Published on ประชาไท Prachatai.com (https://prachatai.com)

Home > แผนการประชาธิปไตยอาเซียน ต่อการเลือกตั้งที่บริสุทธิยุติธรรมของ 10 ประเทศสมาชิก

แผนการประชาธิปไตยอาเซียน ต่อการเลือกตั้งที่บริสุทธิยุติธรรมของ 10 ประเทศสมาชิก

Submitted by user12 on Sat, 2009-10-17 03:02

สมศรี หาญอนันทสุข
ผู้อำนวยการเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล)
 

 

 

เพื่อไม่ให้ประเด็นสำคัญของอาเซียนในเรื่องสิทธิทางการเมืองต้องถูกละเลย และเพื่อให้ประชาชนใน 10 ประเทศสมาชิกได้รับรู้การทำงานเชิงรุกของนักสังเกตการณ์นานาชาติว่ามองการปฏิรูปทางการเมืองของประเทศในอาเซียน ต่อการเลือกผู้แทนเข้าสู่สภาโดยรวมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไว้อย่างไร

เมื่อเดือนเมษายน 2552 ทางคณะผู้แทนผู้สังเกตการณ์นานาชาติของอันเฟรลได้ยื่นหนังสือโดยตรงให้กับ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา  เพื่อเรียกร้องให้อาเซียนคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งสู่การเมืองที่มีมาตรฐาน ให้ทุกประเทศจัดตั้งองค์กรอิสระด้านการเลือกตั้ง เพื่อจัดการเลือกตั้งที่โปร่งใสบริสุทธิยุติธรรม และเป็นการตรวจสอบถ่วงดุลย์ในทางการเมืองอย่างจริงจัง
อันเฟรลได้แยกระดับสถานะของประเทศอาเซียนในมิติทางการเมือง ซึ่งพอจะจำแนกประเทศออกเป็น 4 กลุ่มคือ
1.       ประเทศที่มีกระบวนการประชาธิปไตยที่ก้าวหน้า เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย
2.       ประเทศที่ถูกครอบงำและผูกขาดโดยพรรคการเมืองพรรคเดียว เข่น สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และกัมพูชา
3.       ประเทศสังคมนิยม เช่น เวียดนาม และลาว
4.       รัฐทหาร เช่น พม่า/ เมียนมาร์
เป็นที่น่าห่วงว่าในบรรดาประเทศมากกว่ากึ่งหนึ่งยังมีปัญหาในเรื่องลัทธิการปกครอง โครงสร้างทางการเมืองและระบบการเลือกผู้นำเข้าสู่อำนาจที่ยังมีระดับความต่างกันมาก ที่ร้ายไปกว่านั้นเรายังสัมผัสได้ว่าทุกประเทศมีปัญหาด้านการเลือกตั้ง ที่ไร้มาตรฐานจนน่าตกใจ อีกทั้งคุณภาพของผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำ ไม่ให้ความสำคัญของสิทธิทางการเมือง มีประชาชนน้อยมากที่สามารถโยงใยสิทธิทางการเมืองเข้าสู่สิทธิมนุษยชน ส่วนใหญ่จะแยกภาพสองภาพออกจากกัน
ประเทศซึ่งถูกจัดประเภทที่ 2,3,4 ข้างต้นยังตกอยู่ในสภาพที่ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน มีเสรีภาพมากน้อยตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังขาดการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากรัฐและ กกต.ของประเทศ ยังมีกฏหมายจำกัดฝ่ายค้านหลายรูปแบบ จำกัดสื่อ ไม่สามารถสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งที่ปลอดจากการข่มขู่คุกคาม ไม่มีกลไกทางกฎหมาย ข้อบัญญัติ การบังคับใช้กฎหมาย และระบบความปลอดภัยใน การบริหารจัดการการเลือกตั้ง ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน กัมพูชา เวียดนาม ลาว และพม่า ยังไม่เข้าใจว่าการวางตัวให้เป็นกลางทางการเมืองนั้นเป็นอย่างไร จะเห็นว่าพรรคการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาลจะเป็นพรรคของกลุ่มอำนาจเดิมๆ และกุมอำนาจตลอดไปอย่างเช่นที่เกิดในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดประเทศไทย เป็นต้น
นอกจากนั้นนักการการเมืองของทั้ง 10 ประเทศ มักฉวยโอกาสอาศัยความรู้น้อย ของประชาชนที่ส่วนใหญ่ยังยากจน ไร้การศึกษา ไม่ได้ติดตามเบื้องหน้าเบื้องหลังของนักการเมือง คอยบิดเบือนความจริง และคอยยัดเยียดวัฒนธรรมการคอรัปชั่นด้วยการให้เงินซื้อเสียงอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เรื่องนี้คนในประเทศสิงคโปร์และบรูไนอาจจะเถียงว่าสังคมของตนไม่สนใจการซื้อเสียง เพราะไม่ใช่สังคมยากจน แต่คงไม่มีใครโต้แย้งว่ารัฐบาลประเทศนี้ได้ใช้กลไกอื่นที่ได้เปรียบอยู่แล้วในการชิงชัยชนะทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องใช้เงินแจกโดยตรง
ในเรื่องขององค์กรอิสระ เราคงทราบกันดีว่า ประเทศไทย อินโดนีเชีย และฟิลิปปินส์ดูจะเป็นประเทศที่มี กกต. ทีมีมาตรฐานมากขึ้น และมีอำนาจมากกว่าประเทศอื่นๆ แต่ที่ผ่านมา กรรมการ กกต.ไทยและอินโดนีเชียก็ถูกศาลตัดสินลงโทษเสียเองหลายคน ซึ่งสิบปีที่ผ่านมาได้สะท้อนให้เห็นว่า ตัวบุคคลที่จะเข้ามาทำงานอย่างโปร่งใส จริงจัง และเป็นกลางเป็นเรื่องที่อาเซียนเราเองต้องเรียนรู้อีกมาก
มีผู้สังเกตการณบางคนเคยพูดไว้ว่า “ถ้าจะให้เปรียบเทียบโครงสร้างทางประชาธิปไตยกับการเลือกตั้ง (โดยไม่พูดถึงความรุนแรงในประเทศ) โดยภาพรวม เราคงไม่ต้องไปเทียบกับกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป แต่ลองเรียนรู้โครงสร้างทางประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของ 8 ประเทศสมาชิกของเอเชียใต้หรือ SAARC ดูก่อนจะดีกว่า”
อันเฟรล ได้เสนอ “แผนการเดินทางของอาเซียน” หรือ ASEAN Road Map ไปแล้ว ดังนี้คือ
·         รัฐบาลของสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ ควรให้สัตยาบันต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง อย่างไม่มีเงื่อนไข รวมถึงการพัฒนากลไกระดับชาติ ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
·         ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้มีความยืดหยุ่น เปิดกว้างขึ้น และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม และลาว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรัฐบาล โดยการใช้สิทธิออกเสียงโดยตรง หรือ เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือเป็นผู้ปฏิบัติงานในพรรคการเมือง ได้โดยไม่มีข้อจำกัด
·         ให้ทุกประเทศได้จัดตั้งองค์กร หน่วยงานที่เป็นอิสระในการบริหารจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเสรี เป็นธรรม และด้วยความโปร่งใส
·         กองทัพ หน่วยงานภายใต้สถาบันทางการทหาร จะต้องจัดวางบทบาทให้ออกห่างจาก การครอบงำการเลือกตั้ง และเปิดโอกาสให้กฎระเบียบพลเรือนได้วิวัฒนาการอย่างเป็นอิสระ ระบบการเลือกตั้งจะต้องไม่อนุญาตให้มีผู้แทนของหน่วยงานทหารใด ๆ มีที่นั่งอยู่ในรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นสภาสูงหรือสภาล่าง ผู้แทนทั้งหมดในประเทศอาเซียนจะต้องได้มา โดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ที่เป็นประชาธิปไตย และเป็นธรรมเท่านั้น นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องสรุปทบทวนบทบัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญ กฏหมาย ระเบียบปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
·         มีการจัดทำสำมะโนประชากร และลงทะเบียน ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนอย่างถูกต้อง เป็นระยะ ๆ
·         เคารพในเอกสิทธิ์ส่วนบุคคล ความลับในการลงคะแนนเสียง ความเสมอภาคของผู้มีสิทธิออกเสียง
·         เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ และ องค์กรฝ่ายบริหารของรัฐ จะต้องวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด และไม่ฝักใฝ่ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในระหว่างการเลือกตั้ง
·         จะต้องจัดให้มีการศึกษาในเรื่องการมีส่วนร่วมในการปกครองระบอบประชาธิปไตยสำหรับผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
·         การมีส่วนร่วมของสตรีในทางการเมือง ควรดำเนินไปในทุกระดับชั้น และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และอาจจัดให้มีระบบสัดส่วนของสตรี ชนกลุ่มน้อย กลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อประกันการมีส่วนร่วม ของบุคคลผู้ด้อยอำนาจและโอกาสดังกล่าวข้างต้น
·         สิทธิในการใช้สิทธิออกเสียงของประชาชนทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร ผู้ต้องโทษ ผู้นำศาสนา และพระภิกษุสงฆ์
·         โอกาสที่เท่าเทียมกันในการทำการรณรงค์หาเสียง ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่ส่ง ผู้แทนลงสมัครรับเลือกตั้ง
ขจัดปัญหา
·         เงื่อนไข หรือกฎหมายในบางประเทศยังคงปิดกั้นการใช้สิทธิออกเสียงของประชาชน อาทิ เช่น พระราชบัญญัติความมั่นคงในราชอาณาจักร พระราชกำหนดบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก เป็นต้น
·         เงื่อนไข ข้อจำกัด บางประการที่อาจบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือการใช้อำนาจของกองทัพ อย่างผิดกฎหมาย รวมถึงคำสั่ง หรือประกาศของคณะรัฐประหาร
·         การเลือกปฏิบัติต่อสตรี ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ในกระบวนการทั้งหมดของการเลือกตั้ง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายนี้ได้มีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเท่าเทียมกับกลุ่มอื่น ๆ
·         การละเว้น ยกเลิก การนิรโทษกรรม การกระทำความผิดต่อการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งจะต้องดำเนินการภายใต้บรรยากาศที่ปลอดจากสภาวะ ความรุนแรง และความหวาดกลัว การซื้อขายเสียง และระบอบธนาธิปไตย (ใช้เงินทุ่มซื้อคะแนนเสียง) ไม่ควรยอมให้ผู้ใช้สิทธิออกเสียงที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดมาลงคะแนนเลือกตั้ง และห้ามใช้สิทธิแทนญาติตนเอง
บังคับใช้กฎหมาย
กฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ให้หลักประกันในการดำเนินกิจกรรม ที่มีความปลอดภัย และ ส่งเสริม ประชาธิปไตย
ส่งเสริม
·         เสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมโดยสงบและสันติ เสรีภาพในการเคลื่อนไหว จัดกิจกรรมทางสังคมการเมือง
·         ความสามารถของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มรูปแบบ และมีความสมดุลย์
·         เสรีภาพของสื่อสารมวลชน และผู้สื่อข่าว
·         เสรีภาพในการพิจารณาตัดสินใจ
·         ให้มีผู้ใช้สิทธิออกมาลงคะแนนมากๆ ในทุกพื้นที่ของการเลือกตั้ง
สร้างความเข้มแข็ง
·         ให้กับภาคประชาสังคม ได้มีส่วนร่วมในประชาธิปไตย การติดตาม ตรวจสอบ และการถ่วงดุลย์
สนับสนุน
·         ให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนครั้งแรก และผู้มีสิทธิที่เป็นสตรีเพศ ได้ใช่วิจารณญานในการตัดสินใจ ลงคะแนนให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมือง ด้วยตนเอง
ป้องกัน
·         มิให้เด็กมีบทบาทโดยตรงในสถานการณ์ความขัดแย้ง หรือรณรงค์ทางการเมือง หรือการเดินขบวนที่เสี่ยงต่ออันตราย
จัดตั้ง
·            กลไกสนับสนุนผู้ใช้สิทธิออกเสียงที่อยู่ในต่างแดน หรือการใช้สิทธิลงคะแนนทางไปรษณีย์
·         กลไกในการร้องเรียนกรณีกระทำผิดต่อการเลือกตั้ง และการรับเรื่องราวร้องทุกข์สนองตอบผู้ร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ
อนุญาตให้
·         มีผู้สังเกตการณ์ในระดับท้องถิ่น ในการติดตาม ตรวจสอบ และสอดส่องดูแลกระบวนการเลือกตั้ง อย่างเป็นระบบ
·         เปิดโอกาสให้มีผู้สังเกตุการณ์การเลือกตั้งจากนานาชาติ ได้เข้ามาร่วมติดตาม ตรวจสอบ และสอดส่องดูแลการเลือกตั้ง อย่างเปิดเผย โปร่งใส และไม่มีการปิดกั้นใด ๆ
ข้อเสนอแนะดังกล่าวมาทั้งหมด มีความมุ่งหวังที่จะทำให้ประชาธิปไตยในการเลือกตั้ง ได้เป็นหัวใจสำคัญในการ สร้างความเข้มแข็งให้กับกระบวนการ ประชาธิปไตยในภูมิภาคอาเซียน ข้อเสนอแนะดังกล่าวนี้ อาจนำมาสู่การ จัดตั้งกลไกในเชิงโครงสร้าง เพื่อการส่งเสริมให้เกิดการเลือกตั้งที่เสรี และเป็นธรรม อันจะเป็นปัจจัยที่สำคัญ ยิ่งต่อประชาธิปไตย ในภูมิภาคอาเซียน
 

 

บทความ [1]
การเมือง [2]
การเลือกตั้ง [3]
ประชาธิปไตย [4]
อันเฟรล [5]
อาเซียน [6]
เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี [7]

Source URL: https://prachatai.com/journal/2009/10/26237#comment-0

Links
[1] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1
[2] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87
[3] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87
[4] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2
[5] https://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%A5
[6] https://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99
[7] https://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5