ยังไม่เคลียร์ 'ศรีสุวรรณ' ร้องนายกฯ ตั้ง กก.อิสระที่ไม่มีทหาร สอบ ปม 'อมเบี้ยเลี้ยงทหาร'

สมาคมฯพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ร้องนายกฯ ตั้งคณะกรรมการอิสระจากบุคคลภายนอก(ที่ไม่มีทหาร) ตรวจสอบ ปม 'อมเบี้ยเลี้ยงทหาร' เผยหากไม่ทำจะร้อง สตง. และ ป.ป.ช. สอบสวนและไต่สวนกรณีดังกล่าว ด้านโฆษก ทบ. ยันเบี้ยเลี้ยงทหารเกณฑ์ไม่เกี่ยวนายพล 

ภาพจากเพจ “God Of War V.3” 

 

3 พ.ย. 2560 จากกรณีมีการโพสต์ข้อความเผยแพร่ทางโซเชียล เรื่องการหักเงินเบี้ยเลี้ยงทหารชายแดนภาคใต้มีข้อความ "ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ได้รับใช้ชาติ ถูกเอาเปรียบจากนายพลใหญ่  จนทำให้เหลือเงินเดือนเพียงหลักสิบและหลักร้อยบาทเท่านั้น"

วันนี้ (3 พ.ย.60) ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยแพร่แถลงการณ์ของสมาคมฯ เรื่อง ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการพิเศษจากบุคคลภายนอกตรวจสอบปัญหาการจ่ายเบี้ยเลี้ยงทหารในพื้นที่ภาคใต้ว่ามีการ “อมเบี้ยเลี้ยงทหาร” จริงหรือไม่

แถลงการณ์ระบุว่าถึงกรณีกระแสข่าวดังกล่าวนั้น กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้ แม้โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาแถลงแก้ต่างความว่า “ปกติเรื่องของเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนทหาร ในระดับหน่วยปฏิบัติส่วนใหญ่จะมีผู้บังคับบัญชาในระดับพันโท พันเอก เป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่ในระดับชั้นนายพล ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องสิทธิประโยชน์ของทหารนั้น ทางผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ โดยเน้นย้ำให้มีการดำเนินการอย่างเป็นธรรมโปร่งใส” รวมทั้งรองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าก็ได้ออกมาแถลงแก้ต่างด้วยในทำนองว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิกำลังพลมาโดยตลอดนั้

แถลงการณ์ของสมาคมฯ ระบุด้วยว่า การออกมาแถลงแก้ต่างของกองทัพบกยังไม่สร้างความกระจ่างให้เกิดขึ้นกับการรับรู้และการสร้างความเข้าใจกันของสังคมไทยได้ ยังมีข้อปลีกย่อย ข้อสงสัยอื่น ๆ อีกมากมายที่โฆษกกองทัพบกยังไม่อรรถาธิบายและสังคมไทยยังสงสัย เช่น งบทหารในแต่ละปีโดยเฉพาะภาคใต้มีเยอะมาก งบซื้ออาวุธของกองทัพก็ได้เพียบ แต่ทหารชั้นผู้น้อยที่อยู่ในพื้นที่สีแดงได้เบี้ยเลี้ยงตอบแทนกลับน้อยมาก และทำไมการตั้งเบิกจ่ายจึงล่าช้า ก็ไหนว่าเป็นยุคไทยแลนด์ 4.0 แล้ว และทำไมต้องหักยิบหักย่อย แม้แต่ค่ารถยังถูกหักเหมารวมเท่าๆ กันเป็นไปได้อย่างไร กรณีมีนายทหารชั้นใหญ่ ๆ ทั้งหลายถอยรถใหม่เอี่ยม ทำบ้าน ทำรถกันมากนั้นจริงหรือไม่

กรณีมีข้อครหาว่ามีการลาพักของทหารแต่ยังมีการตั้งเบิกและเซ็นต์รับเบี้ยเลี้ยงกันอยู่นั้นจริงหรือไม่ และเงินเหล่านั้นไปตกอยู่ที่ใครหรือไม่ ร้านค้าสวัสดิการใครเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นร้านค้าส่วนรวมได้มีการปันผลกำไรให้กับทหารชั้นผู้น้อยเหล่านี้หรือไม่ ถ้าไม่มีใครได้ประโยชน์ในเรื่องเหล่านี้ และกรณีที่เกิดขึ้นหากไม่มีปัญหาจริง ทำไมข้อมูลข่าวสารในทำนองนี้จึงเกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ ทั้งทหารชั้นผู้น้อยและทหารพราน ฯลฯ

แถลงการณ์ของสมาคมฯ ระบุอีกว่า กรณีดังกล่าว ถ้าไม่มีควันย่อมไม่มีไฟ สมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายออกมาพูดความจริงกันเพื่อนำไปสู่การป้องปรามและการสร้างขวัญกำลังใจของทหารบกและทหารพรานชั้นผู้น้อยในพื้นที่ และขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระจากบุคคลภายนอก(ที่ไม่มีทหาร)เข้าไปตรวจสอบไต่สวนข้อเท็จจริงว่ามีเหตุหรือพฤติการณ์ต่างๆ ตามที่สังคมครหาอยู่หรือไม่ เพื่อความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลในกองทัพและที่สำคัญจะได้ป้องกันปัญหาการเล่นพรรคเล่นพวกกันอีกด้วยและหากนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการใด ๆ ตามคำร้องนี้ สมาคมฯ จำต้องนำความไปร้องเรียนต่อ สตง. และ ป.ป.ช. สอบสวนและไต่สวนกรณีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไปด้วย

ผบ.ทบ.ยันเป็นเรื่องเข้าใจผิด 

Voice TV รายงานว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ชี้แจงว่า ทราบตัวทหารที่ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้องเรียนว่าถูกตัดเบี้ยเลี้ยงบนโลกออนไลน์แล้ว เป็นการโพสต์ข้อความที่ไม่ครบถ้วน และขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับทหารนายนี้แล้ว

สำหรับค่าตอบแทนของทหารในภาคใต้ ผบ.ทบ. ชี้แจงว่า จะเแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ เงินเดือนประจำและเบี้ยเลี้ยงปกติ กับเบี้ยเสี่ยงภัยหรือเบี้ยสนาม ซึ่งเบี้ยเสี่ยงภัยจะได้รับทุกๆ 25 วัน แต่กำลังพลชุดนี้ เพิ่งลงพื้นที่ไปปฏิบัติงานได้เพียง 20 กว่าวันเท่านั้น อีกทั้งเดือนตุลาคม เป็นช่วงเริ่มปีงบประมาณ ค่าเบี้ยเสี่ยงภัยจึงยังไม่ได้รับ

โฆษก ทบ. ยันเบี้ยเลี้ยงทหารเกณฑ์ไม่เกี่ยวนายพล 

ขณะที่วานนี้ (2 พ.ย.60) คมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. กล่าวถึง กรณีดังกล่าวว่า ปกติเรื่องของเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนทหาร ในระดับหน่วยปฏิบัติส่วนใหญ่จะ มีผู้บังคับบัญชา ในระดับพันโท พันเอก เป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่ในระดับชั้นนายพล ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องสิทธิประโยชน์ของทหารทางผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญโดยเน้นย้ำให้มีการดำเนินการอย่างเป็นธรรมโปร่งใส

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ต่อกรณีดังกล่าว ต้องไปดูข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีเกิดขึ้นจริงกับใครหน่วยไหนอย่างไร. เพราะในอดีตเคยมีทหารเหลือเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงน้อย แต่เมื่อมีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเกิดจากพฤติกรรมการใช้จ่ายของเจ้าตัวขณะอยู่ภายในหน่วย. ซึ่งกรณีนี้หากดูจากบัญชีจ่ายเบี้ยเลี้ยงในภาพประกอบยังไม่พบความผิดปกติ  จะเห็นตัวเลขรับมาเท่าไร หักค่าใช้จ่ายอะไรไป เหลือเท่าไหร่ ก็ตามมาตรฐานเกณฑ์กติกาที่ยอมรับกัน

"ขอเรียนว่าสำหรับพลทหารที่ปฏิบัติงานใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับค่าตอบแทนอยู่หลายส่วนนอกเหนือจากเบี้ยเลี้ยงแล้ว คือเงินเดือน เบี้ยเสี่ยงภัย เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว. รวมอีกราว 8,000-10,000 บาท  ซึ่งในประเด็นนี้อาจยังไม่ได้มีกล่าวถึง  ซึ่งข้อมูลที่ถูกหยิบนำเสนอนั้นยังไม่ครบถ้วนเป็นเพียงเฉพาะส่วนของเบี้ยเลี้ยงอย่างเดียว ขอยืนยันว่าหน่วยดูแลทหารอย่างดีที่สุดตามนโยบายของกองทัพ และพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บังคับบัญชาการทหารบก." พ.อ.วินธัย กล่าว

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามต่อกรณีนี้ ทุกหน่วยจะได้มีการตรวจสอบ ว่าประเด็นที่มีการถูกหยิบมานำเสนอนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร. เกิดขึ้นกับใครหน่วยไหนจริงหรือไม่อย่างไร. ยิ่งถ้าพบว่ามีการกระทำใดๆ ที่ดูไม่เป็นธรรมกับกำลังพลระดับพลทหารจริง ทางผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบ ตามลำดับชั้น คงจะต้องดำเนินเอาเรื่องให้อย่างแน่นอน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท