ดีเบตสาธารณะ: เอกชัย-โชคชัย Vs หมอเหรียญทอง

เอกชัย เดินทางเข้าพูดคุยกับหมอเหรียญทอง ตั้งคำถามทำไมถึงมีอคติชอบเหยียดคน และติดป้ายไม่จงรักภักดี แม้คนเหล่านี้ต้องการเพียงการเลือกตั้ง หมอเหรียญทองตอบชัดทุกอย่างไปเพื่อปกป้องสถาบัน ยอมไม่ได้ที่มีคนเอางานราชพิธีมาแขวะ ยันเห็นต่างเรื่องอื่นได้ แต่เรื่องนี้ห้ามเห็นต่าง ด้านโชคชัย หวังมีรัฐบาลใหม่ก่อนพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อให้สมพระเกียรติ

ภาพจาก UDD NEWS

11 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. เอกชัย หงส์กังวานได้ติดต่อนัดหมายกับ พล.ต.นพ. เหรียญทอง แน่นหนา เพื่อเข้าพบขอพูดคุยเป็นการส่วนตัว ต่อมาในวันที่ 10 ม.ค. พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟสบุ๊ค องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ระบุว่า ในวันที่ 11 ม.ค. เวลา 10.00 น. จะมีการคุกคามโรงพยาบาลพระมงกุฎวัฒนะ นำโดยไอ้กุ๊ยคลั่งประชาธิปไตย ขอให้สาธารณชนทุกคนทราบว่าตนเองถูกคุกคามมาหลายครั้งแล้ว นับตั้งแต่ประกาศตนชัดเจนว่าจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หากมีการยั่วยุ คุกคาม ก่อกวน ก่อให้เกิดความไม่สงบ ตนจำเป็นต้องตอบโต้ ป้องกันตนเอง และพร้อมเผชิญหน้าทุกรูปแบบ พร้อมทั้งขอเชิญสื่อมวลชนมาเป็นพยานในการเดินทางมาพบของเอกชัย และโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ ด้วย

ต่อมาวันนี้ เวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เอกชัย และโชคชัย ได้เดินทางไปพบกับ พล.ต.นพ. เหรียญทอง เพื่อสอบถามกรณีการแสดงความคิดเห็นของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ในเฟสบุ๊ค ท่ามกลางกลุ่มประชาชนที่มาค่อยดูแล พล.ต.นพ.เหรียญทองจำนวนหนึ่ง โดยบทสนทนาทั้งหมดมีดังนี้

ทำไมหมอเหรียญทองชอบไล่ล่าคนที่พูดถึงสถาบัน พร้อมติดป้ายไม่จงรักภักดี

เอกชัย : แรกเริ่ม หลังการสลายการชุมนุมปี 53 คุณก็เริ่มเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ ม.112 ไล่ล่า ชี้เบาะแส ให้ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะเรื่อง ม.112 ซึ่งอันนี้ผมอยากตั้งคำถามว่า 1.ทำไมคุณถึงมีอคติกับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ม.112 เพราะผมเองก็เคยโดนคดีม.112 ก็เลยอยากถามในส่วนนี้ว่า เพราะรู้สึกว่าคุณอคติเหลือเกินกับคนที่พูดถึงสถาบัน หรือแม้แต่คนที่พูดเรื่องการเลือกตั้ง คุณก็จะมีความพยายามที่พาดเกี่ยวให้ได้ว่ามันเป็นการเมือง

หมอเหรียญทอง : ขอตอบให้ประชาชนได้รับฟังนะครับ พอดีว่านายเอกชัยถามผมว่า ทำไมถึงมีอคติกับคนที่มีเกี่ยวกับคดีม.112 (พยายามที่จะยัดเยียดว่ามันเกี่ยวกับม.112 ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกตั้งอย่างเช่นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยมหาสารคามที่ผ่านมา -เอกชัยกล่าวเสริม) คุณอ่านหรือยังว่าเขาโพสต์เรื่องอะไร คุณช่วยเปิดทวนใหม่มา

เอกชัย : การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญกว่าพิธีใดๆ อะไรประมาณนี้

หมอเหรียญทอง : ผมขอให้ประชาชนรับฟังผมตอนนี้เลยนะครับ ผมไม่ได้ต่อต้านคุณว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่เลื่อนเลือกตั้ง ผมกำลังบอกว่าจะเลื่อนเลือกตั้ง จะคัดค้านหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าได้แขวะเรื่องของพระราชพิธี การที่อาจารย์วินัยพูดว่า การเลือกตั้งสำคัญกว่าพิธีใดๆ ผมได้ขอว่าช่วยชี้แจงเพิ่มเติมด้วย แต่เขาได้ปิดเฟสบุ๊กหนีทันที นี่หมายความว่าอะไร (อันนี้ต้องไปถามเขา -เอกชัย) นี่ไง มันไม่มีความบริสุทธิ์ใจ (คุณรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่บริสุทธิ์ใจ -เอกชัยถาม) ผมไม่รู้ ผมจึงขอให้เขาพิสูจน์ นี่แหละว่าทำไมผมถึงชัดเจนเรื่องมาตรา 112 จริงๆ ที่คุณพูดว่าผมมาพูดเรื่องนี้ตอน 2553 ขอโทษครับ ผมเพิ่งมาพูดเมื่อตอนปี 2557 นี่เอง

เอกชัย : ไม่สิครับ ตอนนั้นเรื่องของคุณที่ตั้งกลุ่ม ไม่กี่วันที่คุณ ไม้หนึ่ง ก.กุนทีจะเสียชีวิต มันก่อนที่ผมจะเข้าเรือนจำเสียอีก (ปี 57 -หมอเหรียญทองสวน) ผมเข้าเรือนจำ 56 (ปี 56 ผมยังไม่ได้ตั้งองค์กรเลย -หมอเหรียญทองปฏิเสธ)

หมอเหรียญทอง : เอาล่ะ มาพูดกันว่า ทำไมผมถึงต้อง ม.112 กันดีกว่า ผมขอให้ประชาชนได้รับรู้และรับทราบว่า ผมเกิดบนแผ่นดินไทย ตั้งแต่ต้นตระกูลผมอาศัยใต้ร่มพระบารมีของกรุงรัตนโกสินทร์ ภายใต้พระมหากษัตริย์ ประเทศไทยนี่เป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 1.ตระกูลผมสอนว่า ไม่ให้เนรคุณ แล้วผมก็ไม่ได้เนรคุณ และอันที่ 2.ผมเป็นทหาร ผมถวายสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล ‘ข้าพระพุทธเจ้าจะปกป้องพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้า และข้าพระพุทธเจ้าจะถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจนชีวิตหาไม่’ ผมถวายสัตย์ปฏิญาณอย่างนี้ เพื่อจิตวิญญาณของผม เพราะฉะนั้น ผมไม่ได้ยัดเยียดอะไรกับใครเลย ปัญหาคือ พฤติกรรมที่ออกมาเสียดสี ส่อเสียดเนี่ย มันเกิดขึ้น แล้วคุณจะให้ผมทำอย่างไร?

เอกชัย : พฤติกรรมอะไร อย่างที่คุณพูดเนี่ย หมายถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ว่าคนอื่นเนี่ย อย่างการเลือกตั้ง หรือชุมนุม’คนอยากเลือกตั้ง’ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณก็ไปตั้งว่า ‘ไอ้พวกคลั่งประชาธิปไตย ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่’

หมอเหรียญทอง : เอาล่ะ ผมจะตอบให้ฟัง ผมใช้คำว่า ‘คลั่งประชาธิปไตย’ ผมใช้โดยเจตนาและสติสัมปชัญญะอย่างลึกซึ้งและคุณควรอ่านให้จบด้วย ‘คลั่งประชาธิปไตย อย่างไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้ความบังควร’ คุณจะคลั่งประชาธิปไตยอะไรหรือไม่ นั่นก็คือการกล่าวหาของผม

เอกชัย : แล้วคำว่า ‘ไม่รู้กาลเทศะ’ มันหมายถึงอะไร

หมอเหรียญทอง : วันนี้ ราชการเขาจะเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ ผมไม่สน พวกคุณจะต่ออะไรไหม ผมไม่สน แต่อย่ามาได้แขวะงานพระราชพิธี

เอกชัย : เราไม่ได้ต่อต้าน แต่เราบอกว่า การเลือกตั้งให้เกิดขึ้นก่อนราชาภิเษก (ผมก็ไม่ได้ว่า -หมอเหรียญทอง) อ่าว แล้วคุณมาว่า ‘อย่าคลั่งประชาธิปไตย’  คือตอนแรกผมบอก กกต. ว่า ถ้าคุณยึดโรดแมปเลือกตั้ง วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทุกอย่างจะเสร็จไม่เกิน 26 เมษายน นั่นก็แปลว่า ทันพระราชพิธี นี่มันจึงไม่ได้เกี่ยวกับพระราชพิธี แล้วทำไมคุณถึงพยายามที่จะลากมาเกี่ยว ลากว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มันกระทบกับพระราชพิธีด้วย

หมอเหรียญทอง : ที่พวกคุณหมายความว่า การเลือกตั้งสำคัญกว่าพิธีใดๆ มันแปลว่าอะไร

หมอเหรียญทองเผยชอบ มาตรา 112 เพราะปกป้องสถาบันฯ

เอกชัย : ผมไม่รู้ว่าเขาหมายถึงพิธีการไหนนะ การเลือกตั้งก็คือส่วนการเลือกตั้ง อันนี้คุณก้ต้องถามเขา (เขาปิดเฟสนี่ -หมอเหรียญทอง) งั้นคุณก็ต้องถามเขา ที่ผมมาวันนี้ ผมถามแต่แรกชัดเจนแล้วว่า 1.ทำไมคุณถึงมีความอคติกับม.112 (ผมไม่ได้อคติกับ ม.112 ผมชอบสิ -หมอเหรียญทอง) แล้วชอบยังไง

หมอเหรียญทอง : ก็ ม.112 ปกป้องพระมหากษัตริย์ผม (ผมหมายถึงว่า ม.112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อย่างที่คุณไม่ชอบหน้าใคร คุณก็จะมีอคติตรงนั้น แล้วคุณก็จะยัดเยียด ม.112 ให้ -เอกชัย) ผมไม่ชอบหน้าคุณ ผมทำอะไรคุณหรือเปล่า พอคุณไม่ทำผิด ผมก็ไม่ได้ว่าเรื่อง ม.112 เกี่ยวกับคุณ (แล้วคนอื่นล่ะ เขาก็ไม่ได้ทำผิด คุณก็พยายามที่จะแขวะเขาว่าเกี่ยวข้องกับ ม.112 อย่างที่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม -เอกชัย) คุณก็ยัดผมไป

เอกชัย : คุณนั่นแหละ ที่ยัดเขา เพราะล่าสุดคุณกดดันกระทรวงศึกษาธิการ ว่าจะต้องจัดการเขา ที่คุณบอกว่า ถ้าไม่จัดการเขา คุณจะบุกไปหาเนี่ย (เขากำลังจัดการครับ ผมจึงไม่ได้ไป -หมอเหรียญทอง) ไม่รู้ แต่หมายความว่าอย่างนี้ คือ การคุกคามหรือเปล่า แล้วคุณบอกว่าการที่ผมมาที่นี่เป็นการคุกคาม ทั้งๆ ที่ผมมากันแค่สองคน มันจะถูกเรียกว่าคุกคามอย่างไร

หมอเหรียญทอง : วันนี้คุณมากันสองคน ผมก็ไม่คุกคามไง แต่ถ้าคุณมากันหลายคน คุณก็ลองดู ถ้าไม่มากก็แล้วไป คุณไม่ได้มีค่าสำหรับผมเลย 

เอกชัย : คุณมาแขวะ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งมานาน ผมก็รู้สึกถึงอะไรที่ชอบกล คุณมีอคติอะไรกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง

หมอเหรียญทอง : เนี่ยมีคนอยากเลือกตั้งตั้งเยอะแยะ(ชี้ไปที่คนมารับฟัง) แต่เขาไม่ได้แขวะพระราชพิธี

เอกชัย : แต่คนที่มาประท้วงที่สกายวอล์คเนี่ย เขาก็ไม่ได้แขวะ แล้วคุณมาบอกว่าเขาคลั่งประชาธิปไตย มันหมายความอะไร

หมอเหรีษญทอง: มันคือคนบางคนในกลุ่มพวกคุณที่ชอบแขวะ (แต่คุณเหมารวมที่กระทบกับคนอื่น -เอกชัย) เอางี้ไม่เป็นไร คือก่อนอื่นอยากให้ทุกท่านทราบว่า 1.ผมมียศเป็นพลตรี แต่ผมไม่ใช่ทหารประจำการ ผมก็มีความเป็นพลเรือนเท่ากับเขา 2.ผมไม่ใช่คสช. 3.ผมก็ไม่ใช่คณะรัฐประหาร ผมไม่ใช่ผู้มีอำนาจรัฐ แต่วันนี้ที่ผมออกมา ก็เช่นเดียวกันกับพวกคุณที่ออกมาต่อสู้ ผมก็ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมไม่ได้ยัดเยียดใคร คุณกำลังป้ายสีผมว่าผมยัดเยียดคนอื่น (คุณพยายามยัดเยียดคนอื่น ถ้าเขาผิดจริงๆ ป่านนี้ตำรวจก็ไปจับเขาแล้ว -เอกชัย) เอาล่ะ ที่ผมไปป้ายสีเนี่ย มีใครถูกจับหรือยัง

เอกชัย : ก่อนหน้านี้ ปี 58-59 ที่คุณไปแจ้งความเขาอ่ะ (อ่ะ นั่นก็จริง -หมอเหรียญทอง) จริงไม่จริงไม่รู้ แต่คุณพยายามที่ monitor เรื่องพวกนี้เป็นพิเศษ

หมอเหรียญทอง : เอาจริงๆนะ ถ้าคุณพยายามที่ยั่วยุผมเนี่ย แต่ผมเป็นคนควบคุมอารมณ์ได้ (ไม่ต่างกันหรอก -เอกชัย) เอาล่ะๆๆ เอาคำถามที่คุณจะถามต่อมา

คนหมิ่นสถาบันฯ ไม่รักษา เพราะเป็นควายในร่างคน และถือเป็นขยะ

เอกชัย : ข้อสอง พฤติกรรมของคุณหลายๆ อย่าง เช่น คนไข้ ที่เป็นควายในร่างคนเอย คุณไปบอกว่าคุณฝันว่าได้เสพสังวาสกับหญิงสามานย์เอย รวมทั้งล่าสุดเนี่ย คุณเรียกผมว่า ‘ไอ้กุ๊ย’ ขอถามหน่อยนะว่า พฤติกรรมหยาบคายอย่างนี้ มันเหมาะสมอย่างคน เอ่ออ อย่าว่าแต่เป็นผู้อำนวยการเลย แม้แต่หมอธรรมดาๆ ที่พูดกับคนไข้อย่างเนี่ย มันเหมาะสมหรือไม่ (ไม่เหมาะสม -หมอเหรีญทองตอบ) อ่ะแล้วถ้าไม่เหมาะสม แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้ (เพราะผมคือผม -หมอเหรียญทอง) อ่ะ งั้นผมขอมอบของ ก็ในเมื่อคุณเรียกผมว่า ‘ไอ้กุ๊ย’ (กางกระดาษที่เขียนว่า ‘หมอ ปากหมา’ ชูให้นักข่าว) มอบให้กับคุณหมอเหรียญสลึง ‘หมอ ปากหมา’ ผมตั้งฉายาไว้ให้ (อ่ะๆๆ ก็ปล่อยให้คุณก่อกวนไปเรื่อยๆ -หมอเหรียญทอง) ก็ในเมื่อคุณเรียกผมว่า ‘ไอ้กุ๊ย’ (มีผู้คนตะโกนว่า ไอ้กุ๊ย)

*หมอเหรียญทอง รับกระดาษ และฉีก “ผมรับไว้แล้วนะครับ” ก่อนที่จะโยนทิ้งใส่เอกชัย และเสียงปรบมือรอบๆ เสียงชื่นชมหมอ หมอสู้ๆ ดังรายรอบ*

โชคชัย : ผมมาในวันนี้ เพื่อชี้แจงและต้องคุยกันว่าในเวลานี้ว่า ควรที่จะมีการเลือกตั้งก่อนหรือหลังพระราชพิธี วันนี้ผมขอยืนยันชัดเจนว่า ผมอยู่ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สมควรอย่างยิ่งที่ประเทศจะต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย จัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อันเป็นพิธีมหามงคลยิ่งแก่ปวงชนชาวไทย เพื่อสมพระเกียรติแก่พระองค์ท่าน ประเทศไทยไม่เคยขาดพระมหากษัตริย์แม้แต่วันเดียว แต่ประเทศไทยวันนี้ขาดระบอบประชาธิปไตยมา 4 ปี 8 เดือนแล้ว สมควรเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ที่จัดพิธีแก่พระองค์ท่านอย่างสมพระเกียรติ ผมยืนยันตามนี้

หมอเหรียญทอง : เอาล่ะ ขอให้นักข่าวบันทึกเสียงผมด้วย และทั้งสองฝ่าย จริงๆ แล้วผมลงมาเนี่ย มาเสียเวลา ตอนแรกผมไม่รู้หรอกว่า นายเอกชัยจะมา ผมไม่ได้รู้ว่า ‘ไอ้กุ๊ย’ จะมาแต่แรก (คุณก็เรียกไอ้กุ๊ย แบบนี้ ผมก็จะเรียกคุณว่า ควายในร่างหมอ -เอกชัย) เอาล่ะๆ ผมไม่รู้ว่า ’ไอ้กุ๊ย’ จะเป็นเอกชัยหรือเปล่า ผมไม่อยากต่อความยาวอะไรมากหรอก ผมจะขอตอบของน้องโชคชัย วันนี้เนี่ย ผมขอเรียนต่อประชาชนว่า ผมไม่ได้เป็นอะไรกับรัฐบาลชุดนี้ ถึงผมจะเป็นทหาร แต่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ อะไร หรือใน สนช. ใดๆ ทั้งนั้น แต่ผมขอบอกว่า เวลาที่ผ่านมา 4 ปี 8 เดือน มันไม่ได้เป็นระบอบประชาธิปไตยตรงไหน วันนี้คุณด่าผู้มีอำนาจรัฐ เขาทำอะไรท่านตรงไหน ผมเป็นประชาชน ผมไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอะไรเลย แล้ว รมต.ยุติธรรม ท่านก็ยังมาว่าผม ผมก็ไม่เห็นเป็นไร ผมก็คัดค้านท่าน นั่นไงประชาธิปไตย

จะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่เป็นประชาธิปไตย ผมไม่ทราบนะครับ แต่ผมขออย่างเดียวว่าอย่าทำอะไรที่มันส่อเสียดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ท่านจะเลือกตั้งอย่างไร จำไว้อย่างเดียว คนชื่อเหรียญทองเนี่ย ถ้าแตะสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมถือ แล้วคนอย่างผม จะมีกี่คนผมไม่สนนะคุณเอกชัย ผมก็เป็นอย่างเนี่ย ผมตอบคุณไป คุณไม่เคลียร์ ต้องให้เคลียร์ คุณต้องการให้ผมตอบ ผมก็ตอบ ที่ผมมาตอบกลางแจ้ง ก็เพราะอยากให้ประชาชนได้รับรู้ ผมมีจุดยืนชัดเจน ผมถามท่านว่า ถ้าท่านเป็นผม เป็นตำรวจ ทหาร ถวายคำสัตย์ปฏิญานแม้แต่ข้าราชการพลเรือนก็แต่ วันนี้เราถวายสัตย์เราทำตามจริงไหม สำหรับผม ผมทำเต็มร้อย ขอให้คุณทราบ แล้วผมก็เป็นอย่างนี้ ไม่ว่าอย่างไร กี่ปี กี่ชาติ ผมก็ทำ ผมต่อสู้กับกลุ่มขบวนการที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ คุณจะไปปกป้องเขาคุณก็ทำ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร คุณก็อยู่คนละฝั่งกับผม ผมก็ชัดเจนตรงนี้

คุณบอกว่า ผม ‘หมอ ปากหมา’ เนี่ย ขอโทษนะ ผมก็เป็นอยู่อย่างนี้ ไอ้ที่ร่างอวตารเข้ามาเขียนด่าผม ผมก็เฉยๆ ผมเจอมาเยอะแล้ว ผมเป็นทหารไม่ได้ใจเสาะ ไม่ได้จิตฝ่อ ทหารดีของพระเจ้าอยู่หัว กองทัพของภูมิพลมหาราชไม่เป็นอย่างนี้และจะสานต่อถึงจอมทัพองค์ปัจจุบันด้วยว่าจะปกป้องท่านอย่างนี้

เอกชัย : ผมได้ยินมาว่าคุณไม่เคยผ่านสนามรบอะไรเลย ผมก็สงสัยว่าความกล้าหาญของคุณ มันระดับไหน (คุณได้ยินมาจากไหนว่าผมไม่เคย -หมอเหรียญทอง) ที่คุณไม่ได้ผ่านสนามรบ ไม่ได้ปกป้องร.9 อะไรสักอย่างเนี่ย (เอ้ย ไอ้คนเนี่ย มั่วนะครับ -หมอเหรียญทอง) แล้วคุณผ่านที่ไหน

หมอเหรียญทอง : ผมเคยผ่านสนามรบนะครับ เชียงคำ ครับ โธ่ ไม่รู้อะไรก็พูดไปเรื่อย เอาล่ะๆ ประชาชนวันนี้ฟังนะครับ คนนี้พูดอะไรมั่วๆ ผมเป็นนายทหารปฏิบัติการชายแดน ชุดควบคุมทหารพรานที่ 31 นะครับ รบกับชายแดนไทย-ลาวตอนนั้น ที่มีปัญหาตอนนั้น (ตอนนั้นทหารไทยแพ้ -เอกชัย) นี่ไง เขาก็เหยียดหยามทหารอย่างนี้ (แพ้ก็คือแพ้ -เอกชัย)  

และน้อยมาก ที่โรงพยาบาล ผมแบ่งชนชั้นจริงหรือเปล่าครับ ? ผมถามแค่นี้ (ชนชั้น ควายในร่างคนเนี่ย ถือว่าแบ่งชนชั้นไหม-เอกชัย) ควายในร่างคนเนี่ย ไม่เคยแบ่งชนชั้นเลย ผมแยกประเภทเป็นพิเศษ (หมายความว่า คนประเภทนี้ คุณจะไม่รับการรักษา -เอกชัย) ถ้าพิสูจน์ว่าเป็นควายในร่างคน ก็เป็นขยะ

เอกชัย : รู้สึกว่ามันควรเป็นจรรยาบรรณแพทย์ไหม เพราะคุณมีการแบ่งชนชั้น หรือแม้แต่ในสงคราม ศัตรู คุณก็ต้องรักษาเขา แต่นี้คุณกลับเหยียดชนชั้นและแบ่ง ที่คุณพูดว่า ควายในร่างคน จะไม่รักษา คุณพูดเองนะ

หมอเหรียญทอง : คุณรู้มั้ยว่า คนอย่างพวกคุณ ที่โพสต์ในพันทิปมั่ง โพสต์กันว่า จะไม่มารับการรักษาในโรงพยาบาลนี้  โรงพยาบาลพิษบ้าง โสโครกบ้าง ร้องเรียนสำนักงานบัตรทอง ร้องเรียนประกันสังคมบ้าง ว่าเราทำโน่นนี่นั่น ผมโดนประจำ ผมบอกอย่างนี้เลยว่าคนพวกนี้จิตใจไม่บริสุทธ์ ผมจึงบอกว่า อย่ามารับการรักษาที่นี่ก็แล้วกัน โรงพยาบาลนี้จะไม่รับการรักษา’ควายในร่างคน’

เอกชัย : ถ้าคุณไม่ชอบเขา คุณไม่จำเป็นต้องเหยียดเขา ‘ควายในร่างคน’ เลยนี่

หมอเหรียญทอง : ทำไมต้องไปเชื่อคุณอ่ะ ผมก็เป็นผมอย่างนี้

จรรยาบรรณแพทย์ ไปถามหาจากเเพทยสภา 

เอกชัย : อย่างนี้คุณก็ไม่มีจรรยาบรรณแพทย์นะสิ มีการแบ่งชนชั้นคน

หมอเหรียญทอง : ก็คุณบอกว่า สิทธิเสรีภาพ ผมก็เป็นเงี่ย (ใช่ สิทธิเสรีภาพ แต่นี่เรื่องของจรรยาบรรณแพทย์ -เอกชัย) คุณก็ไปถามแพทยสภาแล้วกัน (แล้วคำว่า ‘หญิงสามานย์’ล่ะ -เอกชัย) ก็มันเลวอ่ะ

เอกชัย : แล้วการที่คุณไปสมสู่ผู้หญิงเนี่ย คุณเลวไหม? (ผมสมสู่ คนดีๆ ไง -หมอเหรียญทอง) อ่าว แล้วคุณบอกว่า คุณได้สมสู่ผู้หญิงสามานย์ ก็ถือว่าคุณก็เป็นชายสามานย์่ดิ ?

ประชาชนคนอื่น : คุณๆ พูดอย่างนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เพราะอะไรรู้มั้ย คนอย่างคุณเนี่ย ไม่น่าไปโพสต์ด่าอะไร คนโน่น คนนี้ (ตกลง พี่จะว่าไง -หมอเหรียญทอง) คุณควรอยู่เฉยๆดีที่สุด (จะให้ผมอยู่เฉยๆ พี่ ผมปกป้องพระเจ้าอยู่หัว คุณอย่าโลกสวยกับผมนะ -หมอเหรียญทอง)

*ชาวบ้านตะโกนว่า มันนานแล้ว คนไข้เดือดร้อนไปสองคนแล้ว*

โชคชัย : เอาเป็นว่า เข้าเรื่องเถอะนะ นี่เสียเวลามามากแล้ว

ทำไมต้องเอาพิธีบรมราชาภิเษกมาผูกโยงกับการเลือกตั้ง

เอกชัย : คำถามที่สาม ทำไมคุณต้องเอา ราชาภิเษกกับการเลือกตั้ง มาเปรียบเทียบกันว่าอันไหนควรอันไหนมิบังควร ทั้งๆ ที่มันคนละเรื่องกัน

หมอเหรียญทอง : ผมไม่ได้เปรียบเทียบ ผมแค่บอกว่า พระบรมราชาภิเษกมันสำคัญยิ่ง (ก็นี่ไง ก็คือการเอามาเปรียบเทียบกับการเลือกตั้ง -เอกชัย) พวกคุณต่างหากที่เอามาเปรียบเทียบ (พวกผมไม่นะ ไม่เคยพูดถึงเลย -เอกชัย) อ่ะๆ ก็แล้วไป

โชคชัย : ผมขออนุญาตพูดเลยนะครับ (ทำไมถึงรีบตัดบทอ่ะ -หมอเหรียญทอง) มันใช้เวลามากแล้ว และขอบคุณมากนะครับ ที่ให้เราใช้พื้นที่ในโรงพยาบาล อยากให้เรียนอย่างนี้นะ อยากให้สังคม สังคมทั้งประเทศนะ และสื่อมวลชน วันนี้เราควรทราบได้แล้วว่า พระราชพิธีเป็นคนละส่วนกัน หน่วยงานที่จัดก็เป็นคนละส่วนกัน การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต. การเลือกตั้งในประเทศไทยสามารถจัดได้ก่อน ระยะเวลาในการจัดสามารถประกาศผลได้ก่อนพระราชพิธี ถ้า คสช. ตั้งใจที่จะมีการเลือกตั้งจริง ก็สามารถทำได้ สามารถได้รัฐบาลใหม่ก่อนพิธีฯ เสียอีก วันนี้อยากให้สังคมไทยตั้งสติ เรื่องแบบนี้ มันคนละอย่างกัน และไม่อยากให้ประชาชนบางส่วนเกิดความกลัวว่า ถ้ารณรงค์การเลือกตั้งก่อนพระราชพิธีเนี่ยจะเป็นเรื่องมิบังควรแก่สถาบัน มันคนละส่วนกันจริงๆ นะครับ ถ้ารัฐบาลคสช. ตั้งใจจริงๆ เราก็จะมีรัฐบาลใหม่ทันก่อนพระราชพิธีอย่างแน่นอนครับ

หมอเหรียญทอง : เอาล่ะ อย่างนี้ ผมไม่ใช่ คสช. แต่ขอพูดแทนคสช. การจัดการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของ กกต. ดังนั้น คสช.ไม่เกี่ยว

เอกชัย : เกี่ยวสิ เพราะพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งยังไม่ลงมา จะจัดการเลือกตั้งไม่ได้

หมอเหรียญทอง : ผมไม่เกี่ยว คุณมาหาเรื่องผมทำไมว่ะ

เอกชัย : คำถาม คือ ถ้าไปดู งานพระบรมราชาภิเษกของ ร.9 ที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลรัฐประหาร จอมพล ป. พิบูลสงครามเนี่ย มันอาจจะเป็น ลาง อะไรบางอย่าง ทำให้ประเทศวังวนอยู่กับการรัฐประหาร หลายสิบครั้ง ตลอดรัชกาลที่ 9 แล้วตอนนี้เป็นช่วงรัฐบาลรัฐประหาร แล้วในวันที่พระราชพิธีฯ เนี่ย ถ้ามันอยู่ในรัฐบาลรัฐประหาร ระหว่างรัฐบาลประชาธิปไตย คุณอยากเห็นว่ามันควรอยู่ในรัฐบาลไหน?

หมอเหรียญทอง : ผมไม่เห็นอะไร ผมคิดว่าเป็นเรื่องของรัชกาลปัจจุบันที่จะกำหนดเพียงเท่านั้น ผมหมายถึงว่า จะเป็นรัฐบาลอะไร ผมไม่สน (ถ้าอยู่ในรัฐบาลรัฐประหารจะอัปมงคลหรือเปล่า - เอกชัย) ผมไม่คิด ผมไม่คิดว่ารัฐบาลของพลเอกประยุทธ์จะอัปมงคล ผมไม่คิด! แล้วผมก็ไม่คิดว่ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้งจะอัปมงคล ผมคิดแค่ว่า งานพระราชพิธีฯ ที่ทรงตั้งกำหนดการวันที่นั้น จะต้องเป็นไปตามบังควรก็เท่านั้นเอง (แล้วมิบังควรอย่างไร ก็ไม่เห็นมิบังควร -เอกชัย) ก็ มีพฤติกรรมอะไรมาอย่างนั้น ผมก็ตัดสิน ก็เรื่องของผม อะไรก็แล้วแต่ ผมอยู่อย่างนี้ ก็บ้านผม

เอาล่ะไม่เป็นไร นี่คือสถานการณ์ยั่วยุ เราไม่หลงกล ผมขอยืนยันตรงนี้ครับ ผมไม่มีวันเปลี่ยนแปลงจุดยืนของตัวเอง ผมจะปกป้องพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้า และข้าพระพุทธเจ้าจะถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จากจอมทัพเก่า จนมาถึงจอมทัพใหม่ และอนาคต สิ่งเหล่านี้คนไทยทั้งชาติต้องปลูกฝังต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน

*เสียงปรบมือ*

เอกชัย : คุณไม่ชอบคนแบบนี้ และถ้ามีโอกาส คุณก็จะจัดการคนเหล่านี้ (ถูกต้อง -หมอเหรียญทองตอบ)  ต่อให้จะดูรุนแรง ทำเกินไป หรือแม้แต่แสดงความเห็น อาจจะไม่ได้ต้องการหมิ่น ดูแล้วก้ำกึ่ง คุณก็จะไม่ยอมรับมัน (ใช่ ถูกต้อง -หมอเหรียญทอง) แสดงว่าคุณไม่เคารพต่อความคิดเห็นที่ต่างจากคนอื่น ที่เขาอาจจะไม่ได้คิดเห็นแบบเดียวกันกับคุณ

หมอเหรียญทอง : ถูกต้อง ผมจะเคารพความเห็นต่าง ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้อย่างไร ผมไม่สน ผมไม่สนเรื่องอื่น แต่ถ้าเห็นต่างเรื่องพระเจ้าอยู่หัวผมสน แล้วผมจะเอาเรื่อง!

เอกชัย : แสดงว่า คุณยอมรับว่าตัวเองเป็นคนคลั่งเจ้า รุนแรงชนิดที่ว่าไม่มีเหตุผล

*ช้าวบ้านตะโกนเข้ามาแทรก แต่หมอเหรียญทองห้ามปรามไว้*

หมอเหรียญทอง : ถูกต้อง คุณจะบอกว่าผมคลั่งเจ้าไม่คลั่งเจ้า หรืออย่างไร ผมไม่สน ผมไม่เป็นไร ผมคลั่งเจ้า ผมก็ไม่ทำร้ายเจ้านี่ เพราะฉะนั้น ผมก็เป็นอย่างนี้ ประชาชนอื่นๆ อย่างผมก็เป็นอย่างนี้ และอีกเยอะ ผมยอมรับความเห็นต่าง ผมยอมรับ ยกเว้นเรื่องเดียวเรื่องการส่อเสียด หมิ่นเหม่พระบรมเดชานุภาพหรือสถาบันพระมหากษัตริย์ จำไว้ด้วย สำเหนียกไว้ด้วย

*ชาวบ้านแทรกอีกครั้ง*

หมอเหรียญทอง : ปล่อยให้เขาพูด ให้เขาได้เผยธาตุแท้ของเขา

เอกชัย : สรุปคือ พฤติกรรมหยาบคายของคุณเนี่ย คุณยอมรับว่าเป็นกมลสันดานของคุณ และจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด คุณจะเหยียดคนไข้ เหยียดเพศหญิง ทุกอย่างที่คุณอยากจะเหยียด ไม่แคร์อะไรเลย (ผมไม่ได้เหยียดคนไข้นะครับ ผมเหยียดควายในร่างคน -หมอเหรียญทอง) มันคือคนไข้ที่มาหาคุณไง แล้วคำว่า ‘หญิงสามานย์’ คุณก็เอามาใช้เหยียดผู้หญิง

หมอเหรียญทอง : ‘หญิงสามานย์’ เนี่ย คือหญิงที่สามานย์ หญิงที่ดีๆ ผมก็ไม่ได้ไปเยียด

เอกชัย : การที่คุณไปนอนกับผู้หญิงคนไหน คุณไปเรียกว่า หญิงสามานย์ ทำไมคุณถึงไม่เรียกตัวเองว่าเป็น ‘ชายสามานย์’ ด้วยล่ะ ? (ผมไปนอนกับผู้หญิงคนไหน ผมก็ไม่ได้บอกว่าเป็นหญิงสามานย์ -หมอเหรียญทอง) แต่คุณบอกว่า ในความฝันของคุณมีอะไรกับหญิงสามานย์ (อ่ะๆ วันนี้ผมยอมลดตัวมาเจอกับขยะ -หมอเหรียญทอง) ผมต่างหากที่ลดตัวมาเจอกับสิ่งปฏิกูลอย่างคุณเนี่ย

หมอเหรียญทอง : ให้คุณเอกชัยได้เต็มที่ ไม่ต้องเคลียร์ ไม่ต้องคัด วันนี้ให้สื่อมวลชนได้เห็นธาตุแท้ของผม ผมเป็นอย่างนี้ กมลสันดานของผมจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ จะปกป้องจะจงรักภักดีที่ผมมีต่อพระเจ้าแผ่นดิน พระบรมวงศานุวงศ์ จะเป็นเรื่องเลวทรามอย่างไรก็แล้วแต่จะคิด ผมก็เป็นอย่างนี้อ่ะ ผมก็เชื่อว่าคนในชาติก็เป็นอย่างผมไม่น้อย ผมไม่ได้บอกว่าทั้งหมด ผมพูดแทนคนที่มีความรู้สึกอย่างผม ผมพูดหมดวันนี้ ผมจะไม่พูดตอบในคอมเมนท์ในเฟส ผมออกมาพูดเหมือนในวันนี้ทุกอย่าง ผ่านสื่อวันนี้ สื่อกรุณาถ่ายทอดให้หมด ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจ หรือชีวิตจนหาไม่ การปกป้องพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้า และข้าพระพุทธเจ้าจะถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจะยังคงยืนหยัดต่อไป

*ชาวบ้านปรบมือ*

เอกชัย : ขอสรุปอีกครั้ง ว่า การมีอยู่ของพระราชบรมราชาภิเษกที่จะมีนี้ คุณจะไม่แคร์ว่ามันจะอยู่ในช่วงรัฐบาลไหน ประชาธิปไตย หรือรัฐประหาร ถึงแม้ว่าประวัติศาสตร์ที่ผ่าน ในรัชกาลที่ 9 ที่มีพระราชพิธีในยุคของรัฐบาลรัฐประหาร จอมพล ป. พิบูลสงคราม ทำให้เป็นอัปมงคล วังวนอยู่กับการรัฐประหารมาหลายสิบครั้งก็ตาม คุณก็ไม่แคร์

หมอเหรียญทอง : ผมไม่เชื่อว่ามันจะวังวน ผมไม่รู้ๆ ผมเชื่อแค่ว่า พวกหมิ่นคือพวกอัปมงคล (คนหมิ่นคือพวกอัปมงคล อัปมงคลอย่างไร? -เอกชัยถาม) ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องอธิบายให้คุณรู้ว่าอัปมงคลคืออะไร

เอกชัย : อ๋อ เป็นแบบเดียวกันกับที่คุณไม่ยอมอธิบายถึงกมลสันดานของตัวเองที่ชอบเหยียดคนโน่น คนนี้เป็นยังไง (ใช่ โอเค -หมอเหรียญทอง) โอเคเลยครับ คุณมีอะไรจะถามผมอีกมั้ย

หมอเหรียญทอง : ผมไม่มีอะไรจะถามคุณ เพราะคุณไม่ใช่คนที่ผมอยากจะถาม ผมไม่เอาราคากับคนอย่างคุณ (ผมก็ไม่ให้ราคาคนอย่างคุณเหมือนกัน -เอกชัย)

โชคชัย : ผมขออนุญาตตรงนี้นะครับ (อ่าว โชคชัยทำไมคุณรีบตัดบทอ่ะ -หมอเหรียญทอง) ผมยืนยันว่า คนที่อยากจะรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งก่อนพระราชพิธี ก็คือคนที่จงรักภักดีตลอดนะครับ  (พอๆๆ นี่คือคนฉวยโอกาสที่จะพูดเรื่องเลือกตั้งนะครับ -หมอเหรียญทอง) ถึงแม้ว่าประชาชนจะออกมาพูดให้มีรัฐบาลใหม่ก่อน นั่นก็คือคนที่จงรักภักดีเหมือนกันนะครับ สำหรับวันนี้ก็ขอบพระคุณ พลตรี เหรียญทอง ที่ออกมาให้เวลามากนะครับ ถือว่าวันนี้ได้คุยกันมาเยอะ จริงๆ ได้หลายคำถาม และเหลืออีกหลายคำถาม เดี๋ยวไว้เขียนขึ้นบนเฟสบุ๊คก็ได้ครับ

หมอเหรียญทอง : ขอบคุณมากครับ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท