คณะอนุกรรมการได้ใช้เวลา 1 ปีในการติดตามและตรวจสอบเอกสารหลายร้อยชิ้น และออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำถึง 74 ฉบับ โดยรายชื่อมหาเศรษฐีที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายดังกล่าวที่ทางคณะอนุกรรมการระบุในรายงานฉบับนี้ ได้แก่ โรเบิร์ต วู้ด จอห์นสันที่สี่ เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล นิวยอร์ก เจ็ตส์, ฮาอิม ซาบัน มหาเศรษฐีพันล้านผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตรายการทีวีชื่อดัง ไมตี้ มอร์ฟิน พาวเวอร์ เรนเจอร์ส, ชาร์ลส์ และแซม ไวลีย์ สองพี่น้องมหาเศรษฐีทรงอิทธิพลชาวเท็กซัส และวอลเตอร์ แอนเดอร์สัน ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม
"การสอบสวนของเราเผยให้เห็นพฤติกรรมการใช้ดินแดนปลอดภาษีในทางที่ผิด ด้วยการตั้งบริษัทหรือทรัสต์บังหน้า และปลอมแปลงการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ ขึ้นมา เพื่อปกปิดหลักฐานที่บ่งชี้ว่าคนเหล่านี้มีทรัพย์สินถือครองอยู่ในต่างประเทศ....และเพื่อหลบเลี่ยงภาษี" คาร์ล เลวิน วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตกล่าวขณะที่คณะอนุกรรมการเผยแพร่รายงานดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คณะผู้สืบสวนระบุว่า จอห์นสันและซาบันได้วางแผนใช้อุบายเพื่อปกปิดเงินเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ให้พ้นจากสายตาของกรมสรรพากรสหรัฐฯ (ไออาร์เอส) ขณะที่พี่น้องไวลีย์ถูกตั้งข้อหาว่า หลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีเป็นเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ จากผลตอบแทนที่ได้ในการถือครองตราสารอนุพันธ์ "ออปชัน' ในต่างประเทศ
คณะอนุกรรมการชี้อีกว่า มหาเศรษฐีเหล่านี้มีการว่าจ้าง "ทนายความ โบรกเกอร์ และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องด้านอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก" เพื่อก่อตั้งบริษัทและทรัสต์ขึ้นในต่างแดน และได้มีการโอนถ่ายเงินสดเป็นจำนวนมหาศาลจากสหรัฐฯไปยังบริษัทหรือทรัสต์เหล่านี้ ซึ่งบางครั้งอยู่ในรูปของการทำธุรกรรมซื้อขายระหว่างกัน หรืออยู่ในรูปของการให้ "เงินกู้" จำนวนมหาศาล ส่งกลับไปยังมหาเศรษฐีบางรายและสมาชิกครอบครัวที่อยู่ในสหรัฐฯ
รายงานฉบับนี้แจกแจงตัวอย่างว่า ในระหว่างปี 1999-2004 ได้มีการโอนเงินในสกุลเงินดอลลาร์จากต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารในสหรัฐฯ เป็นเงินสูงถึงประมาณ 85 ล้านดอลลาร์ และพบว่าไวลี่ย์เป็นผู้ที่นำเงินนี้ออกมาใช้เพื่อไปซื้อและเป็นค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้านสุดหรูในแอสเพน ดัลลัส และมาลิบู
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าการที่บริษัทเหล่านี้จะมีสถานที่ทำการตั้งอยู่ในหมู่เกาะที่ห่างไกลอย่าง เกาะไอล์ ออฟ แมน หมู่เกาะเคย์แมน และหมู่เกาะบริติช เวอร์จิน อีกทั้งยังมิได้มีการจดทะเบียนในสหรัฐฯ จะเป็นเหตุผลสนับสนุนที่ทำให้บรรดามหาเศรษฐีสามารถหลีกเลี่ยงไม่ต้องจ่ายภาษีให้กับกรมสรรพากร
ทว่า บรรดาสมาชิกรัฐสภาจำนวนมากต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การทำธุรกรรมที่มีความสลับซับซ้อนเป็นจำนวนมากที่เกิดขึ้นนี้ ล้วนเป็นการกระที่จงใจโดยมีจุดประสงค์เพื่อตบตาหน่วยงานด้านภาษี โดยสมาชิกรัฐสภาคาดการณ์ว่า การทำธุรกรรมเช่นนี้น่าจะทำให้กรมสรรพากรอเมริกาต้องสูญเงินไปสูงถึง 70,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี จึงเรียกร้องให้มีการเร่งปฏิรูปครั้งใหญ่เพื่อแก้ไขกฎหมายด้านนี้
เลวิน วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต มองว่า ควรมีการเก็บภาษีชาวอเมริกันที่มีการซุกซ่อนเงินอยู่ในเขตปลอดภาษีต่างแดนเสมือนว่าเงินเหล่านี้อยู่ในสหรัฐฯ เป็นต้น
- - - - - - - -
ที่มา : เว็บไซต์ผู้จัดการ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)