Skip to main content
sharethis

นายพลจาฟารีของอิหร่าน แถลงข่าวยอมรับว่า กองกำลังปกป้องการปฏิวัติของอิหร่าน ส่งหน่วยช่วยเหลือด้านข่าวกรองและให้คำแนะนำแก่กองทัพซีเรียในการสู้รบกับฝ่ายกบฏ แต่ยืนยันไม่ได้ส่งไปช่วยสู้รบโดยตรง

 
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมาสำนักข่าว The Guardian ของอังกฤษรายงานว่า ผู้บัญชาการกองกำลังปกป้องการปฏิวัติของอิหร่าน (IRGC) ยืนยันว่า มีการส่งกองกำลังปกป้องการปฏิวัติของอิหร่านเข้าไปช่วยเหลือรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรียในการต่อสู้กับกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาล และเตือนว่าทางอิหร่านมีการใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงหากเกิดกรณีที่ประเทศพันธมิตรอาหรับถูกโจมตี
 
นายพลโมฮัมหมัด อาลี จาฟารี กล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวว่ามีสมาชิกจำนวนหนึ่งของ IRGC เข้าไปในซีเรีย แต่ก็อ้างว่าการมีอยู่ของหน่วย Qods จากกองกำลัง IRGC ไม่ได้หมายถึงการช่วยรบภาคสนามในซีเรีย
 
สำนักข่าวเดอะ การ์เดียน กล่าวว่า การเปิดเผยในครั้งนี้เป็นการตอบโต้ที่น่าประหลาดใจต่อข้อกล่าวหาที่ประเทศตะวันตก อิสราเอล และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของซีเรียที่กล่าวอ้างมาตลอดว่า ฝ่ายอิหร่านให้การช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียในการสู้รบ
 
เดอะการ์เดียนกล่าวว่า การออกมายอมรับของนายพลจาฟารี เน้นให้เห็นว่าการลุกฮือในซีเรียกลายเป็นเรื่องที่ชาติปฏิปักษ์ต่างๆ ทั้งในและนอกภูมิภาคเข้ามามีส่วนพัวพัน ประเทศซาอุดิอารเบีย, กาตาร์ และตุรกีทำการติดอาวุธให้กับกลุ่มกบฏในซีเรีย ขณะที่สหรัฐฯ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส เรียกร้องให้อัสซาดลงจากตำแหน่งและจำกัดการช่วยเหลือกลุ่มติดอาวุธในทางที่ไม่ใช่ความรุนแรง แต่ในที่ประชุมของสหประชาชาติทางรัสเซียและจีนก็พยายามสกัดกั้นไม่ให้มีการใช้มาตรการใดๆ ต่อซีเรีย
 
กองกำลังหน่วย Qods ของอิหร่านประกอบด้วยกองกำลังพิเศษ หน่วยข่าวกรองรวบรวมข้อมูลที่คอยให้การช่วยเหลือและให้ข้อมูลต่อผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี กองกำลังหน่วยนี้เคยถูกกล่าวหาเรื่องวางแผนโจมตีในอิรักตั้งแต่เหตุการณ์โค่นล้มซัดดัม ฮุสเซน จาฟารีกล่าวว่า IRGC คอยให้ความช่วยเหลือทางด้านข้าวกรองและคำแนะนำแก่ซีเรีย
 
เจ้าหน้าที่ทางการของอังกฤษกล่าวว่า IRGC ได้ให้เครื่องมือและคำแนะนำทางเทคนิคแก่รัฐบาลซีเรียในการปราบบรามฝ่ายต่อต้าน ยกตัวอย่างเช่น วิธีการเทกองกำลังรักษาความสงบจำนวนมากลงไปในพื้นที่ นอกจากนี้แล้วอิหร่านยังได้ให้การสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในด้านการพัฒนาการรวบรวมข่าวสาร และช่วยสอดส่องการใช้อินเตอร์เน็ตกับเครื่อข่ายโทรศัพท์ของฝ่ายผู้ประท้วง รวมถึงการส่งข้อความตัวอักษรด้วย
 
มีรายงานว่าอิหร่านไม่พอใจต่อการใช้กำลังของประเทศพันธมิตรอาหรับในการตอบโต้ความไม่สงบที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. 2011 ซึ่งขัดกับวืธีการตอบโต้ผู้ชุมนุมของอิหร่านที่มีความซับซ้อนกว่า ในช่วงที่มีการประท้วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2009
 
นายพลจาฟารีกล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวอีกว่า หากซีเรียถูกโจมตีด้วยทหาร อิหร่านพร้อมจะให้การสนับสนุนทางกองทัพ แต่ก็ต้องดูบริบทโดยรวมก่อน จาฟารีบอกอีกว่า หากมีสงครามเกิดขึ้นจริงในพื้นที่และสาธารณรัฐอิสลามเข้าร่วมสงครามด้วย ช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นแหล่งสำตัญในการค้าน้ำมันอาจตกเป็นเป้าโจมตีของอิหร่าน
 
แผนสร้างสันติของทูตยูเอ็นคนใหม่
ลัคดาร์ บราฮิมี ทูตผู้มีประสบการณ์ชาวอัลจีเรียผู้ที่ทำหน้าที่ต่อจากโคฟี่ อันนัน ในการเป็นตัวแทนช่วยเหลือแก้ปัญหาวิกฤติในซีเรียเข้าพบประธานาธิบดีอัสซาดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็เตือนว่ากระบวนการแก้ไขปัญหาอาจเป็นไปอย่างเชื่องข้าเนื่องจากช่องว่างระหว่างฝ่ายต่อต้านกับฝ่ายรัฐบาลที่ถ่างกว้างขึ้น ขณะเดียวกันก็บอกว่าวิกฤติในซีเรียกำลังอันตรายและร้ายแรงมากขึ้น เป็นภัยต่อประชาชนชาวซีเรีย ต่อภูมิภาคอาหรับ และต่อโลก
 
บราฮีมี ยังได้เข้าพบตัวแทนของฝ่ายตอ่ต้านในซีเรีย ฮัสซัน อับเดล อะซิม โฆษกของคณะกรรมการประสานงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงตามหลักประชาธิปไตยแห่งชาติซีเรียกล่าวว่า พวกเขาบอกกับบราฮิมีว่าพวกเขาให้การสนับสนุนความพยายามในการแก้ไขวิกฤติโดยการหยุดยั้งความรุนแรงและการสังหาร รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง
 
แต่ผู้นำกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (FSA) คาดการณ์ว่าแผนการสรางสันติของตัวแทนจากยูเอ็นจะประสบความล้มเหลว เช่นเดียวกับกรณีของอันนัน เนื่องจากบราฮิมี ไม่มีข้อเสนอใดๆ ต่อฝ่ายที่กำลังต่อสู้เพื่อเสรีภาพ
 
ด้านสำนักข่าวซานาของรัฐบาลซีเรียรายงานโดยอ้างคำกล่าวของปธน.อัสซาดที่กล่าวต่อบราฮิมีว่า ความสำเร็จของภารกิจขึ้นอยู่กับ "การกดดันให้ประเทศที่เกื้อหนุนด้านการเงิน ฝึกซ้อมรบให้ผู้ก่อการร้าย และส่งอาวุธมาที่ซีเรีย หยุดการกระทำเหล่านี้"
 
มีรายงานจากซีเรียเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมาอีกว่ากลุ่มกบฏได้ต่อสู้ท่ามกลางการระดมยิงอาวุธหนักและการใช้สไนเปอร์ในกรุงดามาสกัส อเล็ปโป ฮอม และดิแอร์ เอซซอร์ จากข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุขัดแย้งในซีเรียตอนนี้มีมากถึงราว 20,000 ราย ขณะที่แหล่งข่าวฝ่ายต่อต้านรัฐบาลบอกว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเข้าใกล้ปริมาณ 30,000 รายแล้ว
 
 
ที่มา
Iran confirms it has forces in Syria and will take military action if pushed, The Guardian, 16-09-2012

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net