8 องค์กรสิทธิฯ ค้านรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง คุมม็อบ

สืบเนื่องจากกรณีรัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ในเขตพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1-10 สิงหาคม นี้ ด้วยเหตุผลเพื่อดูแลความสงบ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม

(1 ส.ค.56) องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 8 องค์กร ประกอบด้วย สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม, สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน, ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม, มูลนิธิผสานวัฒนธรรม, ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น, มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และ มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ออกแถลงการณ์คัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงของรัฐบาล โดยชี้ว่า การประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงดังกล่าวไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และเป็นการกระทำที่ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่า กลุ่มผู้ชุมนุมย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมภายใต้รัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

นอกจากนี้ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั้ง 8 องค์กร ได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในเขตต่างๆ และขอให้ใช้อำนาจบริหาร ตามเจตนารมณ์ของหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน ในการจัดการกับการชุมนุมของประชาชนโดยเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ

 

แถลงการณ์
การคัดค้านการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

ตามที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ในเขตพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ถึงวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556 โดยการอ้างเหตุว่า ได้มีกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มปลุกระดมมวลชนให้เข้าร่วมการชุมนุม หรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันอาจทำให้เกิดความไม่สงบสุขในบ้านเมืองนั้น

สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและองค์กรข้างท้ายนี้ ขอคัดค้านการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.การประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงของรัฐบาลไม่เป็นไปเจตนารมณ์ของกฎหมาย

โดยที่พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรของรัฐบาล พ.ศ. 2551 มาตรา 15 ได้ให้อำนาจรัฐบาลในการประกาศใช้กฎหมายนี้ได้ต้องเป็นกรณีที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และเหตุการณ์นั้นมีแนวโน้มที่จะมีอยู่ต่อไปเป็นเวลานานทั้งอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานของรัฐหลายหน่วย โดยมีความมุ่งหมายเป็นการจัดการกับสถานการณ์ที่มีแนวโน้มที่จะจัดการไม่ได้โดยภาวะปกติ หรือโดยกลไกปกติ ดังนั้น การประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงต้องมีเหตุเกิดขึ้นก่อนและเหตุการณ์นั้นมีแนวโน้มที่จะมีอยู่ต่อไปเป็นเวลานาน แต่การที่รัฐบาล อ้างเหตุว่า การชุมนุมของกองทัพประชาชนหรือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเป็นเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยยังไม่มีเหตุการณ์การชุมนุมเกิดขึ้นแต่อย่างใด จึงเป็นการใช้อำนาจเกินความจำเป็นและเกินสมควรสมควรแก่เหตุ เนื่องจากกลไกตามกฎหมายที่มีอยู่ตามปกติก็เพียงพอที่รัฐจะสามารถจัดการณ์ให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบได้อยู่แล้ว  จึงไม่มีเงื่อนไขที่จะประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแต่อย่างใด การประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงของรัฐบาลจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ

2.การกระทำของรัฐบาลเป็นการไม่เคารพต่อรัฐธรรมนูญ

กลุ่มผู้ชุมนุมย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมภายใต้รัฐธรรมนูญ ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 63 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. 1966 ข้อ 21 การที่ประชาชนใช้เสรีภาพดังกล่าว รัฐบาลจะกล่าวอ้างว่าเป็นภัยคุกคามต่อรัฐบาลไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกล่าวอ้างเหตุผลว่าผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล  ถ้ารัฐบาลจัดการกับความเห็นที่แตกต่างด้วยการใช้มาตรการนี้ ย่อมเป็นการหยุดยั้งการใช้เสรีภาพของประชาชนโดยปกติ ซึ่งเป็นกลไกที่ไม่ควรมีและไม่อาจยอมรับได้ในสังคมประชาธิปไตย อีกทั้งการชุมนุมย่อมไม่ได้คุกคามต่อความอยู่รอดของชาติ หรือเป็นอาชญากรรมที่จะเป็นภัยต่อรัฐบาล

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและองค์กรข้างท้ายนี้ จึงขอเรียกร้องและขอเสนอแนะให้รัฐบาล

1.ยกเลิกการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ในเขตพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

2.ใช้อำนาจบริหาร ตามเจตนารมณ์ของหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน ในการจัดการกับการชุมนุมของประชาชนโดยเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ

ด้วยความเคารพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW)
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.)
ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ศกส.)
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF)
ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น
มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม (MAC)
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท