Skip to main content
sharethis

แจงเหตุชะลอ “ตอบโจทย์ตอน 5” เผยบรรยากาศการเจรจาต่อรองกับผู้ประท้วงไม่ได้ผลส่อเค้าจะบานปลาย ตัดสินใจนาทีสุดท้ายลดการเผชิญหน้า ยันไม่มีแรงกดดันจากสถาบันหรือหน่วยงานใด ไม่ว่าภายในหรือภายนอกและยืนยันเดินหน้ารายการตอบโจทย์ต่อ แม้ไม่มี “ภิญโญ” ที่ประกาศยุติบทบาท

นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผอ.ไทยพีบีเอส

17 มี.ค. 56 เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รายงานคำแถลงประเด็นการชะลอการออกอากาศรายการตอบโจทย์ ตอน 5 ที่มีกำหนดออกเมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย นายสมชัย สุวรรณบรรณ  ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) กล่าวถึงลำดับเหตการณ์ที่จำเป็นต้อง ตัดสินใจชะลอการออกอากาศเทปรายการดังกล่าวว่า “เราต้องถือว่า ผู้ร้องเรียนเป็นผู้ชมผู้ฟังจำนวนหนึ่ง ที่เราต้องฟังเสียงเหมือนกัน ภายใต้สถานการณ์นี้เราขอเวลาที่จะตั้งสติว่าจะทำเรื่องนี้อย่างไรจึงนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการรับและ พิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งเป็นกลไกตามกฎหมายของไทยพีบีเอสที่มีองค์ประกอบมาจากตัวแทนภายในและบุคคลภายนอกซึ่งเป็นองค์กรทางสังคมทั้งจากสมาคมนักข่าววิทยุฯ สภาการหนังสือพิมพ์ นักวิชาการ นักกฎหมาย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ผู้ทรงคุณวุฒิและ ตัวแทนสภาผู้ชมผู้ฟังด้วย เราคงต้องให้กลไกนี้พิจารณา เพื่อให้เกิด ความรอบคอบ ดังที่เคยเกิดกรณีคล้ายๆ กันนี้ในอดีต...”  

ทั้งนี้ตามเงื่อนไขของเวลาในวันดังกล่าว นายสมชัยกล่าวว่าเป็นการตัดสินใจตามสถานการณ์ที่เลื่อนไหลไปจนเสี้ยวนาทีสุดท้ายก่อนออกอากาศที่ฝ่ายบริหารและตัวแทนฝ่ายข่าว ที่ลงไปเจรจา กับผู้ประท้วงได้ประเมินร่วมกันว่า หากออกอากาศมีโอกาสที่จะนำไปการประจันหน้าและ เหตุ รุนแรง สุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยของพนักงานองค์กร เนื่องจากเวลา 14.00  น. กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการนำเสนอประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ในรายการตอบโจทย์ประเทศไทยเริ่มทยอยมาร้องเรียนที่สถานีซึ่งโดยปรกติทางสถานีจะจัดพื้นที่รองรับประชาชนที่มาแสดงความคิดเห็นบริเวณนอกอาคารสำนักงานเพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดแต่ในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดฝนตกลมแรงฝ่ายดูแลอาคาร  จึงเชิญผู้ร้องเรียนเข้ามาหลบฝนข้างในอาคาร โดยมีฝ่ายบริหารลงมาดูแลประสานงานอำนวยความสะดวกตามปรกติ

ในช่วงเวลานั้น มีการประชุมคณะกรรมการนโยบาย นายสมชัยจึงนำประเด็นร้องเรียนไปรายงาน ให้ที่ประชุมรับทราบ ที่ประชุมกรรมการนโยบายได้หารือและให้ความเห็นเป็นส่วนใหญ่ว่าสมควรให้ ออกอากาศเทปดังกล่าวได้ ทั้งนี้มิได้มีการลงเป็นมติคณะกรรมการนโยบายแต่อย่างใด ดังนั้นผู้บริหารไทยพีบีเอสจึง ยืนยันจุดยืนที่จะทำหน้าที่สื่อสาธารณะ โดยออกอากาศรายการตอบโจทย์ประเทศไทยตอนที่ 5 และจะเปิดพื้นที่การสื่อสารเพิ่มเติมสำหรับความคิดเห็นที่แตกต่างเพิ่มขึ้นอีก  โดยมีการชี้แจงแนวทางดังกล่าวผ่านช่วงข่าวค่ำไทยพีบีเอสเพื่อให้ผู้ประท้วง ได้ชมพร้อมกันด้วย และส่งตัวแทนไปเจรจากับผู้ประท้วง แต่สถานการณ์เริ่มตึงเครียดอีกครั้ง เนื่องจากผู้ร้องเรียนไม่พอใจกับคำชี้แจงหรือข้อเสนอการเปิดพื้นที่เพิ่มเติม และยืนยันที่จะให้ถอด รายการให้ได้ อีกทั้งประกาศว่าจะรวมตัวกันต่อที่สถานีพร้อมจะกระจายข่าวเรียกผู้สนับสนุนมาชุมนุมเพิ่มเติมโดยพวกตนจะนอนค้างคืนในอาคาร ซึ่งจะทำให้เกิดบรรยากาศการเผชิญหน้ากัน

“กระทั่งเวลาล่วงไปถึงประมาณ 21.00 น. ในช่วงที่หน้าจอเป็นรายการที่นี่ไทยพีบีเอส ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวและฝ่ายบริหาร 10 กว่าคนที่เข้าไปเจรจาพูดคุยกับผู้เรียกร้อง   ได้มาประชุมกับผมอีกครั้ง เพื่อประเมินสถานการณ์ว่ามีแนวโน้มจะตึงเครียดขึ้นอีกเพราะมีข่าวว่าจะใช้ Social Media ระดมคนมาชุมนุมที่สถานีเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งที่ประชุมเห็นเป็นส่วนใหญ่ว่า หากมีการเติมคนมากขึ้นและทางเราไม่ถอย สื่ออาจกลายเป็นคู่ขัดแย้งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ถือเป็นการตัดสินใจเสี้ยวนาทีสุดท้าย ซึ่งตอนนั้นในฐานะที่ตนเคยเป็นบรรณาธิการข่าวมาก่อน เคยได้รับการอบรมมาว่า “ไม่มีข่าวไหนที่สำคัญกว่าความปลอดภัยของคนทำข่าว”และในฐานะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ มีหน้าที่ ที่ต้องปกป้องรักษาทรัพย์สินของราชการจึงจำเป็นต้องตัดสินใจที่จะชะลอการออกอากาศ เพื่อลดการเผชิญหน้าและนำเข้าสู่การพิจารณาตามกลไกที่เรามีคือคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนโดยผลการพิจารณาคาดว่าคงจะออกมาในวันจันทร์หรือวันอังคารที่ 18 - 19 มีนาคมนี้ และผมยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงจากภายในหรือภายนอก อย่างที่มีปรากฎในสื่อฯ”

นายสมชัยย้ำว่า ไทยพีบีเอสยังรักษาจุดยืนการทำรายการตอบโจทย์ต่อไป  ส่วนกรณีที่นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ที่ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นพิธีกรรายการอย่างกระทันหัน ก็ต้องเคารพการตัดสินใจ ซึ่งก็น่าเสียดาย เพราะนายภิญโญและทีมงานของเขาได้ทุ่มเทให้กับการทำงานตลอดมา จนทำให้ราย การเป็นที่รู้จักกว้างขวางเป็นเครดิตของนายภิญโญ ทั้งนี้ นายสมชัย ยืนยันว่ารูปแบบเนื้อหารายการ จะยังต้องดำเนินต่อไป โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่กลางในการนำเสนอความคิดหลากหลายและเป็น พื้นที่แลกเปลี่ยนในประเด็นสำคัญๆอย่างตรงไปตรงมาของสังคมไทยต่อไป

 

ยันไม่มีแรงกดดันจากสถาบันหรือหน่วยงานใด

วานนี้ เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รายงานคำชี้แจง 3 ข้อของนายสมชัย สุวรรณบรรณ ถึงการตัดสินใจชะลอการออกอากาศเทปรายการตอบโจทย์ ตอน "สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ" เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตอนที่ 5 ว่า

1.เป็นการตัดสินใจโดยไม่มีแรงกดดันจากสถาบัน หน่วยงาน หรือกลุ่มบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น ภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียด และมีปัจจัยอื่นแวดล้อม อันอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของทีมงาน ทีมผู้บริหารจึงตัดสินใจชะลอการออกอากาศรายการตอบโจทย์ ตอนที่ 5 เพื่อทบทวนให้เกิดความรอบด้าน และพิจารณาความเหมาะสมรวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

2.เพื่อให้เกิดกระบวนการพิจารณาอย่างรอบด้าน ผู้บริหารจึงนำเสนอเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ของคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งเป็นกลไกตามกฎหมาย

3.ไทยพีบีเอสยืนยันในภารกิจของสื่อสาธารณะ ที่ต้องเปิดให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งการนำเสนอประเด็นดังกล่าวมีเป้าหมาย เพื่อเปิดให้ประชาชนได้เกิดมิติการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และถกเถียงในจุดยืนที่หลากหลาย ทั้งมุ่งหวังเพื่อพัฒนาด้านความคิดในการสื่อสารทางปัญญาของประเด็นที่ถูกถกเถียงในสังคมวงกว้าง แต่ถูกจำกัดขอบเขตอยู่เฉพาะในมุมมืด ภายใต้รูปแบบของรายการที่ให้แต่ละภาคส่วนที่มีความเห็นต่าง โดยเฉพาะประเด็นที่ละเอียดอ่อนได้ใช้เวทีสนทนาสาธารณะด้วยเหตุและผล แม้สังคมจะไม่เข้าใจในระยะเริ่มต้นก็ตาม แต่จะเชื่อมั่นว่าน่าจะสร้างความมั่นคงให้กับสังคมและประชาชนในระยะยาว

 

กลุ่ม "คนไทยผู้รักชาติ" 20 คน ร้องให้ยุติรายการตอบโจทย์ฯ

กลุ่ม "คนไทยผู้รักชาติ" ราว 20 คน นั่งเจรจากับผู้บริหารไทยพีบีเอส

ข่าวสดรายวัน รายงานด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากทั้งแรงกดดันภายนอกและความขัดแย้งภายในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเอง เริ่มจากการที่มีกลุ่ม "คนไทยผู้รักชาติ" ราว 20 คน เดินทางมาที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดี รังสิต กทม. ในช่วงบ่าย เพื่อเรียกร้องให้ยุติรายการตอบโจทย์ฯ โดยทันที ซึ่งไม่ว่าฝ่ายบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจะส่งใครไปเจรจาก็ไม่เป็นผล ทำให้มีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเพื่อหาทางออกอย่างเร่งด่วน ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า คณะกรรมการนโยบายได้เรียกทีมงานของรายการตอบโจทย์ฯ มาชี้แจง ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า ตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ มีการบันทึกเทปทั้งหมด 5 ตอน มีแขกรับเชิญที่หลากหลาย ทั้งนายสุรเกียรติ พล.ต.อ.วสิษฐ นายสมศักดิ์ และนายสุลักษณ์ ซึ่งหากได้ดูครบทั้ง 5 ตอนก็จะเห็นภาพรวมว่าประเทศไทยยังจำเป็นต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ต่อไป หลังรับฟังคำชี้แจงคณะกรรมการนโยบายก็เห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องยุติการออกอากาศ แต่เพื่อให้เนื้อหาการออกอากาศของสถานีมีความสมดุลมากขึ้น จึงแนะนำให้มีการทำรายการพิเศษ ออกอากาศในวันเสาร์ที่ 16 มี.ค. โดยคิดรูปแบบไว้คร่าวๆ ว่าอาจมีการนำเทปรายการตอบโจทย์ฯ ตอนเก่าๆ ที่สัมภาษณ์บุคคลที่อยู่ใกล้ชิดสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ นายอานันท์ ปันยารชุน ดร.สุรเกียรติ์ พล.ต.อ.วสิษฐ์ ฯลฯ มาทำเป็นสกู๊ปข่าว ผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายเป็นที่มาของคำชี้แจงผ่านเว็บไซต์ไทยพีบีเอส ในเวลา 20.21 น. วันที่ 15 มี.ค.

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ก่อนรายการตอบโจทย์ฯ จะออกอากาศในเวลา 21.45 น. มีพนักงานของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ระดับบรรณาธิการ 3-4 คน เดินทางไปพบกับนายสมชัย เพื่อขอให้ยุติการออกอากาศรายการตอบโจทย์ฯ ตอนดังกล่าวโดยทันที เป็นสาเหตุให้นายสมชัยโทรศัพท์สั่งการให้ยุติการออกอากาศ ก่อนถึงกำหนดออกอากาศในเวลา 21.45 น. เพียง 15 นาทีเท่านั้น โดยอ้างมาตรา 46 ของพ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพ.ศ.2551

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net