นายตำรวจ-เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เบิกความคดีไต่สวนการตาย จนท.เขาดิน 10 เมษา

รองผู้กำกับ สน.ดุสิต ระบุมีทหารเข้าใจว่ามีการยิงปืนมาจากรัฐสภา แต่เข้าไปตรวจสอบแล้วมีเพียงตำรวจประจำรัฐสภา และไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนรอบสวนสัตว์มีทหารวางกำลังอยู่ ขณะที่ตำรวจในกองร้อยปราบจลาจลระบุช่วงเกิดเหตุ ทหารวิ่งฮือเข้ามาหลบในอาคารจอดรถสวนสัตว์ และทหารยิงปืนออกจากอาคารในทิศทางชี้ขึ้นฟ้า 45 องศา

ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 14 ก.ย.55 เวลา 09.00 น. ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพ คดีหมายเลขดำที่ อช.8/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรการเสียชีวิตของนายมานะ อาจราญ ลูกจ้างของสวนสัตว์ดุสิตแผนกบำรุงรักษา เพื่อทำคำสั่ง แสดงว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150

ทั้งนี้นายมานะถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 บริเวณสวนสัตว์ดุสิต ถ.พระราม 5 แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กทม. ระหว่างสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงที่ ถ.ราชดำเนิน โดยวันนี้เป็นนัดที่สองของการไต่สวน (ข่าวก่อนหน้านี้)

 

นายตำรวจระบุรอบสวนสัตว์มีทหารประจำการอยู่ ใกล้ร่างนายมานะพบปลอกกระสุน

พยานปากแรกของวันนี้ คือ พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สน.ดุสิต เบิกความว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 เวลาประมาณ 23.30 น. ได้รับแจ้งทางวิทยุว่ามีการยิงกันที่บริเวณรัฐสภา จึงเข้ามาตรวจพื้นที่ พบทหารประมาณ 30 นาย นอนราบอยู่ที่ ถ.อู่ทองใน เล็งปืนไปทางสภา โดยบอกว่ามีบุคคลยิงปืนมาจากสภา พ.ต.ท.สำเริง ซึ่งคุ้นเคยกับท้องที่จึงประสานกับทหารเพื่อขอนำตำรวจประจำรัฐสภา 2 นายออกมา โดยทั้ง 2 นายยอมให้ปลดอาวุธ จากนั้น พ.ต.ท.สำเริงนำกำลังเข้าไปสำรวจภายในอาคารรัฐสภาไม่พบสิ่งผิดปกติ

ต่อมาในเวลา 00.30 น. ของวันที่ 11 เม.ย. ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในสวนสัตว์ดุสิต พ.ต.ท.สำเริงจึงเข้าไปตรวจสอบ พบร่างนายมานะ อาจราญถูกยิงเสียชีวิต ห่างออกไป 20 เมตรไปทางทิศตะวันออก มีปลอกกระสุนตกอยู่ 2-3 ปลอก ไม่ทราบว่านายมานะตายด้วยสาเหตุใด แต่เมื่อถามญาติผู้ตาย ญาติกล่าวว่าคนในบริเวณดังกล่าวยิง ทั้งนี้ พ.ต.ท.สำเริงได้ออกตรวจพื้นที่รอบสวนสัตว์ดุสิต นอกจากเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก็มีแต่ทหารและตำรวจ โดยตำรวจปราบจลาจลไม่มีอาวุธ ส่วนบริเวณรอบๆ ที่รัฐสภา ลานพระบรมรูปทรงม้า แยกราชวิถี มีทหารประจำการอยู่

 

ตำรวจปราบจลาจลขึ้นเบิกความเผยช่วงชุลมุนเห็นทหารยิงปืนเฉียงขึ้นฟ้า

ต่อมา ร.ต.ต.ณรงค์ คำโพนรัตน์ ปัจจุบันประจำอยู่ สภ.อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา เบิกความว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 มียศ ส.ต.อ. สังกัดอยู่ สน.สามเสน และได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในกองร้อยปราบจลาจล กองร้อยที่ 1 มีกำลังพลประมาณ 120 นาย ในวันดังกล่าวได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปประจำอยู่ที่สวนสัตว์ดุสิตตั้งแต่เวลา 8.00 น. ต่อมาเวลา 16.00 น. กองร้อยปราบจลาจลได้รับคำสั่งให้แบ่งไปปฏิบัติภารกิจที่จุดต่างๆ โดยกลุ่มของตนได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่แยกวัดเบญจมบพิตร แต่เข้าไม่ได้เนื่องจากทหารนำแท่งปูนมาวางกั้นที่แยก จึงถอนกำลังกลับมาอยู่ที่สวนสัตว์ดุสิตทั้งหมด 7 นาย มาเฝ้าเครื่องมือวิทยุสื่อสารของหน่วย ทั้งนี้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าวไม่ได้ถือกระบองปราบจลาจล

ทั้งนี้ ร.ต.ต.ณรงค์เบิกความว่า ทหารเริ่มเข้ามาบริเวณสวนสัตว์ดุสิต ตั้งแต่เวลา 18.00 น. มีทั้งสิ้น 4 กองร้อย กองร้อยละ 120 นาย อาวุธประจำกายประกอบด้วย ปืนเอ็ม-16 ปืนทาโว่ (TAR-21 หรือ Tavor) ปืนลูกซอง และกระบอง ต่อมาในเวลา 23.00 น. ขณะนั้น ร.ต.ต.ณรงค์ ผูกเปลนอนอยู่ใต้ต้นโพธิ์สวนสัตว์ดุสิตใกล้ลานจอดรถ ทหารได้วิ่งเข้ามาจากประตูทางเข้าสวนสัตว์ฝั่งรัฐสภา ถือปืนวิ่งเข้ามา ต่างคนต่างหลบที่ลานจอดรถ ชนเก้าอี้ระเนระนาด และมีทหารวิ่งเข้าชนจน ร.ต.ต.ณรงค์ตกเปล จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น ทหารที่นอนหมอบอยู่ได้ยิงปืนในทิศทางเฉียงขึ้นฟ้า 45 องศา โดยมีปลอกกระสุนปืนกระเด็นมาถูกตัว ร.ต.ต.ณรงค์ ด้วย โดยเสียงปืนนั้น ร.ต.ต.ณรงค์ได้ยินมาจากรอบทิศทาง เสียงปืนดังเป็นชุดๆ เงียบไปสักพักหนึ่งก็ดังขึ้นมาอีก จากนั้นทหารก็สั่งว่า "แนวยิงให้หยุดยิง" เสียงปืนซึ่งดังเป็นเวลา 30 นาทีจึงสงบลง โดย ร.ต.ต.ณรงค์ ได้ชวนเพื่อนขึ้นไปที่ชั้น 2 ของอาคารจอดรถ ก็พบทหารวางแนวปืนอยู่ที่ชั้น 2 ด้วย

 

เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เผยมีทหารหนีมาขอหลบในกรงแพนด้าแดง

ต่อมา นายนภดล ทิพย์ธัญญา พนักงานบำรุงรักษาสัตว์ เบิกความว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ได้รับคำสั่งให้ดูแลความปลอดภัยบริเวณกรงเสือและแพนด้าแดง ด้านติดกับ ถ.ราชวิถี เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีคนปีนเข้ามาภายในสวนสัตว์ดุสิต กลางดึกมีคนแต่งกายคล้ายทหาร 2 นาย คนหนึ่งสวมเครื่องแบบทหารครึ่งท่อน อีกคนสวมชุดลายพราง วิ่งมาจากที่จำหน่ายตั๋วของสวนสัตว์ด้าน ถ.ราชวิถี มาขอความช่วยเหลือบอกว่าถูกคนเสื้อแดงไล่ยิง พยานกับเพื่อนที่เข้าเวรด้วยกันจึงให้ไปหลบในกรงแพนดาแดง โดบบอกว่าจะขอเปลี่ยนเสื้อด้วย แต่พยานกับเพื่อนไม่ทราบว่าทหารทั้ง 2 นาย เปลี่ยนเสื้อเป็นชุดอะไร เพียงแต่ดูต้นทางให้และไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดตามทหารทั้ง 2 นายมา

จนถึงเวลา 23.30 น.ได้ยินเสียงปืนหลายนัด แต่จะยิงมาจากทิศทางใด ไม่ทราบ หลังจากนั้นได้รับการติดต่อทางวิทยุสื่อสารว่า นายมานะโดนยิงบริเวณกรงเก้งหม้อที่เป็นบ่อพักเต่ายักษ์ นายนภดลจึงจะเดินไปกับเพื่อนชื่อนายสมบัติเพื่อไปดูจุดที่นายมานะถูกยิงก็มีเสียงตะโกนจากอาคารจอดรถว่า "ใคร" จากนั้นนายสมบัติจึงตอบว่าเป็นพนักงานสวนสัตว์ จากนั้นมีเสียงจากอาคารจอดรถสั่งให้หมอบเป็นเวลา 20 นาที และระหว่างนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น หลังจากเสียงปืนสงบแล้วและมีเสียงจากอาคารจอดรถบอกว่า "ให้ไปได้" ทั้งนายนภดล และนายสมบัติจึงเดินไปหลบที่อาคารจอดรถ ทั้งนี้เห็นว่าบริเวณที่นายมานะเสียชีวิตมี ผอ.สวนสัตว์ดุสิต และพนักงานสวนสัตว์เข้ามาดูศพนายมานะ แต่ทั้งนายนภดล และนายสมบัติไม่ได้เดินไปดูจุดที่นายมานะเสียชีวิตอีก

ภายหลังไต่สวนพยานเสร็จสิ้นแล้วในวันนี้ ศาลนัดไต่สวนพยานครั้งต่อไปวันที่ 17 ก.ย. เวลา 9.00 น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท