Skip to main content
sharethis

‘เฉลิม’ เสนอ กกต. จัดลต.จว.ละคน+คัดเลือกจากผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ได้รวม 99 คน แก้ไขรธน.และทำประชามติ คู่ไปกับลต. ยันไม่เหมือนกับแนวคิดของ กปปส. ด้าน ปชป.เริ่มเดินสายแจงพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศพรุ่งนี้

1 ม.ค.2556 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณี กปปส.ประกาศปิด กทม.หลังวันปีใหม่ ว่า รู้สึกเป็นห่วง แต่ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบ แนะนำได้ว่าให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งการเดินทางมาร่วมประชุม ศอ.รส.วันนี้ (1 ม.ค.) เพราะนายกรัฐมนตรีเชิญมา ซึ่งจะเสนอต่อที่ประชุมว่าให้ตั้งสภาปฏิรูป โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ดำเนินการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คนและคัดเลือกจากผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ ให้ได้รวม 99 คน เพื่อทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเมื่อร่างเสร็จแล้วให้ทำประชามติเพื่อถามประชาชน โดยสภาดังกล่าวสามารถทำควบคู่ไปพร้อมกับการเลือกตั้งได้ ทั้งนี้วิธีการดังกล่าวเป็นไปตามกลไกของกฎหมายมีสภารองรับ ไม่เหมือนกับแนวคิดของ กปปส.

ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. แสดงความเห็นในลักษณะไม่อยากให้จัดการเลือกตั้งนั้น  ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งหากไม่อยากเป็นขอให้ลาออกไป ทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเอง และหากเลือกตั้งแล้วไม่สามารถได้ ส.ส.ครบตามจำนวนที่จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ กกต.ยังมีเวลา 180 วัน จัดการเลือกตั้ง แต่ถ้าเกินกว่านั้นยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะยังอ่านกฎหมายไม่พบ

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการพบคลิปภาพชายชุดดำที่ดาดฟ้าอาคารในกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2556 ว่า อาคารดังกล่าวใครขึ้นก็ได้ ซึ่งไม่มีตำรวจที่ไหนจะยิงประชาชนได้

 

ประชาธิปัตย์เริ่มเดินสายแจงพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศพรุ่งนี้

วันเดียวกัน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในปี 2557 นี้ พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะเป็นปีแห่งการปฏิรูปประเทศ ลดการเผชิญหน้า โดยจะปฏิรูปสังคมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการปฏิรูประบบราชการ เพื่อให้ข้าราชการเป็นลูกจ้างของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือในการเดินหน้าปฏิรูปในครั้งนี้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยควรให้ความร่วมมือกับการปฏิรูปประเทศตามป้ายหาเสียงที่มีอยู่ในขณะนี้ ซึ่งสามารถเริ่มดำเนินการได้เลยด้วยการยอมเสียสละปลดล็อกเงื่อนไขการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปฏิรูปไม่สามารถเดินหน้าได้ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ยังคงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการยึดและช่วงชิงอำนาจไว้ โดยไม่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ประเทศตึงเครียดมากขึ้น เข้าสู่ภาวะสุญญากาศในการเลือกตั้ง เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร ส.ส.ระบบเขต แต่มีกว่า 30 เขตที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง รัฐบาลจึงไม่ควรดันทุรังต่อไป

นายชวนนท์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้สั่งให้สมาชิกพรรคจับตาดูการเลือกตั้งในพื้นที่ต่างๆ แต่ไม่ให้สมาชิกคนใดเข้าไปขัดขวางการเลือกตั้ง และขอให้รวบรวบข้อมูลการใช้อำนาจรัฐที่เข้าข่ายทำผิดการเลือกตั้ง เพื่อมอบให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยเฉพาะการรับสมัคร ส.ส.เขตที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ เพราะชัดเจนว่ามีคำสั่งจากฝั่งรัฐบาลให้ใช้กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 เป็นที่รับสมัคร มีการอำนวยความสะดวกให้ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเข้าไปในช่วงดึก และนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับออกมาแบบวีไอพี ทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสเหนือพรรคการเมืองอื่น

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. บอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็น แสดงว่าฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงให้ดำเนินการอย่างนี้ ซึ่งการที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ และ กปปส.มีส่วนรู้เห็นในการขัดขวางการเลือกตั้งนั้น ถือว่าไม่เป็นความจริง สิ่งที่พรรคดำเนินการล้วนอยู่บนพื้นฐานกฎหมาย แต่นายจารุพงศ์ต่างหากที่ต้องระวัง เพราะทราบมาว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของกระทรวงมหาดไทย ไปกดดัน และอำนวยความสะดวก ถ้าพบว่าเป็นเรื่องจริง นายจารุพงศ์ จะต้องรับผิดชอบถูกดำเนินการด้วย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ใช้อำนาจรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สร้างความได้เปรียบทางการเมือง

นายชวนนท์ กล่าวว่า ในส่วนการดำเนินการปฏิรูปประเทศของพรรคประชาธิปัตย์นั้น จะเริ่มขึ้นในวันที่ 2 ม.ค. เวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค และคณะ จะเข้าพบกับองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศ เพื่อร่วมกันหารือถึงแนวทางการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น จากนั้นในวันที่ 3 ม.ค. จะเข้าพบสภาหอการค้าไทย วันที่ 7 ม.ค. พบสื่อมวลชน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยจะนำข้อมูลจากการพูดคุยทั้งสองวันมาให้สื่อมวลชนรับทราบ

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net