มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเผย 26 ส.ค. นี้ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษากรณี 'อรรถสิทธิ์ นุสสะ' ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดงซ้อมทรมาน เมื่อปี 2564
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่าในวันที่ 26 ส.ค. 2567 เวลา 09.00 น. นี้ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษา กรณีอรรถสิทธิ์ นุสสะ ผู้เสียหายจากการถูกซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิด เป็นจำเลยในคดีเพื่อเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย กว่า 3.3 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
สืบเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ 29 ต.ค. 2564 เวลาประมาณ 18.00 น. อรรถสิทธิ์ฯ เดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมไว้อาลัยและทวงถามความยุติธรรมให้แก่ วาฤทธิ์ สมน้อย เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าสน.ดินแดงระหว่างที่มีการชุมนุม โดยระหว่างที่เข้าร่วมกิจกรรมนั้น อรรถสิทธิ์ฯ ถูกตำรวจ สน.ดินแดง เข้าจับกุมและควบคุมตัวไว้ใน สน.เป็นเวลาหนึ่งคืนและถูกซ้อมทำร้ายร่างกายบังคับให้บอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชุมนุมในคืนนั้น จนได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตาและร่างกาย ก่อนที่อรรถสิทธิ์ฯ จะได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ตุลาคม 2564 หลังจากนั้นอรรถสิทธิ์ ได้เข้ารับการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงมือซ้อมทรมาน ในข้อหา 157 และข้อหาอื่นๆ ที่ สน. ดินแดงอีกด้วย
นับแต่เกิดเหตุ เส้นทางการเรียกร้องความยุติธรรมเดินทางเข้าสู่ปีที่ 3 และยังคงไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แม้อรรถสิทธิ์ฯ จะเดินหน้าเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ยื่นหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงกรมสอบสวนพิเศษ (DSI) เพื่อขอให้ช่วยสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกราย ในส่วนของคดีอาญา ยังคงอยู่ที่สน.ดินแดงและไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวถึงนัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว “คดีนี้เกิดขึ้นก่อนพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดีมาตรฐานทางกฎหมายที่ทัดเทียมสากลและได้มีผลบังคับใช้แล้ว การเยียวยาด้วยตัวเงินทางแพ่งที่เหมาะสมเพียงพอโดยคำพิพากษาย่อมส่งสัญญาณให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องป้องปรามและป้องกันเหตุเช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้ และคำพิพากษาทางแพ่งที่สั่งให้หน่วยงานต้นสังกัดชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือการเยียวยาทางด้านความยุติธรรมและเป็นการเยียวยาทางด้านจิตใจที่สำคัญที่สุดต่อผู้เสียหายจากการละเมิดสิทธิต่อผู้ชุมนุม“
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจร่วมกันติดตามฟังคำพิพากษาในวันและเวลาดังกล่าว เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่นายอรรถสิทธิ์ นุสสะ ที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ให้ได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริงและได้รับการชดเชยเยียวยา เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดกับนักสิทธิมนุษยชนหรือคนใดได้อีก และยุติวัฒนธรรมลอยนวลของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างแท้จริง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)