กกต. เตรียมเครื่องโหวตอิเล็กทรอนิกส์ต้นแบบ ที่เขตราชเทวี รองรับประชามติร่างรธน.

22 ก.ค.2558 สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการเลือกตั้ง ว่า ที่ประชุมพิจารณาเรื่องการเลือกตั้งด้วยเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะจัดทำแผนพัฒนาเครื่องลงคะแนนใน 3 ระดับ คือ ระยะสั้น 1 ปี ระยะกลาง 5 ปี และระยะยาว 10 ปี

“เพื่อให้ทันกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กกต.จะใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ต้นแบบ ในหน่วยออกเสียงประชามติ 2 หน่วย ในเขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงประมาณ 1,600 คน จะทำให้ผู้มาใช้สิทธิได้มีโอกาสเลือกรูปแบบการออกเสียง และเป็นการทดสอบระบบเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ ว่าสามารถตรวจสอบได้ และให้เกิดความไว้ใจ ซึ่งจะเป็นการโชว์ศักยภาพของหน่วยเลือกตั้งในอนาคต” สมชัย กล่าวว่า

สมชัย กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีการหารือถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นดาวเหนือในโทรศัพท์มือถือ ใช้งบกว่า 100,000 บาท เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง  สามารถโหลดแอพพลิเคชั่น แล้วกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ก็จะทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเลือกตั้ง ที่ตั้งหน่วย ลำดับการใช้สิทธิ์ รวมทั้ง แผนที่นำทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่บุคคลนั้นมีสิทธิ  แต่อาจจะใช้ได้ในเขตเมือง ไม่ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกล

“จะเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ให้เสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ และหากมีการทำประชามติในเดือน ม.ค. 2559 ก็จะเป็นครั้งแรก ที่ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติจะได้ใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าว และถือว่าเป็นประเทศแรกในโลก ที่ใช้แอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวก และลดความยุ่งยากให้กับผู้มีสิทธิออกเสียง” สมชัย กล่าว

มติเสนอ กมธ.ยกร่างฯ เพิ่มถ้อยคำให้ผู้ที่ถูกใบเหลือง-แดง ยุติปฏิบัติหน้าที่ทันที

ขณะที่วานนี้(21 ก.ค.58) สมชัย แถลงว่า ที่ประชุม กกต. มีมติให้ทำจดหมายถึงกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเนื่องจากพบว่ามีบางประเด็นสำคัญไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือ กรณีที่ กกต.มีมติให้ใบเหลือง-ใบแดงในการเลือกตั้ง

ซึ่งเดิมตามรัฐธรรมนูญ 2550 ระบุไว้ว่าเมื่อศาลรับคำร้องใบเหลือง-ใบแดงจาก กกต.แล้ว ส.ส. และ ส.ว.ที่ถูกร้องต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที ดังนั้น กกต. จะเสนอเรื่องนี้ไปยัง กมธ.ยกร่างฯ รวมทั้งจะให้หมายรวมถึงกรณีให้ใบเหลือง-ใบแดง ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเพิ่มเข้าไปด้วย

“ถ้าร่างฉบับนี้ไม่มีประโยคดังกล่าว ถ้าคนๆ นั้นได้เข้าสู่ตำแหน่งและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จะส่งผลเสียหายเป็นอย่างมาก อาจใช้ตำแหน่งหน้าที่ข่มขู่พยาน ยกตัวอย่างกรณีการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 คนที่ กกต. ให้ใบแดงอยู่ในตำแหน่งประธานรัฐสภา กว่าจะถูกศาลให้ใบแดงต้องใช้เวลาถึง 7 เดือน จนถึงขณะนี้ระยะเวลาผ่านมา 8 ปี คนที่เป็นพยานยังไม่สามารถกลับเข้าพื้นที่ได้ เป็นต้น” สมชัย กล่าว

ที่มา : สำนักข่าวไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท