แรร์ไอเท็ม ผลโหวตสิ่งของแห่งปี 2017 'หมุดหน้าใส' ที่มาแทนหมุดคณะราษฎร เป็นอันดับ 1 ตามด้วย 'นาฬิกาหรู' ของ พล.อ.ประวิตร และกล้องวงจรปิดวิสามัญ 'ชัยภูมิ ป่าแส' ที่จนถึงทุกวันนี้สาธารณชนยังไม่เห็น แต่แม่ทัพภาพที่ 3 บอกว่า "ณ เวลานั้นอาจกดออโต้ได้"
29 ธ.ค. 2560 จากกรณีที่ประชาไทชวนแฟนเพจเฟซบุ๊กร่วมโหวตไอเท็มหรือสิ่งของแห่งปี 2017 ตั้งแต่วันที่ 25 - 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผลปรากฎว่ามีผู้โหวตให้ หมุดหน้าใส เป็นอันดับ 1 คือ 694 โหวต รองลงมาคือ นาฬิกาลุงป้อม ได้ 424 โหวต และ กล้องวงจรปิดวิสามัญชัยภูมิ ได้ 235 โหวต ส่วน เรือดำน้ำจีน และ บัตรคนจน ตามมาเป็นอันดับที่ 4 และ 5
หมุดหน้าใส
กรณีการหายไปของ ‘หมุดคณะราษฎร’ และถูกแทนที่ด้วย ‘หมุดหน้าใส’ ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่าน
ภาพหมุดใหม่ จากเฟซบุ๊กแฟนเพจ หมุดคณะราษฎร
มีการวิเคราะห์ว่า การหายไปของหมุดคณะราษฎร อันเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่
- หมุดคณะราษฏรถูกรื้อถอน พบหมุดใหม่ “ประชาชนสุขสันต์หน้าใส” มาฝังแทนที่
- เปิดภาพจากจุดเช็คอินลานพระ
บรมรูปทรงม้า ก่อนหมุดคณะราษฎรหาย - นิธิ เอียวศรีวงศ์: หมุดหาย อะไรโผล่
- รวมกรณีการถูกคุกคามก่อนหน้
าวันครบรอบ 85 ปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง - ขุดคุ้ยประวัติศาสตร์กับ 'ธำรงศักดิ์': หมุดคณะราษฎร ‘เสี้ยน’ ที่บ่งไม่ออก (สักที)
นาฬิกาลุงป้อม
นาฬิกาข้อมือราคาแพง ยี่ห้อริชาร์ด มิลล์ ปรากฎขึ้นมาหลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สวมใส่ถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีเมื่อ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนเกิดการตั้งข้อสังเกตุในโซเชียลเน็ตเวิร์ก พร้อมทั้งตรวจสอบพบว่าไม่มีในรายการทรัพย์สินที่แจ้งต่อ คณะกรรมการป้องกันะละกราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น โดยที่ต่อมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นาฬิกาและแหวนเป็นของเก่าเก็บที่มีมานานแล้ว ที่ผ่านมาสวมแหวนวงนี้มาโดยตลอด มีน้ำหนักเพียง 1 กะรัต แต่เมื่อวานนี้เป็นเรื่องบังเอิญที่แหวนกระทบกับแสงแดดจนเกิดแสงสะท้อนต่อหน้าสื่อมวลชนพอดี หลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์ สื่อมวลชนได้สอบถาม พล.อ.ประวิตร ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งตอบกลับมาว่า จะชี้แจงให้ ป.ป.ช. โดยไม่ต้องตอบสื่อมวลชน
นอกจากนาฬิกาที่ปรากฎในภาพถ่ายนั้นแล้ว ผู้ใช้เฟซบุ๊กยังมีการนำภาพ พล.อ.ประวิตร ในวาระอื่นๆ ซึ่งปรากฎเห็นนาฬิกาอีกหลายเรือน อีกด้วย และ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รั
ศรีสุวรรณ ชี้ด้วยว่า นอกจากกรณีนี้อาจมีลั
กล้องวงจรปิดวิสามัญชัยภูมิ
กล้องวงจรปิด กลายเป็นหลักฐานที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมจำนวนมาก จากกรณีของ ชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ อายุ 17 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญฆาตกรรม ณ ด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันคดีนี้กำลังอยู่ระหว่างไต่สวนการตาย ซึ่งทางสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความศูนย์พิทักษ์และฟื้
- ทนายครอบครัว ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ เผยยังไม่เห็น 'ภาพวงจรปิด' ในชั้นศาล
- เปิด Timeline จากปากคำชาวกองผักปิ้ง วัน ชัยภูมิ ป่าแส ถูกทหารวิสามัญฯ
- เปิดข้อมูลเจ้าของรถที่ "ชัยภูมิ ป่าแส" นั่ง-พบซื้อรถปี 58 ยังจัดไฟแนนซ์-ไม่มีข้อมูลต้องคดี
- กสม. แจงเงินของ 'ชัยภูมิ' มาจากธุรกิจกาแฟ จี้ผบช.ภาค 5 หากมีหลักฐานก็เปิดต่อสังคม
เรือดำน้ำจีน
ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน ซึ่งระบุเป็นเอกสารลับในราคากว่า 3.6 หมื่นล้านบาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ซึ่ง พล.อ.ประวิตร อธิบายว่า ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติจัดซื้อเรือดำน้ำมานานแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นการอนุมัติเงียบอย่างที่กล่าวอ้างกันแต่อย่างใด โดยการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะทางกองทัพเรือมีความต้องการมานานแล้ว เพื่อจะได้ใช้เป็นยุทธศาสตร์ 200 ไมล์ทะเลทางทะเลฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย เพื่อปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนิเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศติดกับทะเลต่าง ๆ ก็ต้องจัดหาเรือดำน้ำไว้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศ เช่นกัน
นอกจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความโปร่งใส ในประเด็นรัฐบาลไม่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนนั้น เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ชี้ว่าถือว่ามีปัญหาเรื่องความโปร่งใสแล้ว
ยังมีการตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการจัดซื้อด้วย เช่น 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การจัดซื้อดังกล่าวต้องคำนึงถึงว่าเมื่อมีเม็ดเงินจำกัด ฝ่ายบริหารต้องพิจารณาว่าจะใช้อะไรเป็นอย่างแรก เพราะทราบว่ารัฐบาลมีความจำเป็นถึงขนาดจะยอมยกเลิก 30 บาท แต่กลับไปซื้อเรือดำน้ำตรงนี้ก็ต้องพิจารณาว่าอะไรเร่งด่วนกว่ากัน และอะไรคือความคุ้มค่า ในภาวะเช่นนี้ ทั้งนี้ ในฐานะเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็เข้าใจในเรื่องความต้องการที่จะมีเรือดำน้ำไว้เพื่อป้องกันประเทศเพื่อความมั่นคง แต่วันนี้บ้านเมืองยังอยู่ในสภาวะปกติ อาจมีบางส่วนที่สามารถที่จะชะลอได้ แล้วนำงบประมาณนั้นไปใช้ในสิ่งที่เร่งด่วนกว่า ซึ่งในวันข้างหน้าหากมีงบประมาณและมีความสามารถในการหารายได้มากขึ้น มีงบประมาณเหลือเพียงพอ ก็สามารถที่จะซื้อสิ่งที่ต้องการหรือต้องใช้ในอนาคตได้ เพราะการซื้อเรือดำน้ำเป็นการซื้อที่มีภาระผูกพันในอนาคต เป็นภาระด้านงบประมาณรายจ่ายต่อปี ค่าบำรุงรักษา จึงเป็นภาระระยะยาว ยังไม่รวมถึงค่าบำรุงรักษา การฝึกยุทโธปกรณ์ต่างๆ และจำนวนเรือดำน้ำ ซึ่งต้องดูประกอบว่าน่านน้ำที่ต้องการจะต้องใช้กี่ลำ เท่าที่ทราบต้องมีเป็นชุดไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถทำงานป้องกันได้ ถ้าสั่งมาเพื่อทดสอบอย่างเดียวก็สามารถซื้อในช่วงที่ไม่เกิดภาวะเร่งด่วนหรือว่ารัฐมีเงินงบประมาณเหลือเพียงพอที่จะใช้ในส่วนนั้นได้ ดังนั้นสิ่งหนึ่งการใช้งบประมาณจะต้องคำนึงว่าเงินอะไรที่ใช้เร่งด่วนก็ต้องใช้สิ่งนั้นก่อน โดยเฉพาะความเป็นอยู่ เรื่องความจำเป็นในการบริหารบ้านเมืองและเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนจากนั้นสิ่งที่อยากได้ ก็จะเป็นความสำคัญอันดับสองรองลงมา ซึ่งฝ่ายบริหารเท่านั้นที่ต้องใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจเรื่องนี้
- ประวิตร แจงที่ไม่แถลงซื้อเรือดำน้ำ เหตุเป็นเอกสารลับ ย้ำดำเนินการโปร่งใส
- ศรีสุวรรณ มาแล้ว จ่อยื่น ผู้ว่า สตง. สอบปมจัดซื้อเรือดำน้ำจีน พรุ่งนี้
- ทีดีอาร์ไอระบุดัชนีคอร์รัปชั่นไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ซื้อเรือดำน้ำอาจมีปัญหาความโปร่งใส
- ปมซื้อเรือดำน้ำจีน 'พท.-ปชป.' ขอ รบ.ทบทวน อธิบายสังคมให้รอบคอบ
- ทหารเยี่ยมบ้าน 'ศรีสุวรรณ' หลังยื่นผู้ตรวจฯ สอบกองทัพเรือซื้อเรือดำน้ำผิด พ.ร.บ.งบประมาณ – รธน.
- เจาะดีลเรือดำน้ำ “ถูกและดีมีจริงหรือ” กองทัพมาก่อน ปากท้องมาทีหลัง
บัตรคนจน
