัดเจน ก่อนที่จะมีการดำเนินการในขั้นตอนอื่นๆ ต่อไป ขณะที่กรรมการบางคนเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ได้ชี้ว่ากระบวนการสรรหาของคุณหญิงจารุวรรณไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ รวมทั้งได้ให้คำยืนยันว่า การดำเนินการของ คตง.ในการสรรหาได้ชื่อของนายวิสุทธิ์ มนตริวัตร ถือว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ดังนั้น คตง.สมควรที่จะดำเนินการสรรหารายชื่อ ผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ต่อไป


 


"เสียงการลงมติในที่ประชุมวันนี้ก้ำกึ่งกัน โดยมีคณะกรรมการเข้ามาประชุมครบ 10 คน  ส่วนจำนวนตัวเลขของการลงมติ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะถูกสื่อฯ นำไปหาข้อมูลต่อ และคงไม่เหมาะสม เนื่องจากกรรมการบางคนไม่พร้อมที่ให้เปิดเผยรายละเอียดในการลงมติ เพราะที่ผ่านมาพบว่าสื่อฯ ได้มีการแบ่ง คตง.ออกเป็นกลุ่มๆ อาทิ คตง.สายทหาร ซึ่ง คตง.ไม่อยากให้มีข่าวเช่นนั้น "นายเกรียงศักดิ์ กล่าว


 


นายเกรียงศักดิ์กล่าวอีกว่า ในที่สุดที่ประชุมก็ได้ใช้หลักการประนีประนอมกัน คือเมื่อเห็นว่าหน้าที่การสรรหารายชื่อ ผู้สมควรเป็นผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่ เป็นหน้าที่ของ คตง.ขั้นตอนนี้ก็จำเป็นจะต้องดำเนินการต่อไป ส่วนกรณีที่มีปัญหาในบางประเด็น ที่ประชุมมีความเห็นว่า ควรจะส่งเรื่องไปยังวุฒิสภา เพื่อให้วุฒิสภาได้พิจารณาไปพร้อมๆกัน  แต่วุฒิสภาจะมีความเห็นและจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ถือว่าเป็นสิทธิของวุฒิสภาที่จะดำเนินการ


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า คตง.มั่นใจได้อย่างไรว่า เมื่อดำเนินการสรรหาผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่แล้ว จะไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิม นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ที่ประชุม คตง.ก็ได้คุยกัน เพราะเราไม่ต้องการที่จะดำเนินการในเรื่องใดๆ แล้วเกิดปัญหาวนกลับมาที่จุดเดิม เพราะจะทำให้เสียเวลา และกระทบต่อผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ รวมถึงอาจจะทำให้เกิดความหวั่นไหว ในกลุ่มของข้าราชการ สตง. ดังนั้นเรื่องนี้เราต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว อีกทั้งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา คตง.มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือ สรรหาผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่ และส่งรายชื่อไปยังวุฒิสภา ส่วนวุฒิสภาจะให้ความเห็นชอบหรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิของวุฒิสภา ที่จะส่งชื่อที่ คตง.เสนอไปกลับมายัง คตง. และ คตง.ก็ต้องสรรหาใหม่กลับเข้าไปอีก เมื่อวุฒิสภาเห็นชอบกับชื่อที่เสนอไป ก็จะนำชื่อเสนอเข้าทูลเกล้า พร้อมกับถวายคำแนะนำ ส่วนกรณีที่มีความเห็น และข้อเสนอแนะอื่นๆ นั้น ตนไม่สามารถที่จะไปบอกให้ใครให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ได้ เพราะ คตง.ไม่สามารถที่จะเข้าไปก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ใครๆ ได้


 


"ในประเด็นของมติข้อ 2 ที่ คตง.จะส่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 47/247 และคำวินิจฉัยที่ 60/2548 ไปให้วุฒิสภา เพื่อต้องการให้วุฒิสภาทราบว่า วุฒิสภาเป็นองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องนี้ด้วย เพราะหากเห็นว่าปัญหาเรื่องนี้ยังมีปัญหาอะไรอยู่ ก็อยากจะให้วุฒิสภาช่วยดูช่วยแก้ด้วย เนื่องจากหน้าที่ใดที่ คตง.ไม่มีอำนาจ เราก็ไม่สามารถที่จะไปเอาเรื่องได้"นายเกรียงศักดิ์กล่าว


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า ขั้นตอนของการสรรหาที่ คตง.ได้มีมติให้ดำเนินการเริ่มต้นใหม่นั้น ไม่ทราบว่าจะดำเนินการได้เมื่อใด และในรัฐธรรมนูญได้กำหนดกรอบของระยะเวลาไว้หรือไม่ นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในตัวของรัฐธรรมนูญได้มีการกำหนดอย่างชัดเจนว่า คตง.จะต้องดำเนินการสรรหารายชื่อ ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ในระยะเวลา 30 วัน หลังจากที่ตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ว่างลง ซึ่งในประเด็นนี้ได้มีการพูดคุยกันมาแล้วหลายครั้ง ว่าการที่รัฐธรรมนูญกำหนดระยะเวลาไว้ 30 วัน เพียงต้องการให้มีการเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ต้องการที่จะให้ตำแหน่งดังกล่าวนี้ว่างนานเกินไป  ซึ่งหากทำได้เสร็จเร็วเท่าไหร่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่หากการดำเนินการจำเป็นจะต้องเกิน 30 วัน ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะไม่มีมาตรการอะไรบังคับ อย่างในคราวที่มีการสรรหา จนได้ชื่อของนายวิสุทธิ์ คตง.ใช้เวลา 46 วัน นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ส่งคำวินิจฉัยครั้งแรก


 


นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ได้ตกลงจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ขึ้นมาดูแลเรื่องการสรรหา ส่วนกรรมการคนใดต้องการที่จะเสนอชื่อผู้เหมาะสม มาเป็นคณะอนุกรรมการก็สามารถทำได้ โดยคาดว่าคณะอนุกรรมการดังกล่าวนี้มีจำนวนไม่เกิน 5 คน และหลังจากที่ได้ชื่อคณะอนุกรรมการแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการ ที่จะทำหน้าที่สรรหารายชื่อฯ และส่งให้กับที่ประชุม คตง.ลงมติ โดยรายชื่อที่จะได้รับการเสนอ จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 5 เสียง


 


"ที่ประชุมวันนี้ได้มีการพูดคุยกันอย่างมากว่า คตง.สมควรที่จะเดินหน้าสรรหารายชื่อผู้ว่าฯ คนใหม่หรือไม่ รวมทั้งมีบางคนเสนอว่า ควรส่งเรื่องไปให้วุฒิสภา เพื่อให้วุฒิสภาดำเนินการ ทำให้ปัญหาเรื่องดังกล่าวเกิดความชัดเจนก่อนที่ คตง.จะดำเนินการสรรหาต่อไป  แต่ก็มีกรรมการบางคนเห็นว่า ถ้าหาก คตง.ทำเช่นนั้น ก็อาจจะถูกสังคมต่อว่าได้ ว่า คตง.กำลังจะเตะถ่วงปัญหานี้ออกไปอีก ดังนั้นเราจึงเห็นว่า คตง.มีหน้าที่อะไร เราควรจะทำหน้าที่นั้นต่อไป เมื่อเราได้รายชื่อและทำการเสนอไปยังวุฒิสภา วุฒิสภาไม่เห็นด้วยก็จะเกิดเป็นประเด็นการโต้แย้งเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ก็อาจจะนำไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยชี้ขาดได้อีกครั้ง แต่หากการดำเนินการดังกล่าววุฒิสภาเห็นด้วย เรื่องก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอน"นายเกรียงศักดิ์กล่าว


 


เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ว่าจะไม่มีผู้มาสมัครเป็นผู้ว่า ฯ สตง. นายเกรียงศักดิ์ ยอมรับว่า กลัวตามที่หลายคนตั้งข้อสังเกตไว้ และการที่จะให้ตนไปบังคับวุฒิฯ หรือหน่วยงานอื่น ว่าให้ทำความชัดเจนในประเด็นการอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ของคุณหญิงจารุวรรณ ตนไม่สามารถที่จะไปบังคับใครได้ แต่ความจริงแล้ว คตง.มีความเชื่อว่าคุณหญิงจารุวรรณ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ต้น แต่สังคมมีความสงสัยเกี่ยวกับประเด็นของพระบรมราชโอการฯ รวมทั้งขั้นตอนในการแต่งตั้ง ซึ่งในขบวนการนี้อยู่ในความรับผิดชอบของวุฒิสภา ซึ่งปัญหาตรงนี้ตนไม่สามารถจะให้ความชัดเจนได้ เพราะไม่ได้ถือว่าอยู่ในหน้าที่ของ คตง. เราจึงจำเป็นต้องส่งเรื่องนี้ไปให้วุฒิสภา มีความชัดเจนให้เกิดขึ้น เพราะถ้าหากวุฒิสภาดำเนินการในประเด็นนี้ ให้มีความชัดเจนแล้ว ก็เชื่อว่าขั้นตอนต่างๆก็จะเดินหน้าต่อไปได้ แต่หากวุฒิสภาไม่ให้ความชัดเจนในเรื่องนี้เราก็ไม่สามารถจะไปบังคับได้


 


ต่อข้อถามว่า ไม่กลัวว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือ นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องคงจะไม่ใช่ เพราะหากเราดูกันจริงๆ แล้วจะพบว่าพระมหากษัตริย์ ใช้อำนาจอธิปไตยผ่านทางศาล ผ่านทางวุฒิ ผ่านทางสภา และผ่านทางฝ่ายบริหาร และปัญหาเรื่องนี้ศาลก็ได้วินิจฉัยในพระปรมาภิไธย ส่วนเรื่องวุฒิสภาได้ที่มีการถวายคำแนะนำเรื่องนี้ คงจะต้องนำไปแก้ไขกัน ถ้าหากยังคิดว่ายังเป็นปัญหา ส่วน คตง.เป็นองค์กรอิสระ ที่จะต้องทำหน้าที่ตามผลคำวินิจฉัยที่ผูกพัน ซึ่งเราไม่มีทางเลือก


 


"ปัญหาเรื่องนี้ผมคิดว่าองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คงจะต้องหันมาช่วยกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เราส่งไปยังวุฒิฯ เพื่อพิจารณา ทางวุฒิฯก็ควรน่าที่จะขยับอะไรกันบ้าง เนื่องจากระบวนการสรรหา จะต้องมีการประกาศ และมีขั้นตอนอีกมาก หากวุฒิฯขยับอะไรบ้าง ก็น่าจะทำให้ฝ่ายต่างๆ เกิดความสบายใจ แต่หากวุฒิฯนิ่งเฉย ไม่ยอมดำเนินการอะไร ผลสุดท้ายเราก็จะต้องแบกปัญหานี้ไว้อย่างนี้" กรรมการ คตง.ผู้นี้กล่าว


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net