นาย
ทั้งนี้ ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่าข้อเสนอดังกล่าวพิจารณาบนพื้นฐาน 3 ปัจจัย ประการแรกพันธมิตรพิจารณาอยู่บนพื้นฐานสถานการณ์บ้านเมืองที่ดุลอำนาจทางการเมืองไม่สามารถชี้ขาดได้ โดยปัจจัยนี้จะแตกต่างจากกรณีพฤษภาคม 2535 หรือกระแสธงเขียวเมื่อ พ.ศ.2540 ซึ่งเป็นกรณีที่พลังของประชาชนชี้ขาดทางการเมืองได้ แต่ในกรณีนี้ ประชาชนแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่คัดค้านการดำรงตำแหน่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ และฝ่ายสนับสนุน ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะมีความคิดเห็นแตกต่างกัน
ส่วนปัจจัยที่สองนั้น นายสุริยะใสกล่าวว่าพันธมิตรได้เคลื่อนไหวโดยยึดแนวทางอหิงสธรรมและพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทุกวิถีทาง
ปัจจัยสุดท้ายต้องเชื่อได้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองอย่างสันติไม่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้า ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่ถอยหลังเข้าคลอง ไม่ต้องการรัฐประหาร ไม่ต้องการให้ดุลอำนาจ ไม่มีการชี้ขาด และต้องนำไปสู่การยุติปัญหา ซึ่งแกนนำพันธมิตรได้พูดคุยถึงมาตรการใหม่มาเป็นเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์โดยใช้เวลาทุกวันในการหารือวันละ 3 - 4 ชั่วโมง
ส่วนคำถามที่ว่ามาตรการใหม่จะเป็นการดึงเบื้องสูงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า นายสุริยะใสชี้แจงว่าถ้าจะมีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะก่อนหน้านี้ แนวทางดังกล่าวก็เป็นข้อเสนอของนักวิชาการหลายคน รวมถึงสภาการหนังสือพิมพ์และสภาการทนายความ เป็นข้อเสนอที่มีเข้ามาตลอดในช่วงเดือน 2 เดือนที่ผ่านมา
นาย
ในส่วนของการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 25 มีนาคม นาย
ทำประชาพิจารณ์หารูปแบบการเคลื่อนไหว
นาย
คาดว่าอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 23 มี.ค.กลุ่มพันธมิตรย่อยจำนวน 21 คน คงจะไปรวบรวมข้อมูลมาได้ หลังจากนั้นก็จะนำมาประชุมสรุปความคิดเห็นร่วมกัน แล้วจัดเป็นหัวข้อออกมาว่าข้อเสนอนั้นมีอย่างไรบ้าง จากนั้นจะนำเสนอต่อที่ประชุม 5 แกนนำพันธมิตรเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
แม้ว เรียก ผบ.ทบ. ถกที่บ้านพิษณุโลก
ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณได้หารือกับ พล.อ.
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ขณะนี้ ซึ่งในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก คุมกำลังอยู่จึงต้องเรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบเกี่ยวกับเรื่องการใช้กำลังว่า ในส่วนของทหารจะเข้ามาดำเนินการได้เมื่อมีการประกาศภาวะฉุกเฉินซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ 2 หากสถานการณ์เกิดความรุนแรงแล้วเท่านั้น แต่ในขณะนี้เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินการดังกล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.สนธิปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดถึงเรื่องการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันเสาร์ที่ 25 มี.ค. แต่กล่าวถึงเรื่องข่าวลือต่างๆ ที่มีมากในขณะนี้ ที่ทำให้เกิดความเสียหายและเกิดความขัดแย้งในสังคม อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่าการชุมนุมในครั้งนี้ยังสงบเรียบร้อยดี ถือเป็นประวัติศาสตร์
2 สมาคมสื่อ ยื่นจดหมายทวงถามนายกฯ ตอบคำถามที่ไม่เคลียร์
น.ส.
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มีคำตอบกลับมายังสมาคมทั้ง 2 แห่ง จึงจำเป็นที่จะต้องมาทวงถาม เพื่อประโยชน์ของสังคมและสาธารณชนโดยรวม เพราะเห็นว่าประเทศชาติอยู่ในภาวะวิกฤตที่ควรจะได้รับความข้อมูลข่าวสารที่แท้จริงให้รอบด้านมากที่สุด เพื่อให้ประชาชนและสังคมนำไปประกอบการตัดสินใจเพื่อเป็นหาทางเลือกที่ดีที่สุดได้ โดยทางสมาคมหวังว่านายกรัฐมนตรีจะรับเชิญมาตอบข้อซักถามก่อนวันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามการมายื่นจดหมายในครั้งนี้กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของสำนักโฆษกมารับจดหมาย
กองหนุนนายกฯมาเพิ่มอีก 500 คน
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มสนับสนุนนายกรัฐมนตรี วันนี้กลุ่มเครือข่ายชาวบ้านคาราวานจน จ.ขอนแก่น กว่า 500 คน ได้เดินทางโดยขบวนรถไฟที่ 134 หนองคาย-บางซื่อ ออกจากสถานีรถไฟ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มสมัชชาคนจนจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่หมู่บ้านคาราวานคนจนเพื่อประชาธิปไตย ภายในสวนจตุจักร เพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งต่อไป โดยลุ่มสมัชชาคนจนจาก จ.ขอนแก่น จะเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน และแสดงพลังสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี จากสถานีรถไฟบางซื่อ ไปจนถึงจุดที่ชุมนุมภายในสวนจตุจักร ทั้งนี้ ในวันที่ 1 เม.ย.ทั้งหมดจะเดินทางกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)